วันที่ 7 มี.ค. 67  พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บัญชาการสํานักงานตรวจคนเข้าเมือง(ผบช.สตม) เปิดเผยความคืบหน้าเกี่ยวกับการดําเนินคดีกับนายเดวิด ผู้ก่อเหตุทําร้ายร่างกายแพทย์หญิงใน จ.ภูเก็ต ว่า หลังเกิดเรื่องขึ้นทางตํารวจ ตม.จว.ภูเก็ต และผู้เกี่ยวข้องได้ประชุมหารือพร้อมกับลงความเห็นว่านายเดวิด มีพฤติกรรมซึ่งเชื่อได้ว่าเป็นภัยต่อสังคม อีกทั้งเคยกระทําผิดในลักษณะคล้ายคลึงกันมา 3-4 ครั้ง ในพื้นที่ รวมถึงทาง จ.ภูเก็ต ได้มีการจัดตั้งคณะความมั่นคง โดยมีรองผู้ว่าฯ เป็นประธาน พร้อมกับเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม จนล่าสุดทราบว่ามีการเซ็นคําสั่งเพิกถอนวีซ่า นายเดวิด เรียบร้อยแล้ว 

เบื้องต้นพบว่าวีซ่าดังกล่าวเป็นวีซ่าแบบชีวิตบั้นปลาย หรือวีซ่าเกษียณอายุ สำหรับชาวต่างชาติที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป และต้องการอาศัยอยู่ในประเทศไทย ซึ่งหลังจากนี้ทาง ตม.จว.ภูเก็ต จะแจ้งเรื่องการเพิกถอนให้กับนายเดวิด รับทราบ  อย่างไรก็ตาม นายเดวิด สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 48 ชั่งโมง รวมถึงมีสิทธิขอประกันตัวได้ ส่วนเรื่องการผลักดันออกนอกประเทศนั้น ต้องรอให้คดีความสิ้นสุดเสียก่อน 

ส่วนกรณีสาวสองฟิลิปปินส์ที่ก่อเหตุตบกับสาวสองชาวไทย ในพื้นที่ ซ.สุขุมวิท 11 นั้น พล.ต.ท.อิทธิพล ระบุว่า เบื้องต้นมีการส่งตัวผู้ต้องหามาให้ ตม. แล้วจํานวน 2 คน ซึ่งศาลตัดสินแล้วว่ามีความผิด โดยหลังจากนี้จะมีการผลักดันออกนอกประเทศต่อไป ส่วนกลุ่มที่เหลือนั้นต้องรอให้ทางเจ้าของคดีส่งเรื่องมาให้ ตม. อย่างไรก็ตามยืนยันว่ายังไม่มีรายงานว่ามีบางส่วนหนีออกนอกประเทศ 

ทั้งนี้ พล.ต.ท.อิทธิพล กล่าวว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งกรณีนายเดวิด จ.ภูเก็ต และกรณีชาวต่างชาติตบป้ากลางห้างดัง จ.ตรัง รวมถึงกรณีสาวสองฟิลิปปินส์นั้น ทางสํานักงานตรวจคนเข้าเมืองไม่ได้นิ่งนอนใจ ดังนั้นจึงกําชับให้ ตม. ทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกวดขันมาเฟียต่างชาติและขอยืนยันว่าหากพบชาวต่างชาติกระทําผิดจริงทุกรายจะถูกผลักดันกลับประเทศพร้อมกับขึ้นแบล็คลิสต์อย่างแน่นอน