วันที่ 12 มีนาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จาก สว.ว่าการเดินทางไปต่างประเทศของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง ไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันกลับมา ขณะที่ผลงานในประเทศก็ไม่เห็นเช่นกันว่า ส.ว.ที่ได้รับการแต่งตั้งใช่หรือไม่ที่เป็นผู้ตั้งประเด็นคำถามนี้ ตนคิดว่าเป็นการมองไม่รอบด้าน ซึ่งเราไม่ได้แก้ปัญหาอย่างง่ายๆ ต้องใช้ความพยายามในการจัดการ โดยวันแรกที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เรามีผลงานทันที คือลดราคาพลังงาน เช่นค่าไฟฟ้า พักหนี้เกษตรกร 

นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า จากนั้นก็มีผลงานอื่นๆตามมา เช่นการพัฒนาการให้บริการสาธารณสุข บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ การแก้ปัญหาราคาพืชผลเกษตร ที่ปรับขึ้นเฉลี่ย 40% คงไม่ฟลุค รวมถึงราคายางที่ขึ้นไป 80 บาท จาก 50 บาท เหล่านี้เกิดจากการบริหารจัดการ ราคาข้าวดีขึ้น ส่วนเรื่องต่างประเทศ สิ่งเหล่านี้สำพันธ์กัน ถ้ามองแคบๆมองเป็นจุดๆ คอยแต่หาจุดผิด แต่ถ้ามองกลับกัน รัฐบาลมองแบบยุทธศาสตร์ การที่นายกฯไปเปิดประเทศให้คนรู้จัด ให้เขาเข้ามาติดต่อค้าขายกันมากขึ้น ทำให้เกิดความมั่นใจขึ้นถือเป็นพื้นฐานของเศรษฐกิจ และอย่าลืมวันนี้งบประมาณยังไม่ผ่านสภาฯ ที่ผ่านมาเราใช้วิธีบริหารจัดการเป็นหลักสามารถเพิ่มโอกาสได้มากมาย

นพ.พรหมินทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ต้องใช้สำหรับการปรับโครงสร้างสำคัญที่ยังติดกรอบในเรื่องกฎหมายต่างๆ ถือเป็นข้อจำกัดที่เราพยายามฝ่าและดำเนินการอย่างเต็มที่ สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือเรื่องการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ถามว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ความพยายามหรอกหรือ และไม่เกี่ยวข้องกับการเดินทางไปต่างประเทศของนายกฯหรือ

“วิธีการคิด นักวิจารณ์หลายคนบอกว่าไปภาคใต้เกาไม่ถูกจุด ไม่ถึงรากฐานของปัญหา ก็เพราะแก้แบบเดิมๆมาเกือบ 20 ปี ตอนนี้เราแก้แบบเดิมบวกวิธีใหม่เพิ่มเรื่องเศรษฐกิจ เห็นหรือไม่ผ้าขาวม้าที่นายกฯใช้เป็นผ้าพันคอไปปรากฎอยู่ต่างประเทศได้ ไม่ใช่ของใหม่ คงจำภาพผ้าพันคอยี่ห้อจากอาหรับที่ตีตรายี่ห้อหลุยส์วิตตองปรากฎตามห้าง ถือเป็นตัวอย่างเล็กน้อยที่ปรากฎผล” นพ.พรหมินทร์ กล่าว

นพ.พรหมินทร์ กล่าวอีกว่า ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาว คือการลงทุน นักลุงทุนต่างๆจะเข้ามา ตอนนี้เราแก้กฎระเบียบให้เกิดความสะดวกเกิดความมั่นใจหลังจากนี้ก็จะเข้ามาชัดเจน รวมถึงการสร้างอีเว้นสำคัญในประเทศ เช่นง่ายที่สุดเอานักแสดงระดับโลกเข้ามา