วันที่ 18 ก.พ.2567  เมื่อเวลา 10.25 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง พร้อมด้วยนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต. ประจำสำนักนายกฯ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม เดินทางถึงวัดถ้ำผาแด่น ตำบลดงมะไฟ อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร  โดยนายกฯร่วมพิธีมอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ที่ดินเพื่อกิจการสาธารณูปโภคและกิจกรรมอื่นๆ ในเขตปฏิรูปที่ดินและพูดคุยประเด็นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดสกลนครให้เป็นการท่องเที่ยวเชิงศาสนา 

โดยเมื่อนายกฯ เดินทางมาถึงศาลาอุดมสมบูรณ์  กราบสักการะหลวงพ่ออุดมสมบูณ์ พระประธานองค์ลอยในพระอุโบสถวัดถ้ำผาแดน ก่อนที่นายกฯจะกราบนมัสการพระครูปลัดอุดมวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดถ้ำผาแด่น   จากนั้นนายกฯมอบหมายนางพวงเพชร ถวายหนังสืออนุญาต ให้ใช้ที่ดินเพื่อกิจการสาธารณูปโภคและกิจกรรมอื่นๆ ในเขตปฏิรูปที่ดินให้กับพระสงฆ์จ.สกลนคร จำนวน 10 วัด

จากนั้นนายกฯเดินไปยัง จุดชมวิววัดผาแด่นซึ่งมองเห็นทิวทัศน์ ของเทือกเขาภูพานพื้นที่ของการสู้รบในอดีต  โดยนายกฯ กล่าวว่า เทือกเขาภูพานเมื่อสมัยก่อนเป็นพื้นที่ที่ไม่มีสันติภาพมีการสู้รบ สงครามคอมมิวนิสต์มาตลอด แต่วันนี้ผ่านไปกว่า 30 ปีแล้ว ซึ่งสันติภาพเป็นเรื่องที่เราอยู่กับมันมา และเป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้เรามาอยู่ตรงนี้ได้ และทำให้ประชาชนสามารถทำมาหากินได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องความไม่ปลอดภัย ก็อยากจะฝากไว้ว่าเรื่องสันติภาพ เป็นหน้าที่ที่ทุกคนต้องรักษาไว้ เพื่อความสมัครสมานสามัคคี ถ้าเราไม่อยากกลับไปสู่จุดนั้นอีก ทั้งนี้ วันนี้ที่นางพวงเพชร หนังสืออนุญาต ให้ใช้ที่ดินเพื่อกิจการสาธารณูปโภคและกิจกรรมอื่นๆ ในเขตปฏิรูปที่ดินมอบที่ดินให้กับพระพุทธศาสนาถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะชาวไทยทุกคนมีความเชื่อในพระพุทธศาสนา อยากให้เป็นศูนย์กลางในการหล่อหลอมจิตใจให้มีความรักความสามัคคีกลับมาสู่สันติภาพที่ยังยืน ซึ่งเป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคนที่ต้องรักษาสันติภาพไว้ ก็ขอพึ่งใบบุญพระพุทธศาสนาในเรื่องนี้ด้วย

ต่อมานายกฯ โพสต์ข้อความผ่าน X ระบุว่า "สกลนคร ควรเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนาของประเทศไทยเดินทางมา จ.สกลนครครั้งนี้ ทำให้ผมได้เห็นศักยภาพด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดด้วยตาตัวเองครับ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงศาสนา เช่น วัดถ้ำภูผาแด่น นี้ที่นี่บรรยากาศดี มองลงไปข้างล่างเห็นวิวเมืองสกลนครที่สวยงาม เหมาะกับการเดินทางท่องเที่ยว พักผ่อน ทำให้ผู้คนที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนาเดินทางขึ้นมาปฏิบัติธรรมเป็นจำนวนมาก" 

นายกฯ ระบุว่า ขอให้จังหวัดสกลนคร กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ส่งเสริมให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ตนยังคาดหวังให้การยกระดับการท่องเที่ยวเกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ เริ่มตั้งแต่การทำนุบำรุงศาสนสถาน แหล่งท่องเที่ยวและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง และมีการเดินทางเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวที่สะดวกสบาย

ต่อมาเวลา 11.30 น.  นายกฯและคณะเยี่ยมชมพื้นที่ต้นแบบในการแก้ไขปัญหาคุณภาพดิน การจัดการแหล่งน้ำของศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่อาคารสัมมนา 1 ต.ห้วยยาง อ.เมืองสกลนคร และชมนิทรรศการศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทั้งนี้นายกฯยังได้ถ่ายภาพกราฟฟิตี้หรือภาพขีดเขียนภาพลงบนผนังเป็นที่ระลึก 

นายกฯกล่าวระหว่างเยี่ยมชมร้านจำหน่ายสินค้าของศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน โดยฝากเครือเซ็นทรัลหากเป็นไปได้ให้นำสินค้าไปต่อยอดนำสินค้าไปวางขายที่ต่างประเทศ  อย่ามัวแต่รอขอให้เร่งรีบ เพราะตอนนี้เป็นช่วงของประเทศไทยและประเทศไทยเปิดแล้ว ขอให้ช่วยกันต่อยอดโครงการพระราชดำริ ที่ผลิตโดยพี่น้องประชาชนคนไทยเพื่อเชิดหน้าชูตา ผู้ประกอบการก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย 

