วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ศูนย์การค้า Terminal21 พระราม 3 เขตบางคอแหลม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังเป็นประธานกิจกรรม Bangkok Health Market Zone3 “Love and Care” ว่า กทม.ให้ความสำคัญสูงสุด 2 เรื่อง คือ การศึกษาและสาธารณสุข เชื่อว่าช่วยลดความเหลื่อมล้ำ เช่น หากคนมีสุขภาพดีจะช่วยลดค่าใช้จ่าย สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตัวได้ รวมถึงหากมีการศึกษาที่ดีจะสามารถประกอบอาชีพหรือสร้างงานที่ดีได้ โดยกทม.มีหน้าที่ดูแลด้านปฐมภูมิ ใกล้ชุมชน สามารถให้ความรู้และช่วยดูแลสุขภาพคนในชุมชนได้ เป็นนโยบายต้องการให้บริการด้านสุขภาพลงไปในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเดินทาง โดยแบ่งการทำงานเป็น 7 โซน เพื่อง่ายต่อการบริหารจัดการ และนำความรู้ข้อมูลที่ได้จากแต่ละโซนมาแบ่งปันกัน ส่วนปัญหาที่พบคือ เครือข่ายหน่วยให้บริการด้านสุขภาพปฐมภูมิที่ลงพื้นที่ยังมีปัญหาเรื่องการได้รับเงินสนับสนุนจาก สปสช. ซึ่งบางหน่วยยังขาดทุน เช่น คลินิกอบอุ่น และคลินิกต่าง ๆ ที่ร่วมเครือข่ายกระจายลงสู่ชุมชน เนื่องจากกรุงเทพฯมีประชากรหนาแน่น กทม.ต้องอาศัยเครือข่ายต่าง ๆ ร่วมกันดูแลประชาชน ดังนั้น ต้องปรึกษาหารือกับ สปสช.ถึงนโยบายในการสนับสนุนเงินเครือข่ายที่เข้าร่วม เป็นเรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการ

 

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องสำคัญคือ การบำบัดผู้ป่วยยาเสพติด ตามนโยบายรัฐบาล กำหนดผู้ครอบครองยาบ้าน้อยกว่า 5 เม็ด ถือเป็นผู้เสพ (ป่วย) ต้องเข้ารับการบำบัด ไม่ใช่ผู้ต้องหา ซึ่งกทม.เป็นหน่วยงานที่ดูแลเรื่องการบำบัดผู้ป่วยยาเสพติด ต้องวางแผนดำเนินการด้านความพร้อม เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถให้การบำบัดได้อย่างจริงจัง และสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ป่วยได้ รวมถึงเตรียมความพร้อมในการรองรับผู้ป่วยและการขยายบริการต่าง ๆ โดยเฉพาะที่บ้านพิชิตใจ โรงพยาบาลสิรินธร ต้องมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายกำหนด เพราะมีผลต่อการรับรองและประเมินผู้เข้ารับการบำบัด

 

ปัจจุบัน บ้านพิชิตใจ มีเตียงว่างรองรับผู้ป่วยประมาณ 60 เตียง มีผู้ป่วยใช้บริการหมุนเวียน 30 เตียง โดยเฉลี่ยผู้เข้ารับการบำบัดยาเสพติดใช้เวลา 2 เดือน ในส่วนผู้ป่วยจิตเวช โรงพยาบาลสังกัด กทม.ขยายเตียงเพิ่มได้ประมาณ 8-10 เตียง อย่างไรก็ตาม คาดว่าต้องมีการขยายเพิ่มมากขึ้น

 

ด้านรศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวความคืบหน้าโครงการตรวจสุขภาพ 1 ล้านคนภายในปี 2567 ว่า กทม.ดำเนินการตรวจสุขภาพประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯแล้ว 400,000 คน ปัจจุบันได้บรรจุรายละเอียดการออกให้บริการตรวจสุขภาพตามวันเวลาต่าง ๆ ให้ประชาชนรับทราบล่วงหน้า โดยสามารถสืบค้นข้อมูลได้ที่ www.google.com พิมพ์คำว่า Health Map จะมีรายระเอียดระบุเพื่อเป็นตัวเลือกให้ประชาชนใช้บริการ เช่น การเปิดให้บริการตรวจสุขภาพที่ศูนย์การค้า ตลาดชุมชน คอนโดมิเนียม เป็นต้น ซึ่งการตรวจสุขภาพมีความสำคัญ เนื่องจากเป็นภัยเงียบ เช่น ความดันสูง โรคเบาหวาน โรคเกี่ยวกับปอด หากรู้ก่อนก็สามารถป้องกันหรือรักษาให้หายได้ นอกจากนี้ ได้จัดทีมสุขภาพเพิ่มเติม ประกอบด้วย ทีมรักสุขภาพ ทำหน้าที่คัดกรองตามช่วงวัย เจาะเลือด เอ็กซเรย์ปอด ทีมรักแม่และเด็ก ให้ความรู้และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพแม่และเด็กครบวงจร ทีมรักกระดูก ให้ความรู้ป้องกันโรคกระดูกพรุนและตรวจคัดกรองมวลกระดูก ทีมรักอากาศ ให้ความรู้ คำแนะนำ การเฝ้าระวังผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 และ ทีมรักหัวใจ ตรวจคัดกรองโรคหัวใจด้วยเครื่อง EKG (ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ) ฝึกสอนการใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจ AED และการทำ CPR (ปฐมพยาบาลผู้หยุดหายใจหรือหัวใจหยุดเต้น) รวมถึงให้ความรู้เกี่ยวกับโรคหัวใจ