วันที่ 13 ก.พ. 67  ที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร. พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผบก.พฐก. เข้าตรวจสอบยาชนิดต่างๆ เกี่ยวกับทางคดีที่ส่งมาตรวจจาก กลุ่มงานตรวจยาเสพติด ที่เกี่ยวกับของกลางวัตถุออกฤทธิ์ ต่อจิตและประสาทที่เป็นสิ่งธรรมชาติหรือที่ได้จากสิ่งธรรมชาติ หรือวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทที่เป็นวัตถุสังเคราะห์

โดยสถิติของกลางวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ที่ส่งตรวจพิสูจน์ที่หน่วยงานในสังกัดสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ 3 ปีย้อนหลัง พบว่าปี 2564 มี 320 คดี ปี 2565 มี 319 คดี ปี 2566 มี 400 คดี และปี 2567 ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันมีมากถึง 54 คดี รวม 3 ปีย้อนหลังจนถึงปัจจุบันมีมากกว่า 1,093 คดี จะเห็นว่าแต่ละปีมีปริมาณคดีไม่น้อยกว่า 300 คดี ซึ่งตามสถิติพบว่า มีแนวโน้มการใช้วัตถุออกฤทธิ์ ในการกระทำความผิด เพิ่มมากขึ้น สำหรับพื้นที่ที่มีการใช้มากในแถบกรุงเทพมหานครฯ ซึ่งสถิติ 3 ปีย้อนหลังจนถึงปัจจุบันมีถึง 678 คดี

ทั้งนี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวต่อว่า คนร้ายจะใช้ยากับเหยื่อหวังก่ออาชญากรรม ไม่ว่าจะเพื่อรูดทรัพย์หรือล่วงละเมิดทางเพศ สำหรับตัวสารเคมีเราไม่สามารถเปิดเผยได้  จะทำให้มีพฤติกรรมการ เลียนแบบ

ขณะที่ยาเหล่านี้ จะรู้จักในกลุ่มที่ใช้ว่าเป็นยาเสียสาว จะมีอาการดังนี้ 1. ฤทธิ์ของยาที่ทำให้เกิดอาการมึนงง ง่วงซึม ไม่มีสติ หรือสลบไปได้ ทำให้รู้สึกเคลิ้มสุข 2. ออกฤทธิ์ได้รวดเร็ว ไม่เกิน 30 นาที หลังจากรับประทานยา 3. สามารถละลายได้ดีในน้ำ ในเครื่องดื่มต่างให้คนดื่มไปโดยที่ไม่รู้ว่ามีการผสมยาลงไป ซึ่งหากใส่ไปในเครื่องดื่มพวกแอลกอฮอล์จะยิ่งเพิ่มการออกฤทธิ์ 4. มีผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการสูญเสียความทรงจำไปชั่วขณะ จึงอาจทำให้เหยื่อไม่สามารถจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ยาเหล่านี้มีฤทธิ์การกดการหายใจ จนเกิดอาการโคม่าเสียชีวิตได้

ดังนั้นต้องเรียนรู้วิธีป้องกันตัวเอง โดยไม่ดื่มเครื่องดื่มหรือรับประทานอาหารจากคนแปลกหน้า โดยเฉพาะหากอยู่ในสถานที่ไม่น่าไว้วางใจ เช่น ในผับ ร้านอาหาร ทีมีความมืด โดยมีอาการเตือนที่บ่งบอกว่าอาจได้รับสารเหล่านี้ ดังนี้คือ มีอาการคลื่นไส้อาเจียน มึนงง เดินเซ หายใจลำบาก มีอาการคล้ายเมาสุรา จริงๆ แล้วสารเหล่านี้ไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป เนื่องจากเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภทที่มีการควบคุมการซื้อขาย แต่ในปัจจุบันพบว่ามีการลักลอบนำมาขายผิดกฎหมายโดยเฉพาะทางอินเทอร์เน็ต  จึงขอเตือนน้องเยาวชน ในช่วงวันวาเลนไทน์และช่วงอื่น ๆให้ระมัดระวังในการดื่มกิน กับคนที่พึ่งรู้จัก