สนามเลือกตั้ง อบจ.นครราชสีมา ซึ่งเป็น อปท.ใหญ่ที่สุดและมีงบประมาณมากที่สุดในภูมิภาค โดยมีร่วม 4 พันล้านบาท ต่อปี พบความเคลื่อนไหวผู้ที่จะลงสมัครนายกแล้ว แม้จะเหลือเวลาอีกกว่า 1 ปี ผู้บริหารชุดปัจจุบันถึงจะหมดวาระ

โดยมีกระแสข่าวว่า เสี่ยปาน นายวิรัช  รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เตรียมส่งปลัดแบงค์ นายอธิรัฐ  รัตนเศรษฐ อดีต รมช.คมนาคม ลงสมัครในตำแหน่งนายกอบจ. นครราชสีมา  โดยดีลลับกับแกนนำพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ล่าสุดพบความเคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.โนนสูง อ.ประทาย อ.พิมาย อ.ชุมพวงฯ มีคนใกล้ชิดและนักการเมืองท้องถิ่นสังกัดบ้านตาลคู่ (รัตนเศรษฐ) เดินเคาะประตูบ้านระดมแจกใบสมัครสมาชิก ก.ก. รวมทั้งในเขตเลือกตั้งบ้านตาลคู่ ซึ่งเป็นพื้นที่หลายอำเภอด้านทิศเหนือของ จ.นครราชสีมา มีพี่น้องประชาชนสมัครเป็นสมาชิก ก.ก.เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ   

ยลดา  หวังศุภกิจโกศล

ส่วน“มาดามหน่อย” นางยลดา  หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ผู้เป็นแม่ของนางสาวสุดาวรรณ  หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ลูกสาวคนโปรด “กำนันป้อ” นายวีรศักดิ์  หวังศุภกิจโกศล อดีต รมช.คมนาคม และ รมช.พาณิชย์ ซึ่งมีฐานเสียง ส.ส เพื่อไทย 12 เขต จ.นครราชสีมา และสมาชิกสภา (ส.อบจ.) นครราชสีมา ผู้บริหาร อปท. ให้การสนับสนุนชัดเจน ได้เร่งลงพื้นที่ 32 อำเภอ สร้างผลงานชนิดงานหลวงไม่ขาด งานราษฎร์ไม่เสีย แบบหามรุ่งหามค่ำ เพื่อเตรียมความพร้อมป้องกันแชมป์

มารุต  ชุ่มขุนทด

ขณะที่นายมารุต  ชุ่มขุนทด หรือกอล์ฟ ซีอีโอ “คลาสคาเฟ่” กาแฟแบรด์ดังท้องถิ่น ในฐานะแกนนำ “พัฒนาเมืองโคราช” ซุ่มลงพื้นที่ตระเวนพบปะผู้นำชุมชนและชาวบ้านร่วม 200 ตำบล ซึ่งเหลือประมาณ 89 ตำบล จะครบเป้าหมาย 289 ตำบล โดยมีทีมงานผู้ช่วย ส.ส กก.โคราช และแกนนำในแต่ละพื้นที่คอยเป็นพี่เลี้ยงและติดต่อประสานงาน

พ.ต.ท.ระพีพงษ์  จิรพัฒนาลักษณ์ ผอ.สนง.กกต.จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า นับถอยหลังเหลือเวลาประมาณ 1 ปี ก่อนครบวาระการดำรงตำแหน่งของผู้บริหารและสมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) รวม 334 แห่ง โดยช่วงต้นถึงกลางปี 2568 กกต.จ.นครราชสีมา ต้องจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นประกอบด้วย อบจ. 1 แห่ง เทศบาล 90 แห่ง และ อบต. 243 แห่ง ฝากถึงผู้ประสงค์จะสมัครเลือกตั้งการเมืองท้องถิ่นให้ตรวจสอบคุณสมบัติ 4 ข้อ และลักษณะต้องห้าม 26 ข้อ อย่างรอบคอบ ในการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ผ่านมา พบผู้สมัครกว่า 30 คน อยู่ในระหว่างถูกจำกัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา 42 กรณีไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งอัตราโทษมีทั้งจำคุกและปรับรวมทั้งถูกเพิกถอนสิทธิอีก  

