วันที่ 15 ก.พ.2567 เวลา 17.20 น.ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่ประชุมสภาฯลงมติให้ส่งรายงานผลการพิจารณาศึกษาญัตติเรื่องการศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (โครงการแลนด์บริดจ์)ให้รัฐบาลเสร็จ

 นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯคนที่สอง กลับมาทำหน้าที่ประธานในการประชุมอีกครั้ง และกำลังจะเข้าสู่วาระการพิจารณาเรื่องใหม่ ปรากฏว่า นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ได้ลุกขึ้นตำหนิการกระทำของนายพิเชษฐ์ในช่วงเช้าที่ผ่านมาระบุว่าทำหน้าที่เป็นกลางในการอนุญาตให้นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นำรูปนายชาดาที่ถ่ายคู่กับกลุ่มศปปส. มาประกอบการอภิปรายในญัตติด่วนเรื่องมาตรการรักษความปลอดภัยขบวนเสด็จ

โดยนายชาดา กล่าวว่า ไม่เคยต่อว่านายพิเชษฐ์ลำเอียงในการทำหน้าที่ สิ่งที่ตนพูดไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ถือว่าจบแล้ว แต่นายพิเชษฐ์ไม่จบมาพูดต่อในที่ประชุมอีก การที่นายพิเชษฐ์อ้างว่า ระเบียบข้อบังคับการประชุมสภาฯให้นำภาพของตนมาอภิปรายได้นั้น ได้พิจารณาหลักเกณฑ์เรื่องกฎหมายพีดีพีเอหรือไม่ หรือจะลองให้ตนฟ้องดู คำพูดนายพิเชษฐ์แสดงว่า ไม่ต้องการจบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าแต่นายพิเชษฐ์ ไม่สนใจ และดำเนินการประชุมต่อ ทำให้นายชาดา พูดเสียงดังสวนมาทันทีว่า “ประธานอยากคุยกับผมข้างนอกใช่ไหมครับ” ทำให้นายพิเชษฐ์ โต้กลับเสียงดังว่า “เดี๋ยวผมทำหน้าที่ของผมก่อน ผมไม่ใช่นักเลง ไม่ใช่เจ้าพ่อ” ทำให้สส.ในห้องประชุมร้องเสียงฮือดังลั่นห้อง

จากนั้นนายชาดา กล่าวตอบโต้กลับว่า ประธานพูดเอง แล้วใครนักเลง ขณะที่นายพิเชษฐ์ก็โต้กลับว่า “เดี๋ยวผมทำหน้าที่เสร็จแล้วเจอกันข้างนอก” ซึ่งนายชาดาก็ตอบกลับว่า “ครับ ตอนไหนก็ได้ สำหรับผม แต่ประธานพูดเองว่าเจอกันข้างนอก”

พร้อมกับขอให้นายพิเชษฐ์ถอนคำพูด “นักเลง” ซึ่งนายพิเชษฐ์ยอมถอนคำพูด แต่ยังพูดต่อไปว่า “แล้วไปเจอกันข้างนอก” ก่อนจะตัดบทเข้าสู่วาระการประชุมต่อไป ระหว่างนั้นสส.รวมไทยสร้างชาติ เสนอให้ปิดประชุม เพราะบรรยากาศห้องประชุมไม่ดี แต่นายพิเชษฐ์ บอกว่า ไม่ปิดใครไม่พอใจก็กลับก่อน ทำให้สส.พรรคก้าวไกลไม่ยอมขอให้ประชุมต่อ ซึ่งนายพิแชษฐ์ก็ดำเนินการประชุมต่อไป