ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับตี๋โหด ควงมีด บุกบ้าน ตีหมา ตบหญิง ชิงเงิน
อดีตภรรยาไปกว่าหนึ่งล้านสองแสนบาท
 
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ 
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย 
รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป. และ
พ.ต.ท.สมเดช สารบรรณ รอง ผกก.1 บก.ป.
  เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.เดชวุฒิ อุตรศาสตร์ สว.กก.1 บก.ป., ร.ต.อ.ชวรินทร์ แหล่งสท้าน รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป., จ.ส.ต.พิสิษฐ์ บุดดีเฆ่, จ.ส.ต.นพพล พุแค ผบ.หมู่ กก.1 บก.ป.ร่วมกันจับกุม นายลีฯ อายุ 53 ปี สัญชาติมาเลเซีย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ 97/2567 ลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “บุกรุกเข้าไปในเคหสถาน
ของผู้อื่น โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธ, ชิงทรัพย์, ทำร้ายร่างกายผู้อื่น, กระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร”สถานที่จับกุม บริเวณคอนโดในพื้นที่ แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
 
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2566 ผู้ต้องหาได้บุกรุกเข้าไปในบ้านของผู้เสียหายซึ่งเป็นอดีตภรรยา โดยใช้อาวุธมีดข่มขู่ พร้อมผลักผู้เสียหายลงบนที่นอนและได้ลงมือกระทำชำเราผู้เสียหาย จากนั้นผู้ต้องหาใช้อาวุธมีดข่มขู่ผู้เสียหายให้บอกที่ซ่อนเงิน ด้วยความกลัวผู้เสียหายจึงบอกที่ซ่อนเงิน ผู้ต้องหาจึงไปรื้อเอาเงินดังกล่าวจำนวน 510,000 บาท แล้วหลบหนีไป ผู้เสียหายเกรงว่าผู้ต้องหาจะกลับมาทำร้ายอีก จึงได้ปล่อยสุนัขที่เลี้ยงไว้ออกมาจากกรง

ต่อมาขณะที่ผู้เสียหายกำลังจะถอยรถออกจากบ้าน ผู้ต้องหาได้บุกขึ้นมาบนรถด้านข้างผู้เสียหายพร้อมกับอาวุธมีดในมือบังคับให้จอดรถและข่มขู่จะเอาเงินจากผู้เสียหาย ผู้เสียหายตกใจกลัวจึงวิ่งลงจากรถจะเข้าไปหลบภายในบ้าน แต่ขณะที่จะล็อคประตูผู้ต้องหาได้บุกเข้ามาจับตัวผู้เสียหายไว้ได้ทัน แล้วเอาโซ่มัดมือของผู้เสียหายไว้ แล้วพาเข้าไปภายในบ้าน จับผู้เสียหายนั่งที่โต๊ะภายในห้องครัว แล้วข่มขู่ให้ผู้เสียหายบอกที่ซ่อนเงิน จนผู้เสียหายยอมบอกจุดเก็บเงิน เมื่อผู้ต้องหากำลังจะออกไปเอาเงิน

ปรากฏว่าพบกับสุนัขที่ผู้เสียหายปล่อยออกมาเพื่อป้องกันตัว แต่ผู้ต้องหาได้ใช้โซ่ที่มัดมือผู้เสียหายนำไปไล่ตี ใช้มีดไล่แทง ขว้างเก้าอี้ใส่จนสุนัขบาดเจ็บและหนีไป จากนั้นผู้ต้องหาจึงไปเอาเงินของผู้เสียหายอีก 710,000 บาท ขณะนั้นได้มีเพื่อนบ้านได้ยินเสียงจึงเข้ามาช่วยเหลือ แต่ผู้ต้องหาสามารถหลบหนีไปได้ พร้อมกับข่มขู่ว่าจะสั่งให้ตำรวจมาทำร้ายผู้เสียหายอีก จากนั้นผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาได้อาศัยที่คอนโดแห่งหนึ่ง ย่านห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ พบตัวผู้ต้องอยู่ที่คอนโดดังกล่าวจริง จึงเข้าทำการจับกุม จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าศาลา ภ.จว.นครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
 
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา