วันที่ 14 มี.ค.67 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ไปยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมสรรพกร ขอให้ตรวจสอบกรณีที่เฮียอั้ง เมืองชล มอบค่านายหน้าการซื้อขายพระเครื่องให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เป็นเงินกว่า 10 ล้านบาท ว่าการซื้อขายพระครั้งนี้ได้ชำระภาษีให้กรมสรรพกรหรือไม่ หากไม่ได้ชำระภาษี ขอให้กรมสรรพกรดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า ไปพบข้อมูลการซื้อขายพระเครื่อง ระหว่าง เฮียอั้ง เมืองชล ผู้ซื้อ กับอดีตข้าราชการคนหนึ่ง ผู้ขาย จำนวน 8 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2558-2561 รวมมูลค่า 30.6 ล้านบาท ซึ่งเฮียอั้ง ได้จ่ายค่าแนะนำแก่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่เป็นนายหน้า จำนวน 10.6 ล้านบาท ทำให้พบความผิดปกติไม่ชอบมาพากล คือ โดยปกติค่านายหน้าจะต้องได้รับเงินจากผู้ขาย แต่ในกรณีนี้เฮียอั้ง ผู้ซื้อเป็นคนจ่ายเงินให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รวมทั้งเปอร์เซ็นต์ค่านายหน้านั้นโดยปกติทั่วไปในหน้าจะได้รับเงินส่วนแบ่ง 3-5% แต่การซื้อขายทั้งหมด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ค่านายหน้าถึงเกือบ 35% ซึ่งในวงการแล้วไม่มีทางที่จะได้รับเงินค่านายหน้ามากถึงขนาดนี้

แต่ที่มาร้องเรียนที่กรมสรรพากรในวันนี้ ก็เพื่อให้ตรวจสอบว่าการซื้อขายพระทั้งหมดนั้น มีการชำระภาษีหรือไม่ ซึ่งโดยปกติแล้ว ถ้ามีการซื้อขายเกิน 1,800,000 บาท ใน 1 ปี จะต้องมีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% นอกจากนี้ อยากให้ตรวจสอบด้วยว่า ได้มีการยื่นภาษีเงินรายบุคคลธรรมดา กับการซื้อขายพระเครื่องดังกล่าว แก่กรมสรรพากรด้วยหรือไม่ ถ้าพบว่าไม่มีการชำระภาษีในส่วนดังกล่าว ก็ถือว่าเป็นการหลีกเลี่ยงภาษี

นอกจากนี้ นายอัจฉริยะ ได้ฝากไปถึงทนายความของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ซึ่งเคยให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่าจะมีการนำหลักฐานมาเปิดโปงเกี่ยวกับข้อมูลการกระทำความผิดที่อาจทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสั่นสะเทือนนั้น ขอท้าทายให้รีบนำข้อมูลกลับมาเปิดเผยโดยเร็ว เพราะหากเป็นเรื่องจริงก็ถือว่าเป็นประโยชน์ ไม่ใช่มีเพียงแค่วาทะกรรม เพราะถ้าจะเปิดข้อมูลอะไรถ้าไม่ใช่เรื่องจริงทนายความก็จะมีความผิดไปด้วย ที่ให้การสนับสนุนกระทำความผิด

ซึ่งนายอัจฉริยะ ยังบอกว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยังมีข้อมูลการทุจริตภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติชาติอีกจำนวนมาก ทั้งการทุจริตโครงการก่อสร้าง, การจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ และการซื้อขายตำแหน่งตำรวจในสมัยที่ใครบางคนรุ่งเรืองเฟื่องฟู ถึงขนาดมีการนำเงินสดใส่กล่องแอปเปิ้ลขึ้นไปให้ที่ห้องทำงาน ซึ่งจะทำให้ใครบางคนถึงกับเป็นลม

อย่างไรก็ตาม ในวัน 18 มีนาคมนี้ จะไปยื่นเรื่องที่กระทรวงมหาดไทยเพื่อให้ตรวจสอบการซื้อปืนกว่า 200 กระบอก ของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ว่านายทะเบียนทำไมจึงอนุญาตให้บุคคลคนเดียวสามารถทำเรื่องขอซื้ออาวุธปืนได้มากขนาดนี้