ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปคบ. พล.ต.ต.วิทยา  ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง, พ.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เกศะรักษ์, พ.ต.อ.ภาคภูมิ ศรีลาภะมาศ, พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ, พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว, พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ, รอง ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.พงษ์พันธ์ ศิริภัทรนุกุล ผกก.3 บก.ปคบ., พ.ต.ท.ธงฉาน ตันบุญเจริญ รอง ผกก.3 บก.ปคบ. พ.ต.ท.มงคล นนท์ธีระโรจน์ ประจำสบ.(3) บก.ปคบ.มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.เทพรัตน์ ศุกระกาญจน์ รอง ผกก.3 บก.ปคบ., ร.ต.อ.ธนภูมิศักดิ์ประศาสน์ รอง สว.กก.3 บก.ปคบ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.3 บก.ปคบ.ตรวจค้น/จับกุม บริเวณวัดในพื้นที่ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา
 
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อปี พ.ศ. 2558 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. ได้บุกทลายเครือข่ายแชร์ลูกโซ่รายใหญ่ บริษัท ยูฟันสโตร์ ซึ่งประกอบธุรกิจไม่ตรงตามที่จดทะเบียนเป็นบริษัทขายตรง และออกเงินสกุลดิจิทัล ชื่อ ยูโทเคน หลอกลวงประชาชน สร้างความเสียหายมูลค่าหลายพันล้านบาท โดย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคบ ได้สืบสวนติดตามเรื่อยมา

จนกระทั่งวันที่ 13 ก.พ. 67 ทราบว่า น.ส.มิ่งขวัญ (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2247/2564 ลง 30 ธ.ค. 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันกระทำความผิดการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันกู้ยืนเงินที่เป็นการฉ้อโก้งประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงประชาชนฯ” หลบซ่อนตัวอยู่ที่บริเวณวัดในพื้นที่อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา  จึงได้เดินทางมายังสถานที่ดังกล่าว

ปรากฎว่าพบแม่ชี มีตำหนิ รูปพรรณคล้ายกันกับ น.ส.มิ่งขวัญ ผู้ต้องหา พักอาศัยอยู่บริเวณสถานที่ดังกล่าว จึงได้เข้าทำการตรวจสอบพร้อมแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและขอทำการตรวจสอบ พบว่าบุคคลดังกล่าว คือ น.ส.มิ่งขวัญ ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดียูฟันจริง จึงได้แสดงหมายจับให้กับผู้ต้องหาดูและอ่านจนเข้าใจดีตลอดแล้ว จึงยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับจริงและไม่เคยถูกจับตามหมายดังกล่าวมาก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้จับกุมตัวและควบคุมผู้ต้องหา นำส่ง พงส. บก.ปคบ. เพื่อดำเนินตามกฎหมายต่อไป