วันที่ 13 มี.ค.67 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายอภิสิทธิ์ ฉวานนท์ หรือ เคี้ยง คณะกรรมการนิสิตคณะนิเทศศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นตัวแทนกลุ่มเพื่อน มายื่น คำร้อง ไม่คัดค้านการปล่อยชั่วคราวและคำแถลงเพิ่มเติมข้อพิจารณา เกี่ยวกับการกักขังคุมตัวทานตะวัน และแฟรงค์ คดี ม.116 เนื่องจากสถานการณ์ตอนนี้ทั้งสองคนและกลุ่มผู้ต้องขังในคดีการเมืองอีกหลายคนที่ถูกคุมขังในเรือนจำ จากคดีที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง วันนี้ตนเองในฐานะตัวแทนของ นิสิตจุฬา และ เป็นตัวแทนนิสิตของคณะนิเทศศาสตร์จุฬาฯ และมีกลุ่มส่งเสติมมนุษยธรรมสากล องค์การบริหารสโมสรบริหารนิสิต จุฬาฯ และกลุ่มเพื่อนนิสิต จุฬาฯอีกบางส่วน มายื่นคำร้องถึงศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก
พร้อมกันนี้ นายอภิสิทธิ์ ยังได้อ่านแถลงการณ์ โดยมีเนื้อหา โดยสรุปว่า ขณะนี้ ข้าพเจ้า กับเพื่อนยังศึกษาอยู่และถือว่าจัดอยู่ในภาคส่วนของเยาวชนคนรุ่นใหม่ ซึ่งจะต้องรับภาระหน้าที่ในการดำรงอยู่ในสังคมต่อไป และจะกลายเป็นผู้ใหญ่ในสังคมในภายภาคหน้าจะต้องประกอบอาชีพหาเลี้ยงครอบครัว ทำนุบำรุงสังคมและเยาวชนในรุ่นหน้า ซึ่งพวกข้าพเจ้า กับเพื่อนเชื่อว่าคนรุ่นใหม่ทุกคนในสังคมขณะนี้มีความคาดหวังถึงสังคมที่ดีกว่าที่เป็นธรรม ที่เป็นระบบกฎหมายใช้ได้ต่อหน้าทุกคน อย่างเท่าเทียมไม่มีใครเล็กหรือใหญ่กว่าผู้ใด และคาดหวังถึงสังคมที่ศาลและคำพิพากษาคือสิ่งที่เป็นข้อยุติข้อพิพาทในสังคมได้
ข้าพเจ้าเล็งเห็นว่าเพื่อนทั้งสองซึ่งก็คือผู้ต้องหาทั้งสองในคดีนี้ยังไม่ถูกฟ้องเป็นคดีแต่ประการใดและคดียังไม่ถึงที่สุด ต้องถูกถือเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ การขังเขาไว้เพียงเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจยังสืบพยานอันไม่มีรายชื่อเปิดเผยให้ไปติดตามทำลายพยานหลักฐานใดได้ รวมถึงการที่ขังไว้ทั้งที่พนักงานสอบสวนเองก็ไม่เห็นว่าการปล่อยไปจะเป็นอันตรายใดต่อคดี และการไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวทั้งสองแม้ว่าครอบครัวจะยินดีนำหลักประกันมา ขอทำสัญญาประกันนั้นเป็นเรื่องที่เกินกว่าความจำเป็นไปมาก
ในฐานะคนรุ่นใหม่ซึ่งกำลังจะกลายเป็นกำลังหลักในสังคมต่อไปภายหลังจบการศึกษาพวกข้าพเจ้าเห็นว่าสังคมของเราควรเปิดพื้นที่ให้มีการถกเถียงกันอย่างอิสระ เพื่อให้สามารถหาทางออกร่วมกันได้ การตั้งคำถามหรือการมีความคิดเห็นแตกต่างไม่ใช่อาชญากรรม สำหรับเพื่อนทั้งสองนี้ หากมีการขอฝากขังอีกก็ขอให้ศาลไม่อนุญาตหากมีการขอปล่อยชั่วคราวข้าพเจ้าก็ไม่คัดค้านและไม่เห็นภยันตรายใดจึงขอให้ศาลกรุณาปล่อยเพื่อนออกมาใช้ชีวิตของเขาด้วย ขอได้โปรดพิจารณา
โดย นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวด้วยว่า ตนเองไม่ได้สนิทกับทานตะวันเป็นการส่วนตัวแต่เนื่องจากเป็น รุ่นเดียวกัน และเห็นทานตะวัน ม่ตั้งแต่ช่วงที่มีม็อบ มีการเคลื่อนไหวทางสังคม ตะวันเองก็เป็นคนที่สร้างแรงกระเพื่อม สร้างความเปลี่ยนแปลงทางความคิดให้กับพวกเราเหมือนกัน เราอายุพอๆกันในฐานะที่เป็นคนรุ่นใหม่เหมือนกัน พอจะมีอะไรที่สามารถทำเพื่อตะวันได้บ้างก็อยากมายื่นให้ตะวันและแฟรงค์รวมถึงคาดหวังให้นักโทษทางการเมืองทุกคน ได้รับสิทธิเสรีภาพไม่มีใครจำเป็นต้องถูกขังในเรือนจำจากความคิดที่เห็นต่าง ไม่ควรจะถูกพรากอิสรภาพไม่ให้เจอพ่อเจอแม่เจอ หมาแมวที่บ้านทุกคนมีครอบครัว ทุกคนมีชีวิต เพียงแค่ การออกมาแสดงความเห็น ตนเองในฐานะที่เป็นนิสิตจุฬาฯมองว่าเรื่องหารแสดงความเห็นที่แตกต่างนี้ ไม่ควรจะถูกคุมขัง
ทั้งนี้ มีประชาชน บางส่วนมาร่วมกิจกรรมและนำดอกทานตะวัน มาเพื่อแสดงสัญลักษณ์ ขอให้มีการปล่อยตัว ตะวัน กับ แฟรงค์ ด้วย