จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Social Hunter Reborn V3 ได้มีเผยแพร่ภาพและข้อความ นางแบบสาว ได้มีการใช้บริการแท็กซี่ผ่านแอพพลิเคชั่น แต่ได้มีการบอกยกเลิกแท็กซี่ก่อนที่จะมารับทำให้แท็กซี่ไม่พอใจพยามฉุดกระชากเพื่อให้ขึ้นรถแท็กซี่ โดยมีการโพสต์ข้อความว่า 

“นางแบบสาวเรียกรถแท็กซี่ผ่านแอพ
แต่เกิดเปลี่ยนใจกระทันหัน
จึงได้กดยกเลิกคำสั่งการใช้บริการ
ทำให้คนขับแท็กซี่ที่พึ่งจะมาถึงโรงแรม เกิดความไม่พอใจเดินเข้ามาหานางแบบสาว ถึงภายในโรงแรมบังคับให้โอนเงินค่าโดยสารมาให้ พร้อมกับสั่งให้ลบคลิปที่แอบถ่ายเอาไว้ บริเวณหน้าโรงแรมออกให้หมด จากนั้นคนขับแท็กซี่ได้พยายามจะลากนางแบบสาวขึ้นรถไปด้วย แต่คนที่มาพักในโรมแรม เข้ามาช่วยเอาไว้ได้ทันและคนขับแท็กซี่ได้ขับรถออกไปจากโรงแรมทันที”

ล่าสุด วันที่ 12 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวจึงติดต่อไปยังผู้เสียหาย ชื่อ น.ส.ภัลยากรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น และเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ช่วงเช้ามืดตนเอง กำลังหารถเดินทางกลับบ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ไปทานอาหารที่บ้านรุ่นพี่ แถวสุขุมวิทซอย 4 โดยได้มีการติดต่อหารถแท็กซี่ไปทางแอปพลิเคชัน ช่วงเวลาตี 4 ของวันที่ 8 โดยแท็กซี่ที่ได้กดรับงานได้พยามติดต่อโทรศัพท์เข้ามา เพื่อสอบถามทางที่จะไปรับ โดยอ้างว่าหมุดที่ปักไม่ตรง ทำให้หลงตนเองจึงบอกกับคนขับว่าเดี๋ยวไปเจอที่ปากซอยที่โรงแรมในภาพ เพื่อสะดวกในการรับ แต่เหมือนคนขับไม่พอใจใช้ถ่อยคำหยาบคายในโทรศัพท์ และมีการขอค่าเสียเวลา 100 บาท ตนเองจึงมีการพูดคุยว่าทำไมต้องเสียเงิน 100 บาท ทั้งๆทีไม่ใช่ความผิดตนเอง ตนเองเลยขอยังเลิกบริการ เนื่องจากไม่สบายใจที่ใช้บริการ แต่คนขับ ยังมีการพูดว่า เดี๋ยวมึงเจอกูไอ้…… แล้ววางสายไป 

เป็นจังหวะเดียวกับที่คนขับแท็กซี่เลี้ยวเข้ามาช่วงหน้าโรงแรมตนเองจึงเข้าไปหลบภายในโรงแรม พอแท็กซี่คันเขียวเหลืองของคนก่อเหตุจอดที่หน้าโรงแรมก็ตรงปรี่เข้ามาหาเรื่องและทวงค่าเสียเวลา จนตนเองตัดปัญหาเลยโอนเงินไปให้ แต่คนขับก็ยังไม่พอใจยังพยามหาเรื่องตน โดยมีบางช่วงจะพยามทำร้ายตนเอง โดยมีจังหวะนึงที่มีการกระชากโทรศัพท์มือถือที่ได้ถ่ายคลิปเหตุการณ์ไว้ มายื้อแย่งเพื่อลบคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนคนก่อเหตุได้โทรศัพท์ไปได้ คนก่อเหตุพยามขึ้นรถโดยให้ตนขึ้นไปเอาโทรศัพท์บนรถ จน รปภ.ของโรงแรมที่เกิดเหตุได้เข้ามาช่วยเหลือ จนตนเองสามารถเอาโทรศัพท์กลับคืนมาได้ อีกฝ่ายเริ่มตกใจ ก่อนที่จะหลบหนีไป ตนเองได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สน.ลุมพีนี เพื่อให้ติดตามผู้ก่อเหตุต่อไป โดยหลังจากไปแจ้งความ ผู้ก่อเหตุยังไม่ได้ติดต่อเข้ามา แต่ที่รู้ชื่อกับที่อยู่และรถคนก่อเหตุนั่น ได้มาจากแอปพลิเคชัน และพลเมืองดี 

ฝากถึงการใช้แอปพลิเคชันในตอนกลางคืน ที่คิดว่าปลอดภัยแต่ตอนนี้กลับทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย อยากให้ทุกคนระมัดระวังตัวเองยิ่งถ้าเป็นผู้หญิงด้วยแล้วการเดินทางมันไม่ปลอดภัย