วันที่ 15 มี.ค.67 เวลา 09.00 น.ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม.  น.ส.ณัฐทิตา หรือ “เจ๊เป๊ปซี่ พันล้าน”อายุ 39 ปี  และ นายสุขุม(สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี สองสามีภรรยา นักธุรกิจชาติพันธุ์ม้ง เจ้าของบริษัทซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องประดับ เสื้อผ้า ของชนเผ่าม้ง จำหน่ายส่งขายทั้งในและต่างประเทศ เดินทางเข้าพบ พงส.กก.4  บก.ป.เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีที่ น.ส.วัทนพร หรือ น้ำอินทร์ อดีตนางเอกนักแสดงภาพยนตร์ม้ง  กับพวกรวม 10 คนแจ้งความดำเนินคดีทั้งสองคนในข้อหาหลอกลงทุน กลุ่มชนชาติพันธุ์ม้ง ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย น่าน รายละหลักหมื่นถึงหลักล้านบาท ลงทุนด้วยการทำสัญญาเงินกู้ มูลค่าความเสียหายรวม 10 ล้านบาท เมื่อ 20  ก.ย.2566

น.ส.ณัฐทิตา หรือ “เจ๊เป๊ปซี่ พันล้าน“ ซึ่งเดินทางมาด้วยเปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่ตนกับสามีจะถูกน้ำอินทร์ คู่กรณีกับพวก มาแจ้งความกองปราบฯ นั้น วันที่ 9 ก.ย. ตนได้ไปแจ้งความ ที่ สภ.เวียงแก่น ภ.จว.เชียงราย บช.ภ.5 ดำเนินคดีเขากับพวก บุกมารื้อและค้นเอาเอกสารสำคัญซึ่งเป็นทรัพย์สินของบริษัทฯ ไปจากรถบรรทุกที่ตนเตรียมจะขนย้ายจากเชียงรายไปที่บ้านพักจังหวัดน่าน โดยน้ำอินทร์อ้างว่าเป็นตัวแทนของเจ้าหนี้ตน ทั้งที่ไม่มีหมายศาลมา ก่อนนำเอกสารนั้นมาใช้ประกอบการแจ้งความที่กองปราบฯ ตนได้มอบทนายให้มาติดต่อขอคืน แต่รับแจ้งว่าไม่ได้รับเอกสารสำคัญเหล่านั้นไว้

ตนมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามในวันนี้จึงอยากจะขอโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงว่าที่ถูกอีกฝ่ายออกข่าวกล่าวหาไม่เป็นความจริง เช่น ที่อ้างว่าตนแอบอ้างบุคคล มีเชื้อเจ้าคนชั้นสูงกับผู้ว่าฯหนุนหลังเรื่องนี้ไม่เป็นความจริงที่เค้าอ้างว่าตนมอบของให้ตำรวจแล้วให้ตำรวจเอาของมาให้พวกเขานั้นไม่เป็นจริง เพราะนั่นเป็นการบังคับข่มขืนจิตใจให้ตนจำต้องเซ็นมอบทรัพย์สินไป ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่รับประกันความปลอดภัยและไม่ให้ออกจากพื้นที่อำเภอเวียงแก่น

โดย น.ส.ณัฐทิตา กล่าวว่า ได้ร้องทุกข์กับพวกของดารานักแสดงชาวเขาคนดังกล่าวไว้เรียบร้อยไว้แล้ว ดารานักแสดงกับพวกอ้างว่าตำรวจตีราคาทรัพย์สินของตนประมาณ 200,000 บาทความจริงคือตำรวจไม่มีสิทธิ์ตีราคาทรัพย์สินของตรเพราะทรัพย์สินเหล่านั้นไม่ใช่ของตำรวจ และอีกอย่างทรัพย์สินของตนมีมูลค่ามากกว่าราคานั้นอยู่แล้ว

อีกทั้งตนเองก็ยังไม่ได้ตีราคาทรัพย์สินของตนด้วยตนเองเลย คนเหล่านั้นก็ขนทรัพย์สินของตนไปเกือบหมดแล้วและหลังจากแจ้งความที่สภ. เวียงแก่นเสร็จ ตนกับสามีอยากจะขอร้องขอความเป็นธรรมจากสื่อมวลชนด้วยว่าหลังจากเกิดเรื่องคดีความ ปรากฏว่าคู่กรณีได้มีการข่มขู่ครอบครัวของตนและลูกของตนที่โรงเรียนนานาชาติ จนไม่เป็นอันเรียน เกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยเพราะได้มีข้อความว่าจะทำให้ไม่มีจุดยืนในสังคม 

ภายหลังจากนั้น เจ๊เป๊ปซี่และสามี จึงได้เข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามเพื่อสอบถามความคืบหน้าคดีและเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อไป