ศาลฯ อนุญาตให้เลื่อนนัดตรวจหลักฐานคดีกล่าวหา สว.อุปกิต สมคบค้ายาเสพติด-ฟอกเงิน ไปเป็น 22 เม.ย.นี้  เหตุยังคัดถ่ายเอกสารคดีทุนมินลัตไม่ได้ ขณะที่เจ้าตัวมั่นใจในความบริสุทธิ์ เผยถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง ขู่ฟ้องกลับ 

    
 ที่ห้องพิจารณา 806 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 4 มี.ค.67 ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานในคดีหมายเลขดำที่ย.1446/2566 ที่อัยการสูงสุด มีคำสั่งฟ้อง นายอุปกิต ปาจารียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เป็นจำเลย ในข้อหาเป็นสมาชิกวุฒิสภาสมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน, เป็นสมาชิกวุฒิสภาร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ สนับสนุนหรือช่วยเหลือ หรือสมคบกันกระทำผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดฯ รวม 6 ฐานความผิด
   
  โดย นายอุปกิต ปาจารียางกูร พร้อมด้วย นายเรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี ทนายความเดินทางมาศาล ด้านฝั่งอัยการโจทก์ นายชุมพล ทองเพ็ง รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดียาเสพติด ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะทำงาน เดินทางมาพร้อมด้วย น.ส.สุภาภรณ์ นิปวณิชย์ หรืออัยการดาว อัยการผู้เชี่ยวชาญคดียาเสพติด 9 เดินทางมาศาล
    
 ทั้งนี้คู่ความทั้งโจทก์จำเลย เเถลงขอเลื่อนนัดตรวจหลักฐานในวันนี้ออกไปอีก 1 นัด เนื่องจากคู่ความยังไม่ได้รับเอกสารที่รอคัดถ่ายเอกสารรายละเอียดเกี่ยวกับคดีทุนมินลัต ที่มีข้อเท็จจริงเดียวกัน ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ ศาลพิจารณาเเล้วเห็นว่าเป็นเอกสารสำคัญที่คู่ความทั้ง 2 ฝ่าย ยังไม่ได้ตรวจสอบ จึงอนุญาตให้เลื่อนนัดตรวจหลักฐานเป็นวันที่ 22 เเละ 29 เม.ย.
    
 ภายหลังออกจากห้องพิจารณาคดี นายอุปกิต กล่าวว่า นัดตรวจหลักฐานในวันนี้จำเป็นต้องเลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากเอกสารที่ยังไม่ได้คัดถ่ายในวันนี้มีเป็นจำนวนมากหลายสิบลัง ซึ่งจะต้องใช้เวลาอ่านเอกสารอย่างรอบคอบ จึงเลื่อนไปเป็นวันที่ 22 เม.ย.นี้ ซึ่งเราได้เตรียมพยานหลักฐานในคดีนี้ไว้พอสมควร ยืนยันความบริสุทธิ์มาโดยตลอด ซึ่งเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ศาลอาญาพิพากษายกฟ้องคดีทุนมินลัตที่มีลูกเขยเเละลูกน้องของตนเอง ซึ่งเป็นการยกฟ้องเด็ดขาดทั้งในเรื่องยาเสพติด อาชญกรรมข้ามชาติ เเละศาลได้พิจารณาว่าตำรวจได้สอบสวนผิดทิศทาง เเละได้ดำเนินคดีจำเลย 4-5 คน โดยเป็นต้นเรื่องคดีทุนมินลัต ซึ่งเมื่อ 4-5 คนไม่มีความผิด ตนซึ่งเป็น สว. เเละได้ขายธุรกิจที่ถูกกล่าวหาไปเเล้วก็ไม่น่าจะเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งในวันนัดตรวจหลักฐานก็ได้เตรียมพยานเพิ่มอีก 2 ปาก คดีนี้กับทุนมินลัตเป็นข้อเท็จจริงเดียวกันหมด เเต่ก็จะต้องดำเนินกระบวนการจนมีคำพิพากษาไปเพราะอัยการสูงสุดคนที่เเล้วฟ้องเข้ามาเเล้วเเละคงไม่ถอนฟ้อง
   
