วันที่ 16 ก.พ. 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 15 ก.พ. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เปิดโอกาสให้ทุกหน่วยงานในที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยนายกรัฐมนตรีรับฟังและให้โอกาสแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ 

นายชัย กล่าวว่า นายกฯ รับฟังทุกความคิดเห็นเพื่อต้องการให้โครงการดิจิทัลวอลเล็ต มีข้อสรุปที่ดีที่สุด โปร่งใส เหมาะสม ได้ประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชนมากที่สุด ซึ่งในที่ประชุมได้มีการแสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง หลายส่วนระบุว่าเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัว ตัวเลขทางเศรษฐกิจชี้ว่ายังไม่กลับมาเติบโตเท่าช่วงก่อนโควิด หรือการฟื้นตัวของแต่ละกลุ่มไม่เท่ากัน ประชาชนมีรายจ่ายจากหนี้สินทำให้ไม่มีรายได้เหลือเพียงพอซื้อสินค้า ในมุมมองของผู้ขายไม่มีเม็ดเงินให้นำมาขยายกิจการ หรือพัฒนาสินค้า SME ไม่เติบโตเท่าที่ควร หากเป็นเช่นนี้ต่อไปจะทำให้เกิดปัญหาระยะยาว 

นายชัย กล่าวว่า การแก้ปัญหาในช่วงเวลาที่ผ่านมาด้วยการเยียวยา ไม่ใช่วิธีที่แก้ปัญหาได้ รัฐบาลจึงควรหาวิธีใหม่ โดยมีการระบุว่า เงินอัดฉีดเข้าระบบจึงเปรียบเสมือนการช่วยชีวิตประชาชน เพื่อให้ต่อยอด ให้ฟื้นตัวในการดำรงชีวิต มีวิถีชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งในส่วนของการพัฒนาด้านดิจิทัลหลายส่วนงานมองว่า จะเป็นโอกาสให้ไทยได้พัฒนาโครงสร้างการเงิน เสริมสร้างรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล โดยประชาชนไทยจะได้เรียนรู้การใช้งานเทคโนโลยี ดิจิทัล ต่อยอดจากโครงสร้างเดิมที่มีมา 

นายชัย กล่าวว่า ในที่ประชุมจึงได้มีมติให้ทุกส่วนศึกษา พิจารณา ถึงข้อห่วงกังวลที่เกิดขึ้น และนำมาหารือกันอีกครั้ง เพื่อให้การดำเนินนโยบายนี้เป็นไปอย่างได้ประโยชน์สูงสุด และโปร่งใสที่สุด โดยนายกฯ เน้นย้ำว่า ตลอดเวลาลงพื้นที่อย่างหนักเห็นแววตาประชาชน ต้องการช่วยเหลือให้วิถีชีวิตประชาชนดีขึ้น โดยอีกประเด็นสำคัญคือต้องการให้ดำเนินนโยบายนี้อย่างเปิดเผย โปร่งใส สง่างาม ไม่ต้องการให้มีข้อกังวลใจว่าเป็นนโยบายที่เอื้อไปสู่การทุจริต และต้องการให้เป็นโอกาสของไทยในการเรียนรู้ เท่าทันที่จะใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน