'สุทิน' เผยกระแสปรับครม. ยังเป็นสัญญาณบวกไม่มีลบ เดินหน้าทำงานต่อ หลังมีข่าวสะพัดถูกโยกไปนั่งศธ. วราวุธ เชื่อนายกฯตัดสินใจปรับครม.ต้องคำนึงถึงประโยชน์ประเทศ ยันพร้อมรับสถานการณ์ปรับครม. ไม่กังวล สว.ชำแหละรรัฐบาล 25มี.ค.นี้ ด้าน"ชัยธวัช" ยัน"ฝ่ายค้าน" ไม่แผ่ว ไม่สนถูกเย้ยไร้น้ำยา คาดซักฟอกรัฐบาลเมษาฯ นี้ ขณะที่ชัยชนะบอกก้าวไกลยังไม่ล้มเวทีซักฟอก ยัน ปชป.มีข้อมูลพร้อมเปิดศึกรัฐบาล

   
  เมื่อวันที่ 29 ก.พ.67 นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง จะนั่งควบรมว.กลาโหม และตัวเองถูกโยกไปนั่งกระทรวงศึกษาธิการ ว่า  เรื่องการปรับครม.เป็นการพูดถึงกันมานาน ซึ่งเป็นธรรมชาติของประเทศไทยที่จะมีข่าวการปรับ ครม.ทันทีตั้งแต่จัดตั้งรัฐบาลขึ้นมา ในส่วนตำแหน่งของตนคิดว่าเป็นเรื่องของการคาดหมาย ซึ่งก็สามารถคาดหมายไปได้ต่างๆ นาๆ ซึ่งตนไม่ได้คิดอะไรมากในเรื่องนี้  และไม่มีอะไรต้องไปคิดมากขนาดนั้น
   
  ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีการส่งสัญญาณอะไรมาหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า มีแต่สัญญาณบวกไม่มีสัญญาณลบ  เป็นสัญญาณที่ตนมีกำลังใจทำงาน และสัญญาณที่เดินหน้าได้ตามปกติ เมื่อถามว่า จะยังอยู่ในตำแหน่งรมว.กลาโหมเหมือนเดิมใช่หรือไม่ นายสุทิน ตออบว่า ยังเป็นสัญญาณบวก เมื่อถามถึงกรณีที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ระบุการปรับครม.ใช้ผลงานเป็นตัวชี้วัด นายสุทิน กล่าวว่า ในส่วนตรงนั้นแน่นอนผลงานจะเป็นเครื่องชี้วัดของทุกคน
   
  นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า  วันนี้ยังไม่มีสัญญาณปรับครม. มายังพรรคร่วมรัฐบาล เคยพูดเสมอว่าตำแหน่งรัฐมนตรีเหมือนมียศเสริมยศ มีลาบเสริมลาบ สำคัญอยู่ที่ว่าวันนี้เราดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีอะไร ในฐานะที่ดูแลกระทรวง พม.ทำงานทุกนาทีทุกวันเหมือนว่าพรุ่งนี้จะไม่ได้อยู่กระทรวงนี้ ดังนั้นถ้าจะปรับครม.หรืออย่างไรเชื่อว่าในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลและแกนนำจะต้องมีการคุยกันเสียก่อน แต่หากมัวแต่กังวลว่าจะปรับหรือออกจากตำแหน่งเมื่อไหร่ ตนคิดว่าคงไม่มีรัฐมนตรีคนไหนจะมีกะจิตใจกะทำงานตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งมานั้น คำว่าปรับ ครม. ไม่เคยอยู่ในหัว ซึ่งไม่ใช่ไม่กลัวแต่คิดเพียงว่าจะต้องใช้เวลาในตำแหน่งนี้ให้คุ้มค่ากับภาษีประชาชนที่มาจ่ายเงินเดือน
     
"เก้าอี้ผมจะแข็งแรงหรือไม่ไม่มีอะไรจีรังหากจะมีการปรับครม.ก็ต้องปรับ สำหรับการทำงานของพรรคชาติไทยพัฒนาเรายึดผลประโยชน์และปัญหาของประชาชนเป็นหลัก และหากจะอยู่ที่ไหนคิดว่าคณะของนายกฯ รวมถึงพรรคแกนนำของรัฐบาล คงคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติในการปรับ ครม. ให้เข้ากับปัญหาของสังคมที่เกิดขึ้นขณะนี้"
    
 นายวราวุธ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา(สว.) เคาะวันอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 153 วันที่ 25 มี.ค.67 นั้น เชื่อว่าการทำงาน 6-7 เดือนที่ผ่านมานี้ ก็สามารถตอบคำถาม สว. ได้หากมีข้อสงสัย แต่ไม่สามารถตอบได้ในนามกระทรวงอื่น ทั้งนี้มองว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ สว. จะถามคำถามที่สังคมตั้งข้อสงสัยอยู่ และเป็นสิ่งที่ดีที่รัฐบาลจะได้ชี้แจงว่าที่ผ่านมาเราได้ทำอะไรไปบ้างแม้จะถูกใจบ้างไม่ถูกใจบ้างกระทรวง พม. จะน้อมรับคำติชมและนำมาแก้ไขการทำงาน
  
   นายวราวุธ ยังให้สัมภาษณ์ถึงการติดต่อเข้าพบ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะนับถือเป็นอา ว่า ตั้งแต่ที่นายทักษิณกลับมาเมืองไทยตนพูดเสมอว่าพ่อบรรหารและนายทักษิณ เป็นคนสนิทกันทางการเมืองหลาย 10 ปี วันนี้เมื่อท่านกลับมาเมืองไทยและอยู่บ้างแล้ว ก็เป็นตามวิสัยปกติที่ลูกหลานคนหนึ่งควรเข้าไปคารวะญาติผู้ใหญ่ ไม่มีมองว่าจะเป็นมิติทางการเมือง ส่วนตัวก็ได้พบปะกับนายทักษิณมาตั้งแต่เด็ก หากมีโอกาสก็จะเข้าไปสวัสดี และถามไถ่สารทุกข์สุขดิบตามปกติ พร้อมยืนยันยังไม่มีกำหนดการเข้าพบและหลังจากที่นายทักษิณได้รับการพักโทษมายังไม่ได้พูดคุยกัน
   
  วันเดียวกัน  นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุกส่วนตัว วรงค์ เดชกิจวิกรม - Warong Dechgitvigrom ระบุว่า  ทำไมพรรคก้าวไกลไม่ซักฟอกรัฐบาล เมื่อปลายเดือนมกราคม 2567 ที่ผ่านมา นายพิธาเองเป็นผู้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเศรษฐา ช่วงเดือนเมษายนนี้ก่อนปิดสมัยประชุมสภา ในประเด็นทุจริต บริหารล้มเลว ทำงานล่าช้า แต่กลายเป็นว่าปลายเดือนกุมภาพันธ์ล่าสุดนี้เอง ประธานวิปฝ่ายค้าน แถลงกลับลำเฉยว่า จะยังไม่เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในสมัยประชุมนี้ เพราะรัฐบาลเพิ่งเข้ามาบริหาร ยังไม่ได้ใช้งบ
    