นอกจากนี้ นายกฯได้เยี่ยมชมสินค้าการเกษตรของพี่น้องเกษตรกรในโครงการ โดยเห็นว่าผักเคลที่นำมาแปรรูปมีประโยชน์ เป็น เข้ามา Superfood ที่ฝรั่งชอบมาก รับประทานแล้วมีประโยชน์ น่าจะตรงกับความต้องการของตลาดต่างประเทศ  แต่เบื้องต้นอยากให้นำไปวางจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตของไทยก่อนอย่างเช่น ท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ต  พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้ให้กำลังใจ พี่น้องเกษตรกรที่ช่วยกันปลูกผักเคล

จากนั้นนายกฯนั่งรถราง เพื่อมาเป็นประธานการประชุมหารือแผนพัฒนาและแก้ไขปัญหาของจังหวัดสกลนคร  

โดยนายกฯกล่าวตอนหนึ่งว่า  จากที่ท่านรายงาน 80% ของรายได้มาจากการเกษตรและสกลนครเป็นจังหวัดที่มีจีดีพีต่ำเป็นอันดีบ 15 ของประเทศ ทั้งนี้  การเกษตรเป็นเรื่องการบริหารจัดการเรื่องน้ำ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญและมากที่สุดคือเรื่องน้ำซึ่งรัฐบาลมีความตั้งใจดูแลเรื่องการบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เป็นประโยชน์กับประชาชน โดยจะต้องยกระดับศักยภาพระบบชลประทานของจ.สกลนครให้ครอบคลุมทั่วถึงและสามารถใช้ประโยชน์ได้ตลอดทั้งปี โดยที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดูแลเรื่องการบริหารจัดการเพื่อการเกษตร และให้ใช้พื้นที่อ.หนองหานให้เต็มศักยภาพ ให้กรมชลประทานปล่อยน้ำให้เกษตรกรมีน้ำใช้ตลอดปีและปรับเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวเข้าไปด้วยในเชิงศาสนา เมื่อมีการตกลงเรื่องการคืนพื้นที่แล้ว อย่าให้มีปัญหาเรื่องแนวเขต โดยขอให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดการก่อสร้างถนนทางหลวงหมาย 22ให้เสร็จและควบคุมการก่อสร้างเกิดความปลอดภัยให้กับประชาชน เนื่องจากมีความสำคัญในการเชื่อมโยงขนส่งระหว่างสะพานมิตรภาพ ที่จะเปิดขึ้นในปีนี้ ที่จังหวัดบึงกาฬไปยังภูมิภาคต่างๆ เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุ

นายกฯ กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องของโคขุน ซึ่งมีการพูดคุยกันเยอะถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะตลาดโลกมีความต้องการมาก โดยเฉพาะ สาธารณรัฐประชาชนจีน  ซึ่งในอดีตเรามีปัญหาว่าโคที่เราส่งไปขายที่เมืองจีนต้องไปพัก ตรวจโรคที่ประเทศลาว ซึ่งขณะนี้กระทรวงต่างประเทศได้มีการเจรจาและสามารถสร้างด่านกักกันที่นี่ ได้ตรวจและส่งจากที่นี่ไปได้ ทำให้การส่งออกไปยังประเทศจีนสามารถส่งออกไปได้ แต่ตนไม่อยากให้ดูแค่จีนอย่างเดียว  ทั้งนี่ โรงเชือดใหญ่ที่สุดอยู่ที่จ.ชุมพรประมาณ 200 ตัวต่อวัน ซึ่งได้มีการ ทำงานร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมพัฒนาให้มีการเชือดได้วันละ 1,000 ตัว ซึ่งการส่งไปขายเป็นตัวได้มูลค่าเพิ่มมากขึ้น  โดยตนดูโครงการพระราชดำริแล้วมีความเชื่อในความสามารถของเกษตรกรไทยที่สามารถเลี้ยงวัวได้และมีคุณภาพเทียบเท่ากับประเทศญี่ปุ่น

นายกฯ กล่าวอีกว่า การยกระดับจีดีพีของจังหวัดสกลนครไม่เพียงแต่โครงการพระราชดำริเรื่องของไก่ดำ ซึ่งตัวหนึ่งมีราคามากกว่าไก่ธรรมดาและมีความเชื่อว่าบำรุงสุขภาพได้ดีมีตลาดเยอะ จึงขอขอบคุณโครงการพระราชดำริที่ช่วยเป็นแหล่งเพาะบ่มความรู้และขยายให้กับเกษตรกร นอกจากนี้ยังมีเรื่องของแพะและกระต่ายอีก ตรงนี้หวังว่าจะมีการต่อยอดได้อีกมากมาย

สุดท้ายนี้จ.สกลนครมีผลิตภัณฑ์ที่ดีมากจากครามไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์จากการเกษตร ซึ่งเราเอง ภาคประชาชนหรือเกษตรกรยังไม่สามารถทำได้คนเดียว ปัจจุบันผู้ประกอบการไทยเอกชนหลายรายมีความแข็งแกร่งมากอย่างเช่นเซ็นทรัลกรุ๊ปเป็นเจ้าของซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วโลก ตนถือโอกาสขอร้องทางเจ้าหน้าที่ผู้บริหารระดับสูงที่มาในวันนี้ว่าถ้าเกิดเป็นไปได้อยากให้ช่วยสนับสนุนพี่น้องชาวสกลนครด้วย นำสินค้าต่างๆไปขายในท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ตและหาช่องทางไปขายที่ต่างประเทศ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับพี่น้องชาวเกษตรกรและเป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศไทยด้วย.