กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม จัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวันมาฆบูชา พุทธศักราช 2567 โดยที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวงได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ จากสาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานชั่วคราว ซึ่งได้เปิดให้พุทธศาสนิกชนเข้าสักการะ ตั้งแต่วันนี้ 23 กุมภาพันธ์ ไปจนถึง 3 มีนาคม 2567

วันที่ 24 ก.พ.67 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า หลังจากที่วานนี้(23 กุมภาพันธ์) สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นองค์ประธานฝ่ายสงฆ์ และนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ จากสาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว และครั้งแรก ณ ประเทศไทย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ซึ่งกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรมได้จัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวันมาฆบูชา พุทธศักราช 2567 ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ ส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนได้น้อมนำหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนามาประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวัน และมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาถวายเป็นพุทธบูชา

โดยวันนี้ (24 ก.พ.67) การจัดกิจกรรมส่วนกลาง กรมการศาสนา ร่วมกับคณะสงฆ์กรุงเทพมหานคร และองค์กรเครือข่ายทางพระพุทธศาสนา จัดกิจกรรมระหว่างวันที่ 24–26 ก.พ.นี้ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ประกอบด้วยกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ได้แก่ พิธีเจริญพระพุทธมนต์ตักบาตรพระสงฆ์ 73 รูป พิธีเวียนเทียน สักการะบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ที่อัญเชิญจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย จากนั้นจะยังเปิดให้พุทธศาสนิกชนเข้าสักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุได้อย่างต่อเนื่องไปจนถึง 3 มีนาคม 2567 ได้ตั้งแต่เวลา 09.00 – 20.00 น. ของทุกวัน

บรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ พุทธศาสนิกชน ตั้งแต่เยาวชนจนไปถึงผู้สูงอายุ ต่างเดินทางมาร่วมเวียนเทียนในวันมาฆบูชาพร้อมกับครอบครัวและคนรัก พากันนำดอกไม้ธูปเทียนนำไปเวียนเทียนตั้งจิตภาวนาเเผ่ส่วนบุญส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับ และ ขอให้สิ่งที่เป็นสิริมงคลเกิดขึ้นกับตัวเองเเละครอบครัว