  นายอุปกิต ยังกล่าวถึงคดีที่ศาลได้ยกฟ้องจำเลยในคดีทุนมินลัตทุกข้อกล่าวหาว่า ยังยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเองตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน และเกี่ยวกับคดีทุนมินลัต ศาลได้ยกฟ้องทุกข้อกล่าวหาทั้ง 32 ข้อกล่าวหา ซึ่งศาลพิจารณาแล้วว่าหลักฐานของจำเลยสามารถหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้ทั้งหมด สรุปง่ายๆ ว่าศาลได้กรุณาพิจารณาแล้วว่าทั้ง 4 คน รวมทั้งบริษัท ไม่มีข้อกล่าวหาใดๆ เกี่ยวข้องกับยาเสพติด การฟอกเงิน และองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเลยได้รับความเป็นธรรมเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกัน ยังมีช่วงหนึ่งของคำวินิจฉัยของศาลที่ระบุว่าพนักงานสืบสวนสอบสวนทำการสอบสวนผิดทิศทาง จึงทำให้จำเลยถูกดำเนินคดี ซึ่งต้นเรื่องคือ 4-5 คน ยังไม่มีความผิดและตนเองได้ขายธุรกิจออกไปจากบริษัทตั้งแต่ปี 2562 ตั้งแต่ก่อนมาเป็น สว. ซึ่งหลังจากนี้ก็ยังคงต้องขึ้นศาลเพื่อต่อสู้คดีต่อไป
    
 ในส่วนของคดีที่ได้มีการยื่นฟ้องพนักงานสอบสวนไว้ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในข้อหาเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบนั้น แม้ศาลชั้นต้นจะยกฟ้องไปแล้ว แต่จะใช้สิทธิ์ในการยื่นอุทธรณ์คดีต่อไป เพราะชัดเจนแล้วว่ากลุ่มพนักงานสอบสวนทำการสอบสวนผิดทิศทาง จึงทำให้กลุ่มจำเลยถูกกล่าวหา และถูกควบคุมตัว ส่วนคนที่กล่าวหาตนเอง ต้องดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมให้ถึงที่สุด เพราะเป็นสิทธิ์ของตนเอง
    
 นายอุปกิต กล่าวว่า อยากจะบอกกับสังคมว่าคดีนี้มีความชัดเจนมาก มีปัญหาเกี่ยวกับกระบวนการต้นน้ำกลางน้ำที่ผิดปกติ เชื่อว่าถูกกลั่นแกล้งอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะทางการเมืองหรือกระบวนการกลางน้ำที่เคยตั้งข้อสังเกตไว้ก่อนหน้านี้ว่ามีอดีตอัยการสูงสุดผู้หญิงท่านหนึ่ง ที่ตนได้ร้องขอความเป็นธรรมไปหลายรอบ แต่ก็ไม่มีการพิจารณาในประเด็นที่ว่ามีบริษัทหลายร้อยบริษัทที่โอนเงินผ่าน Money Changer ในลักษณะนี้เป็นลักษณะของการทำธุรกิจในช่วงที่ด่านปิดและในที่สุดท่านก็เซ็นสั่งฟ้องตนเองด้วยข้อหากล่าวหาร้ายแรง ถึง 6 ข้อหา ก็ไม่ทราบว่าใครจะรับผิดชอบต่อชื่อเสียงและการที่ทั้ง 4 คน ต้องไปติดคุกเป็นเวลานาน ถึง 1 ปี 4 เดือน
    
 ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นกระบวนการกลั่นเเกล้งหรือไม่ นายอุปกิต กล่าวว่า กลั่นเเกล้งเเน่นอน ในวันที่ 15 มี.ค.ที่ สว.จะอภิปรายรัฐบาลนี้ ตนจะอภิปรายในสภาประเด็นนี้ด้วย เคยพูดถึงทฤษฎีสมคบคิดที่เอาตนไปอภิปรายในสภาหลังจากมีการจับกุมผู้ต้องหา 5 คน ที่เกี่ยวเนื่องกับทุนมินลัต ซึ่งเป็นช่วงก่อนเลือกตั้ง 6 เดือน เเละมีพนักงานสอบสวนได้ให้เอกสารไปอภิปรายในสภาและมีการเผยเเพร่ข้อมูลในโซเชียล จึงเห็นได้ว่ามีการจัดทำเป็นขบวนการ ส่วนเรื่องจะฟ้องกลับคนที่กลั่นเเกล้ง หรือฟ้องกลับ อสส. หรือไม่ ต้องรอให้คดีถึงที่สุดก่อน เเละจะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายซึ่งก็ต้องดูรายละเอียดในคำพิพากษา ในส่วนทรัพย์สินตอนนี้ถูกอายัดชั่วคราวอยู่ในรายละเอียดตามที่เป็นข่าว
     
ด้าน นายเรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี ทนายความของนายอุปกิต กล่าวว่า เดิมที่ทนายความเตรียมไว้ 20 กว่าปาก เกือบ 30 ปาก เเต่ในวันนัดตรวจหลักฐานครั้งหน้าก็จะเอาบัญชีพยานมาเทียบหับของอัยการว่ามีพยานปากไหนตรงกัน เพื่อจะได้ตัดพยานให้เหลือน้อยไม่ต้องสืบซ้ำ