รศ.ดร.อดิศร  เนาวนนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา กล่าวว่า กระแสความเคลื่อนไหวก่อนครบวาระการดำรงตำแหน่งการเมืองท้องถิ่นทั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ซึ่งเหลือเวลาประมาณ 1 ปี ตนได้ติดตามและรับฟังข้อมูลจากบุคคลใกล้ชิดกับนักเมืองทุกระดับ สนามเลือกตั้ง อบจ นครราชสีมา ถือเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ขนาดใหญ่ที่สุดและมีงบประมาณร่วม 4 พันล้านต่อปี มากที่สุดในภูมิภาค ล่าสุดมี 3 กลุ่ม ดังนี้ 1.กลุ่มโรงแป้งเสิงสางของ “มาดามหน่อย” นางยลดา  หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา คนปัจจุบัน ต้องรักษาเก้าอี้ไว้ หาก “มาดามหน่อย” ไม่ลงเองก็ต้องส่งบุคคลใกล้ชิด หรืออาจสลับตำแหน่ง “มาดามหน่อย” นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีแล้วส่งลูกมาเล่นการเมืองท้องถิ่นหรือส่งบุคคลที่ไว้วางใจได้มาลงแทน ซึ่งกลุ่มโรงแป้งมีตัวเลือกหลายคน จะมีความเป็นไปได้หรือไม่เป็นเพียงพยากรณ์ คงไม่รู้ลึกจริงเป็นการขีดเส้นทางของความเป็นไปได้และ “มาดามหน่อย” ลงเอง เพื่อป้องกันตำแหน่งในนาม “โคราชโฉมใหม่” ที่มีฐานเสียง สส. 12 เขต ของพรรคเพื่อไทย (พท.) สมาชิกสภา (ส.อบจ.) นครราชสีมา นักการเมืองท้องถิ่นสนับสนุนอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู 

กลุ่มที่ 2 ไม่ทราบแน่ชัดได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มหรือพรรคการเมืองใดคือนายมารุต  ชุ่มขุนทด หรือกอล์ฟ ซีอีโอ “คลาสคาเฟ่” กาแฟแบรด์ดังท้องถิ่น แกนนำ “พัฒนาเมืองโคราช” ค่อนข้างน่าสนใจ เนื่องจากเป็นทีมงานคนรุ่นใหม่ที่มีไอเดียและแนวคิดจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ตระเวนลงพื้นที่รับฟังเสียงประชาชนกว่า 100 ตำบล เร่งให้ครบเป้าหมาย 289 ตำบล แต่ยังอุบไม่แสดงตัวจะลงสมัครนายก อบจ.นครราชสีมา ซึ่งสังคมทั่วไปเข้าใจลงสมัครชิงตำแหน่งค่อนข้างแน่ กลุ่มนี้เน้นหาเสียงกับนิวโหวตเตอร์หรือฐานเสียงเดียวกันกับ ก.ก มุ่งหวัง 556,000 คะแนน ของ ส.ส ระบบบัญชีรายชื่อ ก.ก พื้นที่ จ.นครราชสีมา 

อธิรัฐ  รัตนเศรษฐ

และกลุ่มที่ 3 “บ้านตาลคู่” ของนายวิรัช  รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หลังแพ้การเลือกตั้ง ส.ส.ทุกเขต จุดยืนทางการเมืองยังไม่แน่จะอยู่กับลุงป้อมเหมือนเดิมหรือไม่ ที่ผ่านมาได้โยกย้ายตามฐานอำนาจในแต่ละยุคสมัย อาจไปอยู่ พท.รังเก่าก็มีความเป็นไปได้ รวมทั้งข่าวไม่สามารถยืนยัน “บ้านตาลคู่” ดีลลับกับแกนนำ ก.ก เตรียมส่งลูกชายคนโต นายอธิรัฐ  รัตนเศรษฐ อดีต รมช.คมนาคม ลงสมัครนายก อบจ.นครราชสีมา การเข้าหาฐานเสียง ก.ก มิใช่เพียงแต่ จ.นครราชสีมา เท่านั้น มีอีกหลายจังหวัดที่บ้านใหญ่ต้องการใช้ฐานเสียง ก.ก ที่ครองใจคนรุ่นใหม่ไว้เหนียวแน่น หากข่าวนี้เป็นจริงถือมีความเสี่ยงต่อคะแนน ก.ก ในอนาคต 

ทั้งนี้การเมืองท้องถิ่น โดยเฉพาะสนาม อบจ.นครราชสีมา มีปัจจัยที่หลากหลาย ทั้งนโยบายที่สามารถจับต้องได้ หัวคะแนน ผู้สนับสนุนที่มีอยู่ในท้องถิ่น โดยเฉพาะกลุ่มครูและนักเรียน ซึ่ง อบจ.นครราชสีมา มีโรงเรียนมัธยมในสังกัด 58 แห่ง ทำให้กลุ่มโรงแป้งมีความได้เปรียบพอสมควร ถือเป็นโจทย์หินสำหรับคู่แข่ง การล้มแชมป์เก่า เหลือเวลาประมาณ 11 เดือน ต้องเร่งทำการบ้านสร้างคะแนนนำมาประมวลผลวิเคราะห์ก่อนเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย อย่างไรก็ตามความสำเร็จของนายก อบจ. รวมถึงตำแหน่งของลูกสาว ซึ่งเป็น รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา หากมีผลงานเด่นชัดเป็นที่นิยมจะเป็นพลังบวกสร้างความได้เปรียบ ถ้าไม่โดดเด่น ผลลัพธ์ก็อาจสวิงกลับ คำตอบสุดท้ายคือชาวโคราชที่มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 2.1 ล้านเสียง