หลังจากที่เคยกลายเป็นข่าวใหญ่สุดหดหู่ กรณี “น้องเอ” อดีตทหารหญิงรับใช้ ถูกนายจ้าง ส.ต.ท.หญิง ทำร้ายร่างกาย ทำให้จมูกแตกละเอียด หายใจได้ข้างเดียว ใบหน้าได้รับความเสียหายร้ายแรงจนผิดรูป

ดร.เซปิง ไชยศาส์น

ที่ผ่านมา “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ได้ยื่นมือช่วยเหลือ โดยได้ประสานขอให้ “ดร.เซปิง ไชยศาส์น” ช่วยเหลือเคสนี้ ปัจจุบันน้องเอได้รับการผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้าจนประสบผลสำเร็จแล้ว ซึ่งที่ผ่านมายังไม่เคยเปิดโฉมหน้าหลังการรักษาแก้ไขโดยการทำศัลยกรรมมาก่อน และในวันนี้ศาลจังหวัดราชบุรีได้มีคำพิพากษาแล้ว จึงขอเผยโฉมทั้งก่อนและหลังทำศัลยกรรมให้ประชาชนที่คอยส่งกำลังใจให้น้องเอมาโดยตลอดได้ยลโฉม

น.ส.เอ ส.ต.หญิง อดีตทหารหญิงรับใช้ - ดร.เซปิง

ดร.เซปิง ไชยศาส์น กล่าวว่า “ทีมศัลยแพทย์ตกแต่งความงามได้ทำการผ่าตัดแก้ไขกระดูกอ่อนของผนังจมูกและปรับทางเดินหายใจด้านซ้ายที่อุดตัน ทำให้กลับมาหายใจด้วยโพรงจมูกด้านซ้ายได้เป็นปกติ การผ่าตัดแก้ไขหางตาด้วยการดึงหน้า ทำให้การมองเห็นกลับมาชัดเจนเป็นปกติ ตาโตขึ้น หางตายกสวยขึ้น ทั้งได้รับการผ่าตัดดึงหน้าผาก เพื่อทำลายพังผืดและยกกระชับเนื้อเยื่อ บริเวณหน้าผาก ผลหลังจากการผ่าตัดรักษาพบว่าพังผืดบริเวณหน้าผากลดลงมากกว่าร้อยละ 90 เป็นผลทำให้บริเวณหน้าผากดูเรียบเนียนขึ้น คางดูผิดรูปและมีไขมันสะสมบริเวณแก้ม เหนียงและลำคอมาก จึงจำเป็นต้องทำการผ่าตัดเสริมวัสดุทางการแพทย์ที่คาง รวมทั้งดูดไขมัน เพื่อแก้ไขให้รูปหน้ากลับมาเป็นปกติและสวยงามขึ้นกว่าเดิม ทำให้น้องเอกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติและมีใบหน้าที่สวยขึ้น เหมือนเป็นการต่อลมหายใจให้กับคนที่สิ้นหวังได้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง

ดิฉันรู้สึกภูมิใจที่ได้หยิบยื่นโอกาสที่งดงามให้แก่น้องเอในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะการที่น้องเอถูกทำร้ายจนจมูกหายใจไม่ได้ไปหนึ่งข้างนั้น ซึ่งที่ผ่านมามีแพทย์หลายท่านที่ปฏิเสธการรักษา แต่เมื่อดิฉันสามารถจัดหาทีมศัลยแพทย์ตกแต่งเข้ามาช่วยเหลือทำการผ่าตัดให้จนน้องเอสามารถหายใจได้เป็นปกติดีแล้ว ทำให้น้องสามารถใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นมาก การต่อลมหายใจให้กับน้องเป็นสิ่งที่พิเศษมากค่ะ สำหรับการศัลยกรรมแก้ไขปัญหาจุดบกพร่องบนใบหน้าอีกหลายรายการ ทำให้น้องดูสวยขึ้น เป็นการเยียวยาจิตใจที่ดีเพื่อให้น้องได้มีโอกาสใช้ใบหน้าสร้างความมั่นใจ สร้างโอกาสในการทำงานเพื่อหาเลี้ยงตนและครอบครัว การได้มอบใบหน้าใหม่ก็เสมือนเป็นการให้ชีวิตใหม่กับน้องเอ รู้สึกยินดีและดีใจกับน้องมากๆ ค่ะ”       

 น้องเอ กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้หนูถูกทำร้ายสาหัสจนจมูกหายใจได้เพียงข้างเดียว หลังจากทำศัลยกรรมรักษาจมูก หนูเหมือนได้ชีวิตใหม่ ก่อนหน้านี้เข้าใจมาเสมอว่าการทำศัลยกรรมคือการทำให้สวยขึ้น แต่สำหรับหนูไม่ได้ทำให้สวยขึ้นเพียงอย่างเดียว การศัลยกรรมตกแต่งครั้งนี้ยังช่วยคืนลมหายใจของหนูให้กลับมาหายใจได้อย่างคนปกติอีกครั้งด้วยค่ะ ซึ่งตอนนี้หนูหายใจได้ 100 เปอร์เซ็นต์แล้วค่ะ หนูขอขอบพระคุณ ดร.เซปิง ที่ท่านกรุณาคืนลมหายใจให้หนู และยังช่วยเปลี่ยนใบหน้าของหนูที่เคยถูกทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกลายเป็นคนขี้เหร่ เมื่อ ดร.เซปิง ช่วยปรับเปลี่ยนศัลยกรรมใบหน้าให้แล้ว ในชีวิตของหนูเพิ่งได้สัมผัสคำว่า “สวย” เป็นแบบนี้นี่เองค่ะ”

สำหรับคดีอาญา วันที่ 14 มีนาคม 2567 ศาลจังหวัดราชบุรี นัดฟังคำพิพากษา อดีต ส.ต.ท.หญิง หรือ เจ๊นุช และ แฟนหนุ่ม ที่ร่วมกันทำร้าย น.ส.ปัทมา ศิริรัตน์ หรือ น.ส.เอ ส.ต.หญิง อดีตทหารหญิงรับใช้ของเจ๊นุช

 ศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยที่ 1 และ 2 มีความผิด ร่วมกันทำร้ายร่างกายให้ได้รับอันตรายสาหัส, จำเลยที่ 1 มีความผิด กรรโชกทรัพย์ และ ข่มขืนใจ มีโทษจำคุก 13 ปี 5 เดือน พร้อมให้จำเลยที่ 1 ชดใช้เงินให้กับ น.ส.เอ ส.ต.หญิง ทหารรับใช้ เป็นจำนวนเงิน 365,620 บาท และจำเลยที่ 2 พกพาอาวุธ และไม่จ่ายค่าแรงตามกฎหมาย มีโทษจำคุก 4 ปี 1 เดือน และให้จำเลยที่ 1 และ 2 ร่วมกันชดใช้เงินเป็นจำนวน 350,616 บาท ให้กับ น.ส.เอ ส.ต.หญิง ทหารรับใช้ อีกด้วย

น้องเอ กล่าวหลังฟังคำพิพากษาว่า “สำหรับผลของคำพิพากษาในครั้งนี้ก็คือผลอันเกิดจากการกระทำของตัวผู้กระทำเองทั้งนั้น ใครทำสิ่งใดไว้ย่อมได้รับผลจากการกระทำอันนั้นเอง คือเรื่องจริงที่สุด”