วันที่ 28 ก.พ.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ กรณีพ้นจากตำแหน่งเพราะเหตุอื่นใดนอกจากครบวาระ ที่จะจัดให้มีการเลือกตั้ง ในวันที่ 17 มี.ค.2567 โดยมีผู้สมัครนายกเทศมนตรี 3 คน ประกอบด้วย หมายเลข 1 นายสุทธิพงศ์ ทิพยศิลป์  อายุ 69 ปี ข้าราชการครูบำนาญ เป็นอดีตเลขานุการนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ สมัยนายกมล เรืองสุขศรีวงศ์ ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ เมื่อปี 2556-2564  หมายเลข 2 นางพรศรี ไกรรณภูมิ  อายุ 51 ปี เป็นกรรมการหอการค้า จ.บุรีรัมย์ ปี 2562-2564 และคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดบุรีรัมย์ (กธจ.) ปี 2563-2566 ภรรยา นายสกล ไกรรณภูมิ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ สมัยที่ผ่านมา และหมายเลข 3 นายวิกรม สมจิตต์อารีย์  อายุ 61 ปี อดีตนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ เมื่อปี 2547-2551 และเป็นอดีตประธานหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์ ปี 2560-2561              

ล่าสุดบรรยากาศการหาเสียงเริ่มเข้มข้นคึกคักขึ้นตามลำดับ จะเห็นได้จากป้ายหาเสียงของบรรดาผู้สมัครจำนวนมาก ที่มีการติดตั้งแผ่นป้ายหาเสียงต่างแย่งชิงความได้เปรียบทางการมองเห็นของประชาชน นอกจากนี้ ยังมีการหาเสียงผ่านสื่อโซเชียล อีกด้วย     แต่ที่น่าสนใจ คือ นางพรศรี ไกรรณภูมิ  ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ หมายเลข 2  ได้นำรถหาเสียงพร้อมทีมงานลงพื้นที่หาเสียงในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ตามร้านค้า ตลาดสด เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ และบ้านเรือนประชาชน ที่ถนนสุนทรเทพ ถนนคูเมือง ถนนหลักเมือง ถนนนิวาศ เพื่อแนะนำตัวผู้สมัครและนโยบายให้กับพ่อค้าแม่ค้าตามร้านค้า และประชาชนตามบ้านเรือน ซึ่งเป็นการเข้าถึงพี่น้องประชาชน ชนิดบุกถึงตลาดและประตูบ้านเลยทีเดียว ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีและอบอุ่น

โดย นางพรศรี  กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกที่ได้ลงพื้นหาเสียงตามร้านค้า ตลาดสด และตามบ้านเรือน พร้อมกับพบปะพี่น้องประชาชน ซึ่งได้รับการตอบรับด้วยดีและอบอุ่น อยากเข้ามาพัฒนาบ้านเมือง รับใช้พี่น้องชาวเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ซึ่งนโยบายหาเสียง สนับสนุนประเพณีชุมชนให้อยู่คู่ชุมชน สนับสนุนให้คนเมืองมีส่วนร่วมและรับรู้ทุกการพัฒนา อย่างโปร่งใส ถูกกฎหมาย ไม่บิดเบือน และสานต่อนโยบาย นายกฯอ๋อง เพื่อให้ผลประโยชน์เป็นของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง 

ทั้งนี้ไม่รู้สึกหนักใจกับการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะที่ผ่านมาได้ช่วยเหลือสนับสนุนการทำงานของนายกฯอ๋อง มาตลอด ได้เห็นการพัฒนาบ้านเมืองมีความเจริญก้าวหน้าเป็นลำดับ เข้าถึงทุกชุมชน สร้างมิติใหม่ เพราะการรับรู้ของพี่น้องประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ จึงขออาสามาสานต่อนโยบายต่อจากนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์คนก่อนๆ