วันที่ 13 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า คุณแม่ของน้องหยอด พร้อมนายเทพรังสรรค์ เจียมใจ ทนายความ ได้ออกมาเปิดกับสื่อมวลชนหลังจากศาลอาญากรุงเทพใต้นัดสอบคำให้การจำเลยทั้ง 24 คนในคดียิงน้องหยอดและครูเจี๊ยบเสียชีวิตย่านคลองเตยว่า ในชั้นสอบคำให้การ จำเลยทั้ง 24 คนมาที่ศาลครบทุกคนและให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหากับไม่ประสงค์ไกล่เกลี่ยหรือชดใช้ค่าเสียหายใด ๆ โดยศาลนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้ เวลา 09.00 น. ส่วนที่ได้มีการยื่นขอเพิกถอนประกันตัวจำเลย 1 คน คือนายเป๊ปซี่ และคัดค้านการประกันตัวจำเลยอีก 3 คนนั้น ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล 

ด้านคุณแม่น้องหยอด กล่าวว่า วันนี้เป็นครั้งแรกที่ตนได้เจอกับจำเลยและครอบครัวของจำเลยครบทุกคน โดยเห็นว่า อีกฝ่ายไม่มีท่าทีที่จะเข้ามาพูดคุยขอโทษใด ๆ แต่กลับแสดงอากัปกิริยาด้วยการใช้สีหน้าเยาะแยะ เล่นหูเล่นตา และยักคิ้วใส่ตน ลักษณะว่า ไม่มีใครหรือกฎหมายทำอะไรพวกจำเลยได้ ต่อเจ้าหน้าที่ศาลในห้องไกล่เกลี่ย ไม่ได้มีท่าทีสำนึกผิดแต่อย่างใด 

ซึ่งจากสิ่งตนเห็นวันนี้ ตนจึงอยากฝากไปถึงจำเลยและครอบครัวของจำเลยว่า อยากให้คิดในมุมกลับว่า หากผู้ที่สูญเสียเป็นลูก ๆ ของพวกคุณ พวกคุณจะรู้สึกอย่างไร แล้วตนเองก็ไม่รู้ว่า ทางครอบครัวได้สั่งสอนลูก ๆ ฝั่งจำเลยอย่างไร ฝั่งที่สูญเสียก็ต้องมาเสียเวลามากมายและรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น เพราะสูญเสียเสาหลักของแม่ เป็นที่พึ่งทางใจของแม่ เป็นสิ่งเดียวที่ตนมีในชีวิต แต่กลับพังทลายหายไปเลย ทว่าพวกฝ่ายจำเลยยังมีชีวิตอยู่ เพราะว่ากฎหมายให้โอกาสต่อสู้คดี แต่ลูกของไม่มีแม่กระทั่งโอกาสที่ฟื้นขึ้นมาสั่งลาใด ๆ เลย ทั้งที่เขาไม่ได้ผิดใด ๆ เพียงน้องตั้งใจมาเรียนที่นี่ เพื่อมีงานทำเลี้ยงดูครอบครัว 

ตอนนี้ตนไม่คาดหวังคำขอโทษจากอีกฝ่ายแล้ว เพราะเชื่อว่า หากอีกฝ่ายต้องการขอโทษ ก็คงขอโทษไปตั้งนานแล้ว แต่กลับไม่มีเลย ตนยังหวังภาวนาวอนให้ศาลท่านเมตตาให้ความยุติธรรมแก่ลูก แต่จะตัดสินอย่างไรก็ขอให้เป็นดุลพินิจของศาล ตนเชื่อว่าความยุติธรรมต้องมี