วันที่ 23 ก.พ. 2567 12.00 น.ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง เสนอวิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND : จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง ผลักดันประเทศไทยเป็น 8 ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ ว่า  เราคาดหวังกันมาก แต่จากที่ได้ฟังแถลงก็ไม่มีอะไรใหม่ หลายคนอาจจะผิดหวังว่าจะได้ยินอะไรใหม่  หรือมีรายละเอียดของโครงการครบถ้วน ถ้าดูทั้ง 8 เรื่อง ก็ไม่มีเรื่องไหนที่ไม่เคยฟังจากรัฐบาลก่อนหน้านี้ ที่สำคัญคือไม่เห็นเป็นรูปธรรมทั้ง 8 ด้าน ว่าจะทำอย่างไร มีแต่จะทำอะไร ฉะนั้น ถือว่าเป็นแผนที่ค่อนข้างลอย เป็นสิ่งที่อยากจะทำมากกว่าแผนงานที่เป็นรูปธรรมชัดเจน ซึ่งหลายคนอาจจะไม่ตื่นเต้นเท่าที่ควรจากการฟังแถลง

เมื่อถามว่า มีข้อแนะนำหรือข้อสังเกตอย่างไรบ้างกับวิสัยทัศน์นี้ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ในหลายเรื่องทราบดีถึงความสำคัญ ทราบดีว่าจะเกิดประโยชน์อะไรขึ้น แต่ก็ยังมีปัญหา อุปสรรค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ (Medical Hub) ซึ่งเราพูดกันมานาน ตอนนี้เราก็เป็นฮับไปแล้ว แต่ยังมีปัญหาคอขวดในเรื่องบุคลากรทางการแพทย์ และค่ารักษาพยาบาล ที่จะส่งผลกระทบต่อค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่ง และกระทบกับชนชั้นกลางที่ยังใช้บริการที่โรงพยาบาลเอกชน รวมไปถึงการแย่งชิงบุคลากรทางการแพทย์ระหว่างโรงพยาบาลเอกชนและโรงพยาบาลรัฐ

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า ส่วนการเป็นศูนย์กลางทางการบิน ยังต้องปรับปรุงเรื่องเทคโนโลยี การตรวจคนเข้าเมืองให้มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงแก้ปัญหาตั๋วราคาแพง ที่ปัญหาอาจจะเกิดจากแอพพลิเคชันที่เป็น OTA ด้านการท่องเที่ยว ถ้าประชาชนในประเทศยังเจอปัญหาตั๋วแพง นักท่องเที่ยวที่เข้ามาก็จะเจอปัญหาเดียวกับเรา ถ้าแก้ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ก็อาจจะไม่เป็นจุดศูนย์กลางของการบินของภูมิภาคได้ ถือเป็นตัวอย่างเล็กที่คาดหวังจากการแถลง และเป็นสาเหตุที่ทำให้เราไปไม่ถึงเป้าหมายสักที แม้เราจะพูดเรื่องนี้มามากกว่า 10 ปีแล้ว จึงเป็นการแถลงที่เราไม่ได้ให้ความสำคัญ

เมื่อถามว่า มองท่าทีนายกรัฐมนตรีต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นอย่างไร น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า นายกฯทราบดีว่าเศรษฐกิจมีปัญหา แต่ยังคิดวิธีการแก้ปัญหาไม่ออก ตอนนี้ได้มีการโบ้ยให้ไปเป็นความผิดของผู้กำหนดนโยบายการเงิน ไม่ว่าจะเป็น คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือกนง. ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย แต่ตนคิดว่าตอนนี้มาตรการทางการคลัง กระสุนยังไม่หมดซะทีเดียว ยังมีทางออกอยู่ หรืออีก 1-2 เดือน งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ก็จะออกแล้ว เราคงต้องเตรียมการเพื่อให้งบประมาณผ่านไปได้เร็วขึ้น

“จึงอยากเห็นท่าทีของนายกฯและรมว.คลัง ว่าจะมีท่าทีอย่างไรที่จะมีโครงการแก้ขัดระหว่างรอโครงการดิจิทัลวอลเลต ซึ่งยังเป็นปมปัญหาที่ยังแก้ไม่ออกอยู่ เราไม่อยากรอให้ถึงวันที่โครงการดิจิทัลวอลเลตออกมา เพราะตอนนั้น สำหรับเศรษฐกิจไทยก็คงสายเกินไปแล้ว ถึงอยากเห็นท่าทีที่กระตือรือร้น ที่จะใช้มาตรการทางการคลัง ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่มากกว่านี้”น.ส.ศิริกัญญา กล่าว