ตำรวจไซเบอร์ แถลงบุกทลายโรงงานผลิตป้ายทะเบียนปลอม จับพระเปิดกลุ่มลับขายคลิปเด็กชาย

เมื่อวันที่ 22 ก.พ. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รองผบช.สอท. พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผบก.ตอท. พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 พ.ต.อ. เอกวีร์ พงศ์สร้อยเพ็ชร์รองผบก.สอท.5 นายอดิเรก แตงทอง ผู้อำนวยการสำนักงานขนส่งพื้นที่กรุงเทพมหานครพื้นที่5 ร่วมกันแถลงข่าวผลการปฎิบัติตามยุทธการ CYBER GUARD OPERATION โดยตัดวงจรภัยออนไลน์3 คดี

คดีแรกจับกุมน.ส.สุจิตรา อายุ 36 ปี ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 598/2566 ลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 ข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์  ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้น มิได้มีไว้สำหรับตน ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบและเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์สินของผู้อื่น, ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และเป็นการกระทำเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้ เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการ หรือหนี้อื่นใดแทนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกถอนเงินสด โดยจับกุมได้ที่บริเวณซอยบรมราชชนนี 61  แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพ 

หลังสืบทราบว่ามีพฤติการณ์เป็นายหน้ารวบรวมบัญชีฆ้าส่งให้ขบวนการหลอกติดตั้งแอปการไฟฟ้าปลอมดูดเงินเหยื่อกเกลี้ยงบัญชี ส่งต่อให้นายทุนที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งคดีนี้ออกหมายจับบัญชีม้า แถว 1-3 ไว้ 7 คน ขณะนี้ จับกุมได้แล้ว 5 คน สอบสวนให้การรับว่าจัดหาบัญชีธนาคาร  โดยพาคนข้ามแดนไปสแกนหน้า ได้หัวละ 5,000 บาท และพาคนไปเปิดบัญชีได้บัญชีละ1,000 บาท ส่วนกรณี 1 คนเปิดได้  3 บัญชี ก็ได้ 3,000 บาท หาคนเปิดบัญชีออนไลน์ผ่านไลน์และเฟซบุ๊ก ได้ค่านายหน้าบัญชีละ 100 บาท ส่วนคนที่เปิดบัญชีขายได้ 500 บาท นำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.สอท.5 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่สองจับกุมพระครูปลัดเดชฐวุฒิ อายุ 23 ปี พระลูกวัดแห่งหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์ หลังสืบทราบว่ามีพฤติกรรมเปิดกลุ่มลับในกลุ่มไลน์ค้าสื่อลามกเด็กชาย ซึ่งมีสมาชิกกว่า 16,206 คน พบสื่อลามกอนาจารเด็กกว่า6,950ไฟส์ ซุกซ่อนอยู่ในโน๊ตบุ๊กและแฟลชไดร์ฟในกุฏิ สอบสวนให้การรับสารภาพว่าได้โน้มน้าวเด็ก ซึ่งเป็นผู้เสียหายให้ถ่ายคลิปอนาจาร ก่อนส่งให้ จากนั้นจะทำหน้าที่เป็นแอดมินชักชวนให้ผู้ที่สนใจเข้ากลุ่มลับ เพื่อเข้าไปดูคลิปวิดีโอเด็กมัธยมชายกระทำอนาจาร โดยมีการเรียกเก็บค่าสมาชิก 150 บาท 

 เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้, ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กและส่งต่อซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น, เพื่อความประสงค์แห่งการค้าเพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชนและความผิดอื่นๆที่เกี่ยวข้อง นำส่งพนักงานสอบสวนสภ.สหัสขันธ์ ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป 

คดีที่สามจับกุมนายสมศักดิ์ และนายอรุณ สองพี่น้อง หลังมีพฤติกรรมเปิดเพจ “ปรายฟ้า ดอกไม้เทศ” รับผลิตแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอม โดยจับกุมได้ที่บ้านหลังหนึ่งในเขตมีนบุรี พร้อมตรวจยึดอุปกรณ์ในการผลิตแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ และเครื่องปั๊มแผ่นป้ายทะเบียนรถและแผ่นอะลูมิเนียมที่ตัดแล้วสำหรับรอการปั๊ม สอบสวนให้การรับว่าได้ร่วมกันผลิตแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอมและส่งขายในราคาแผ่นละ 350 บาทให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อ เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาร่วมกันปลอมแปลงเอกสารราชการโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน นำส่งพนักงานสอบสวน บก.สอท.4 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป