วันที่ 13 มี.ค.2567  ที่ บก.สอท.5 พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5  เปิดเผยว่าตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560 พ.ร.บ.ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงินพ.ศ.2523 ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.กู้เกียรติ วงษ์พันธ์ ผกก.2 บก.สอท.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.2 บก.สอท.5 ทำการสืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราฯ และ พ.ร.บ.ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงินฯ โดยมีการสืบสวนหาข่าวอย่างต่อเนื่อง

 

สืบเนื่องจากมีราษฎรชาว จ.สงขลา ได้รับความเดือดร้อนจากนายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบ ยึดโฉนดที่ดิน แล้วยังตามทวงเอาดอกเบี้ยเพิ่มจนไม่สามารถใช้ชีวิตปกติสุขได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.2 บก.สอท.5 จึงทำการสืบสวนทราบว่า “นายใจ (นามสมมติ)” ประกอบอาชีพเป็นนายทุนปล่อยเงินกู้เป็นอาชีพหลัก มีพฤติการณ์กระทำความผิดเกี่ยวกับการแอบลักลอบปล่อยเงินกู้นอกระบบ โดยมีการส่งนายหน้าไปหากลุ่มพ่อค้าแม่ค้าตามตลาดสดต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดสงขลา รวมไปถึงประชาชนในละแวกใกล้เคียง แล้วโฆษณาชักชวนให้กู้ไม่จำกัด โดยคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ในอัตราร้อยละ 5-10 ต่อเดือน โดยใช้การอำพรางสัญญาว่าเป็นการซื้อสิ่งของ เช่น โทรศัพท์ มือถือ ฯลฯ โดยที่ไม่ได้เป็นการซื้อสินค้านั้นจริงๆ หรือการคิดดอกเบี้ยร้อยละ 60-120 ต่อปี จะต้องมีการวางโฉนดไว้เป็นหลักค้ำประกัน หากเป็นโฉนดที่ไม่ใช่การขายฝาก จะใช้วิธีการฟ้องบังคับจำนองกับโอนลอย ซึ่งได้ทำมาเป็นระยะเวลานานแล้ว และมีพฤติการณ์ในการทวงหนี้ ไปติดตามทวงหนี้จากลูกหนี้ มีการข่มขู่ลูกหนี้ ทำให้ลูกหนี้ได้รับความเสียหาย อับอาย และเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้นต่อศาลแขวงสงขลา เพื่อเข้าค้นบ้านหลังดังกล่าว

ต่อมาวันที่ 8 มี.ค.67 เวลาประมาณ 07.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.5 ชุดจับกุม ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดสงขลา ที่ ค.42-43/2567 ลงวันที่ 7 มีนาคม 2567 พบว่าบ้านดังกล่าวเป็นห้องแถว 2 ห้องติดกัน พบนายใจเดินออกมาเปิดประตูบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงหมายค้น ผลการตรวจค้นพบของกลางอยู่ภายในบ้าน ดังนี้ 1. ใบคู่มือจดทะเบียนรถ จำนวน 4 เล่ม ,2. ใบแทนโฉนดที่ดิน ไว้สำหรับค้ำประกันเงินกู้ จำนวน 3 ฉบับ,3. สำเนาใบแทนโฉนดที่ดิน ไว้สำหรับค้ำประกันเงินกู้ จำนวน 4 ฉบับ,4. สำเนาหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ไว้สำหรับค้ำประกันเงินกู้ จำนวน 3 ฉบับ,5. สำเนาภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมรายละเอียดการกู้ยืมเงิน จำนวน 8 ฉบับ,6. สำเนาภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมรายละเอียดการค้ำประกันเงินกู้ โดยใช้โฉนดที่ดิน เพื่อค้ำประกัน จำนวน 1 ฉบับ 7. หนังสือสัญญาเงินกู้ตามกฎหมายใหม่ ที่ยังไม่ได้ใช้งาน จำนวน 1 เล่ม,8. หนังสือสัญญาเงินกู้ตามกฎหมายใหม่ ที่ใช้งานแล้ว จำนวน 1 ฉบับ และได้ขอตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ยังพบว่ามีการข้อความสนทนาเกี่ยวกับปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด อยู่ในแอปพลิเคชันไลน์ โดยให้การยอมรับว่าไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลจริง และของกลางลำดับที่ 1 – 4 เป็นทรัพย์ที่ผู้กู้นำมาไว้เป็นประกันเงินกู้ ของกลางลำดับที่ 5-6 เป็นเอกสารใช้แทนหนังสือสัญญากู้ยืมเงิน หากผู้กู้ไม่ชำระ ก็จะใช้เอกสารดังกล่าวในการฟ้องบังคับคดี และรับว่าตนให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 – 5 ต่อเดือนจริง

ทั้งนี้ภาพถ่ายข้อความการสนทนา เป็นข้อความการสนทนาพูดคุยติดตามทวงหนี้เงินกู้จากผู้กู้กับตนเอง จากโทรศัพท์ของตนเองจริง จึงได้จับกุมในความผิดฐาน “ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล โดยจัดหามาซึ่งเงินทุนให้ผู้อื่นกู้ยืมเงิน โดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “ให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงินโดยมีลักษณะ (1)เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้” นำตัวส่ง พงส. สภ.หาดใหญ่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป