วันที่ 16 ก.พ.67 ที่กองบังคับการกฎหมายและคดีตำรวจภูธรภาค 1 นายวีระ นาทรัพย์ หรือบอยพัทยา พร้อมทนายความ เดินทางเข้าให้ปากคำตามเวลาที่นัดหมายกับทางชุดพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำในคดี 140 ล้าน ในความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายฯ โดยมีนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ ในฐานะหัวหน้าชุดคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวนและ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผช.ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ร่วมฟังการสอบสวนใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง

ต่อมาเวลา 15:30 น. นายบอย ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ตนเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา แต่ตนได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา เพราะตนไม่เคยกักขังหน่วงเหนี่ยว บังคับขู่เข็ญใคร

นอกจากนี้ นายบอย ยังพูดถึงการทำงานของชุดทำงานชุดแรกว่า ตนไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกกดดัน และชี้นำ และยังมีการบังคับให้ตนเซ็นรับทราบในสิ่งที่ตนไม่ได้ทำ อีกทั้งยังให้ตนพาดพิงถึงบุคคลอื่นด้วย ตนเคยร้องขอความเป็นธรรมไปแล้ว แต่กลับไม่มีโอกาสได้ชี้แจงถึงเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้น และวันนี้ตนรู้สึกดีใจที่เปลี่ยนชุดทำงาน และได้มีโอกาสให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา ตนถูกข่มขู่มาตลอด ธุรกิจเสียหาย ไปไหนมาไหนรู้สึกอับอาย แถมคนรอบข้างที่ไม่เกี่ยวข้องยังเกือบซวยไปด้วย 

ส่วนก่อนหน้านี้ที่ตนออกนอกประเทศไปนั้น ยอมรับว่ามีการออกนอกประเทศจริง แต่ตอนนั้นยังไม่มีหมายจับ ตนออกไปเพราะตนมีธุรกิจ พอกลับมาไทยจึงทราบว่ามีหมายจับ ตนจึงประสานขอมอบตัว ซึ่งตนเองก็มั่นใจในชุดทำงานชุดใหม่ และในอีก 15 วัน ตนจะเดินทางมายื่นพยานหลักฐานให้กับพนักงานคณะพนักงานสอบสวน

พร้อมรับว่ารู้จักกับผู้การอดีตผู้การชลบุรีแต่ไม่สนิทกัน นับถือเป็นผู้ใหญ่ที่เคารพ เจอกันตามงานสังคมทั่วไป / ส่วนนายเป้ ตนเพิ่งมารู้จักกัน และได้พูดคุยกันบ้าง และรู้ว่านายเป้ทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไรเพียงเท่านั้น / ส่วนนายต้นยืนยันว่ารู้จักในที่เกิดเหตุก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน