ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลพยานหลักฐานในคดีที่เกิดขึ้น รวมไปถึงคำแถลงการณ์ของศูนย์ประสานงานด้านความมั่นคงปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศภาคการธนาคาร (TB-CERT) ภายใต้สมาคมธนาคารไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอยืนยันว่า แค่การรับโทรศัพท์ หรือการกดลิงก์เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถทำให้มิจฉาชีพดูดเงินในบัญชีของของท่านได้

แต่ที่ต้องกล่าวในอีกทางคือ การรับโทรศัพท์ การกดลิงก์นั้น ถือเป็นจุดเริ่มต้นให้มิจฉาชีพสามารถหลอกลวงท่านได้ โดยต้องมีพฤติการณ์อื่นร่วมนั้นเองหลักๆ มิจฉาชีพมักจะใช้ 3 วิธีในการหลอกลวงเหยื่อ 1. พูดให้เหยื่อโอนเงินให้เอง
2. พยายามหลอกถามข้อมูลเหยื่อเพื่อนำข้อมูลไปใช้เข้าถึงบัญชีบน Application ของเหยื่อ,3. หลอกล่อให้เหยื่อติดตั้งโปรแกรมควบคุมมือถือเพื่อโอนเงินออกเอง,4. หลอกล่อให้เหยื่อเผลอกดรหัสนิรภัย หรือ ข้อมูลสำคัญสำหรับโอนเงิน

ดังนั้นสิ่งที่มิจฉาชีพจะกระทำกับท่านเมื่อรับสายโทรศัพท์ของมิจฉาชีพคือ 1. พยายามสร้างความน่าเชื่อถือให้ตนเอง
,2. พยายามสนทนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ท่านไม่มีสมาธิจดจ่อกับข้อความที่ปรากฎขึ้นบนโทรศัพท์,3. เมื่อท่านเริ่มเคลิ้มตามไปกับมิจฉาชีพ มิจฉาชีพจะใช้จังหวะนี้ในการหลอกถามข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อใช้ในการเข้าถึงแอปบัญชีธนาคารของท่านอีกที

จากกรณีก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น “สายชาร์จดูดเงิน”, “ลิงก์ดูดเงิน“, “QR Code ดูดเงิน” และในกรณีล่าสุดบนหน้าข่าวในช่วงนี้คือ “รับสายเพื่อดูดเงิน” ล้วนไม่เป็นความจริง มิจฉาชีพต้องดำเนินการอีกหลายขั้นตอนกว่าที่จะสามารถขโมยบัญชีของเหยื่อได้ แนวทางการป้องกัน 1. ไม่ดาวน์โหลดติดตั้ง รวมถึงกดลิงก์ใดๆ โดยเฉพาะจากแหล่งที่ไม่รู้จักพร้อมให้ตรวจสอบลิงก์ก่อนกดทุกครั้ง ,2. ไม่สแกนใบหน้ากับโปรแกรมจากแหล่งอื่น ๆ นอกเหนือจากแหล่งที่ได้รับการควบคุมและรับรองความปลอดภัยจากผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการที่เป็น Official Store (App Store สำหรับ IOS และ Play Store สำหรับ Android เป็นต้น),3. เมื่อรู้ตัว หรือสงสัยว่ากำลังคุยกับมิจฉาชีพ ไม่แนะนำให้คุยต่อ เพราะอาจจะหลงเชื่อมิจฉาชีพ เนื่องจากมิจฉาชีพอาจจะมีข้อมูลจริงทำให้พูดคุยแล้วยิ่งหลงเชื่อ รวมไปถึงอาจเสี่ยงต่อการถูกนำเสียงไปใช้ปลอมเพื่อหลอกลวงผู้อื่นต่อ,4. หลีกเลี่ยงการใช้รหัสเดียวกันในการปลดล็อกอุปกรณ์ต่างๆ โดยเฉพาะรหัสเข้าแอปพลิเคชัน Mobile Banking เพื่อป้องกันการเผลอกดรหัสโอนเงินโดยไม่ตั้งใจ,5. หากมีข้อสงสัยใดๆ ให้โทรสอบถามที่เบอร์ทางการของหน่วยงานนั้นโดยตรง หรือโทรปรึกษาสายด่วนศูนย์ AOC 1441

หากพี่น้องประชาชนท่านใดตกเป็นเหยื่อโจรออนไลน์ สามารถแจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ (เฉพาะคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี) ที่เว็บไซต์นี้เท่านั้น www.thaipoliceonline.go.th