วันที่ 12 มี.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ สภ.คลองหลวง นางวัสสิกา อายุ 50 ปีร้องทุกข์ต่อสื่อมวลชน ว่า น.ส.มนัฐชญา  บุตรซึ่งเป็นนักศึกษา ปี 2  ถูกกระบะ สีบรอนซ์เงินเฉี่ยวชนขณะเดินทางกลับบ้านพักที่บริเวณถนนเลียบคลองสอง  ต.คลองสอง  อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานีเมื่อเวลา 20.50 น. ขณะเกิดเหตุคนขับรถได้เดินลงมาดูเห็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บและสลบจึงเดินขึ้นรถขับหลบหนีไป ขณะเดียวกันมีพลเมืองดีขับวินจักรยานยนต์รับจ้างตามไปเรียกให้จอด และให้ขับรถกลับไปยังที่เกิดเหตุ ซึ่งคนขับนั้นอยู่ในอาการลักษณะคล้ายคนมึนเมา แต่ไม่มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์แต่อย่างได

โดย นางวัสสิกา กล่าาว่า ลูกสาวตนกลับมาจากซื้อชาบู ระหว่างทางกลับบ้านพักและเปิดไฟเลี้ยวเข้าซอยหมู่บ้าน ขณะเดียวกันมีกระบะขับมาด้วยความเร็ว เฉี่ยวชนเข้าที่บริเวณด้านท้ายรถจักรยานยนต์ ด้านขวาอย่างรุนแรง ทำให้ตนได้รับบาดเจ็บสาหัสและสลบลงทันทีจนกระทั่งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาล เปาโลรังสิต ซึ่งมีค่ารักษาพยาบาลสูงเป็นวงเงินถึง 300,000 บาท

ซึ่งตนเองเห็นว่าไม่ไหวเลยย้ายมายังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ แพทย์โรงพยาบาล ลงไปความเห็นว่า ลูกสาวประสบอุบัติเหตุซึ่งได้ทำการรักษา ที่โรงพยาบาลเปาโลรังสิตและโรงพยาบาลปทุมธานีระยะรักษาต่อที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาผลการวิจัยเห็นว่า กระดูกหน้าแข้งขวาและข้อเข่าขวาหัก ได้รับการรักษาและการผ่าตัดใส่เหล็กดามกระดูก ต้องใช้ระยะเวลาการรักษา 180 วัน ระหว่างเกิดเหตุจนถึงปัจจุบันนี้ทางผู้ขับขี่ไม่เคยเข้ามา ดูแลหรือให้การเยียวยาเบื้องต้นแต่อย่างใด และไม่เคยติดต่อมาถามอาการของผู้บาดเจ็บแต่อย่างใด

จนกระทั่งปัจจุบันคดีลุล่วงเลยไป 2 เดือนกว่ายังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จากการที่ลูกสาวถูกรถชนท้ายรถจักรยานยนต์ในครั้งนี้ จึงร้องทุกข์ผ่านสื่อมวลชน ผ่านไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ได้โปรดให้ความเป็นธรรมกับผู้ ได้รับบาดเจ็บด้วย