 พรรคก้าวไกลแน่ใจหรือว่า รัฐบาลนี้เข้ามาบริหาร แล้วไม่มีประเด็นที่ประชาชน อยากให้ฝ่ายค้านตรวจสอบ ซึ่งในความเป็นจริงมีหลายประเด็นมากที่ประชาชนสงสัย เช่น การใช้อภิสิทธิ์ของนักโทษชายทักษิณ ซึ่งฝ่ายค้านตรวจสอบเรื่องนี้น้อยมาก ทั้งๆที่หลักฐานข้อมูล เอกสารต่างๆชัดเจนมาก โครงการแจกเงินดิจิทัล 10000บาท สรุปแล้วจะได้หรือไม่ แล้วที่สัญญาว่าจะไม่กู้ยังจะกู้ไหม ปัญหายาบ้า 5 เม็ด ที่นำไปสู่ การค้าบ้าเสรีสำหรับรายย่อย ปัญหาเกาะกูด ที่ประชาชนหวาดระแวง ที่จะนำไปสู่การเสียดินแดน ทั้งๆที่สัญญาระหว่างสยามกับฝรั่งเศสในปี 2449 ระบุชัดเจนว่าเกาะกูดเป็นของไทย ปัญหาปากท้องประชาชน จนตลาดเงียบเป็นป่าช้า หรือแม้แต่ปัญหาที่ดินส.ป.ก. ที่เมื่อเปลี่ยนเป็นโฉนดเพื่อการเกษตรแต่กลายเป็น เอื้อนายทุนฮุบที่ป่าได้เป็นทางการ
    
 คำถามที่ต้องถามกลับไปยังพรรคก้าวไกล ทำไมพวกท่านไม่กล้าซักฟอกรัฐบาล หรือว่า 1.การที่นายธนาธรไปพบนายทักษิณที่ฮ่องกง เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2566 ทำให้พรรคไม่กล้าซักฟอกนายทักษิณ 2.หรือพรรคก้าวไกลกลัวถูกย้อนศร กรณีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเรื่องล้มล้างการปกคริงฯ ในทำนองเองก็ชั่ว ข้าก็เลว 3.หรือว่าพรรคก้าวไกลไร้น้ำยาจริงๆ มีแต่จะยกเลิกม.112 ระวังถ้าเป็นแบบนี้สักวันหนึ่งจะโดนโห่ไล่ลงเวที"
   
  ด้าน นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านอาจจะไม่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แล้วถูกมองว่าการทำงานของฝ่ายค้านแผ่วลง ว่า ไม่หรอก ที่ผ่านมาฝ่ายค้านคุยกันว่าให้แต่ละพรรคไปเตรียมข้อมูลอภิปรายตรวจสอบรัฐบาลอยู่แล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมา ไม่ได้มีข้อสรุปอย่างเป็นทางการว่าจะยื่นหรือไม่ เมื่อไหร่ โดยเมื่อวานนี้ ตนได้หารือกับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ไปแล้วบางท่านถึงความพร้อมในการยื่นอภิปราย ซึ่งมีแนวโน้มว่าพร้อม ตอนนี้ต้องรอแกนนำหารือกันในวันนี้ คงจะมีการคุยกันอย่างไม่เป็นทางการ ก่อนจะมีการประชุมฝ่ายค้านอย่างเป็นทางการสัปดาห์หน้า เพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน ในส่วนของความพร้อมของพรรคก้าวไกล ส.ส.ที่อยู่ในคณะกรรมาธิการวิสามัญงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 น่าจะพร้อมอภิปรายรัฐบาล อย่างน้อยก็อภิปรายแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ได้ ส่วนระยะเวลาน่าจะเป็นช่วงหลังวุฒิสภา ซึ่งน่าจะเป็นสัปดาห์แรกของเดือน เม.ย. ก่อนปิดสมัยประชุมสภาฯ
    
 เมื่อถามว่า ข้อมูลที่มีไม่สามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ขอเช็กดูก่อน ขณะนี้ตนยังไม่ได้คุยกับทุกพรรค ขอหารืออย่างเป็นทางการก่อน ยืนยันว่าไม่แผ่ว ไม่ได้เกรงใจรัฐบาล ขึ้นอยู่กับคุณภาพของข้อมูล ปัญหาของการบริหารของรัฐบาลมีเยอะ เพียงแต่ข้อมูลด้านการทุจริตในระดับที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจ ปัญหาคือตอนนี้ รัฐบาลแทบจะไม่ได้ใช้เงินเลย ซึ่งเป็นปัญหาอีกแบบหนึ่งว่าในการแก้ พ.ร.บ.งบประมาณ โดยที่สาระสำคัญแทบไม่ได้เปลี่ยน ทำให้หน่วยงานราชการเสียโอกาสในการเบิกจ่ายไป
    
 ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการวิเคราะห์ของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ที่ระบุพรรคก้าวไกลไร้น้ำยาไม่สามารถตรวจสอบรัฐบาลได้ นายชัยธวัช กล่าวว่า เราได้พิสูจน์ตัวเองมาแล้ว ตนคิดว่าเราก็ยังทำงานตามมาตรฐานเดิม คงไม่มีเรื่องที่จะต้องไปเกรงใจหรือออมมือให้ใคร เมื่อถามว่า กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกลอ้างว่าแตะแต่กระบวนการ แต่ไม่แตะบุคคล นายชัยธวัช กล่าวว่า แตะที่กระบวนการยุติธรรมถูกต้องแล้ว เพราะเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล ที่ผ่านมาเราก็นำกฎหมาย ระเบียบ รวมถึงประกาศกระทรวงที่เกี่ยวข้องในการพักโทษมาถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นคำถามที่ไม่ได้คำตอบ เรื่องนี้พรรคก้าวไกลเกาะติดอยู่ ต้องถามรัฐบาลถูกแล้ว ถ้ามีการเอื้อประโยชน์โดยมิชอบ รัฐบาลต้องรับผิดชอบ เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลเตรียมประเด็นอะไรไว้บ้าง นายชัยธวัช กล่าวว่า เยอะครับ ใจเย็นๆ เมื่อวานคัดไว้เต็มกระดานจนต้องคัดออก
   
   นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคใต้ กล่าวถึงกรณีที่ประธานวิปฝ่ายค้านระบุจะไม่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว อย่างนี้ไม่เป็นการเสียโอกาสในการตรวจสอบรัฐบาลใช่หรือไม่  ว่า จากที่ได้สอบถามยังไม่มีใครบอกว่าจะไม่ยื่น เป็นแค่คำสัมภาษณ์ของบุคคลคนหนึ่ง ซึ่งในข้อเท็จจริง ตนได้ถามถึงพรรคก้าวไกลแล้ว เขาบอกว่าไม่ได้พูดอย่างนี้ ซึ่งตนยังงงกับข่าวดังกล่าวที่ออกมา เพราะการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจฝ่ายค้านยื่นอยู่แล้ว แต่ต้องดูที่ข้อมูลว่ามีแค่ไหน เช่น นโยบายรัฐบาลที่ประกาศแล้วแต่ยังไม่ได้ทำ และงบประมาณปี 2567 ที่จะประกาศใช้ และอะไรที่ทุจริต ก็ต้องอภิปรายแน่นอน
  
   เมื่อถามว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์ มีข้อมูลที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยประชุมนี้หรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า เรามีข้อมูลเพียงพออยู่แล้ว ตนบอกได้เลยว่ารัฐบาลนี้ไม่ต้องหาข้อมูลอะไรเยอะ โดยเฉพาะข้อมูลที่นายกฯเคยให้สัญญาไว้กับประชาชนแล้วไม่ได้ทำ ให้ตอบสังคมให้ได้ก่อนมีหลายเรื่องอยู่แล้ว แต่ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์มี 25 เสียง เรายื่นอภิปรายไม่ได้อยู่แล้ว ฉะนั้น เราต้องรอให้พรรคแกนนำฝ่ายค้านคือพรรคก้าวไกลเป็นผู้เริ่มยื่นอภิปราย อย่างไรก็ตามเท่าที่ตนได้สอบถามจากพรรคก้าวไกล เมื่อวันที่ 28 ก.พ. แล้ว พรรคก้าวไกลยืนยันว่าไม่ได้บอกว่าจะไม่ยื่น แต่อาจจะเป็นการสื่อสารที่ไม่ครบถ้วน