"ศรพระราม"ชี้เปรี้ยง!"นายใหญ่"เหนือนายกฯ และใครต้องรับผิดชอบ"ตะวัน"

“สยามรัฐ” ยืนหยัดอยู่บนบรรณพิภพ และสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ด้วยปณิธาน “นิคฺคณฺเห นิคฺคหารหํปคฺคณฺเห ปคฺคหารหํ” แปลว่า “พึงชมคนที่ควรชม พึงข่มคนที่ควรข่ม”…*...

เมื่อ “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน ย่างเท้าเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า ศูนย์อำนาจที่แท้จริงของรัฐบาล บรรดาลิ่วล้อไม่ต้องเขินหรือพลิกพลิ้วอะไร...*...

 เพราะก่อนได้เป็นนายกฯ “นายกฯนิด” ก็เคยไปพบกับ  “ลุงโทนี่” ทักษิณ ชินวัตร มาแล้ว ฉะนั้น สถานการณ์ตอนนี้ ศรพระราม ก็เห็นด้วยกับ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ที่ควรหยุดพูดเรื่องนายกฯ 2 คนได้แล้ว เพราะเหนือนายกฯยังมี “นายใหญ่” อีกที ...*...

แต่ก็นะ “ลุงโทนี่” อยู่เงียบๆ ก็น่าจะดีกว่า ไม่ต้องเอิกเกริกให้เป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์ ทว่า ใครจะไปมาหาสู่บ้านจันทร์ส่องหล้า ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา ฉะนั้น หากจะมีลูกพรรคเพื่อไทยและพรรคการเมืองอื่นไปเยี่ยมบ้างก็ไม่เห็นแปลก ใครจะคิดกันไป ว่าจะมีการจัดโผครม.บ้านจันทร์ส่องหล้า มันก็ไม่เห็นเป็นไร ในเมื่อก่อนหน้านี้ก็จัดโผครม.มาจากชั้น 14 อยู่แล้ว แค่เปลี่ยนสถานที่แปลกตรงไหน...*...

น่าสนใจ ที่ว่าเมื่อปีที่แล้ว ในห้วงเดือนกุมภาพันธ์ “ตะวัน” ถอนประกันตนเองมในคดี 112  กลับเข้าสู่เรือนจำและอดอาหารประท้วงให้ศาลปล่อยตัวกลุ่มนักกิจกรรมทางการเมือง เดือนกุมภาพันธ์ ปีนี้ “ตะวัน” ถูกจับกุมในคดี 116 เข้าเรือนจำไปอดอาหารอีกครั้ง...*...

แต่รอบนี้ อย่างที่ “ศรพระราม” เขียนเอาไว้  ที่นี่ ฉบับวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ว่าจะไม่ได้ประกันตัวออกมาอีกนานเลย แม้ล่าสุด พ่อของตะวัน จะขอยื่นคำร้องขอประกันตัวต่อศาล โดยให้คำมั่นว่า “หากศาลให้ประกันตัวออกมาก็จะไม่ให้ลูกสาวยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีก”...*...

แต่ศาลอาญาสั่งยกคำร้อง โดยระบุว่า ศาลเคยมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้งสองโดยระบุเหตุผลไว้ชัดเจนแล้ว ส่วนกรณีอาการเจ็บป่วยของผู้ต้องหาทั้งสอง ขณะนี้อยู่ภายใต้การดูแลรักษาของแพทย์โดยใกล้ชิดแล้ว กรณียังไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ซึ่งเมื่อกลับไปย้อนดู คำสั่งเดิม ที่ศาลอนุญาตฝากขัง 2 ผู้ต้องหา “ตะวัน-แฟรงค์” เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาระบุว่า “ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราว โดยพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่าข้อหาที่ผู้ต้องหาถูกกล่าวหามีอัตราโทษสูง พฤติการณ์ในการกระทำของผู้ต้องหามีลักษณะไม่ยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง ก่อให้เกิดความปั่นป่วนต่อความสงบเรียบร้อยของสังคมโดยรวมหากให้ปล่อยชั่วคราวมีเหตุเชื่อว่าจะไปก่อเหตุอันตรายลักษณะเดียวกันนี้หรือประการอื่น” ...*...

ที่มา:ศรพระราม (27/02/67)