การทำความเข้าใจน้ำมันรถยนต์แต่ละประเภทมีความสำคัญต่อผู้ใช้รถ เพื่อป้องกันการเติมน้ำมันผิด โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เร่งรีบ น้ำมันใกล้หมด จนอาจลืมเช็คว่าเติมน้ำมันถูกมั้ย น้ำมันประเภทนี้เหมาะกับรถของเราหรือเปล่า เพราะน้ำมันแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและเหมาะกับเครื่องยนต์ที่แตกต่างกันไป 

สำหรับใครใช้รถบ่อย ๆ และกำลังมองหาปั้มน้ำมันใกล้ฉันที่มีโปรดี ๆ เรามีโค้ดเติมน้ำมันฟรีมาแนะนำจากประกันติดโล่ กับโปรโมชันต่ออายุประกันรถยนต์บนแอป รับโค้ดเติมนํ้ามัน PT มูลค่าสูงสุด 300 บาท

น้ำมันรถยนต์มีกี่ประเภท?

การเลือกใช้น้ำมันให้เหมาะกับเครื่องยนต์เป็นสิ่งสำคัญ แนะนำให้อ่านคู่มือรถยนต์เพื่อดูว่ารถคันนั้นใช้น้ำมันประเภทใด โดยทั่วไปน้ำมันรถยนต์แบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

1. น้ำมันเบนซิน

น้ำมันเบนซินเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่กลั่นมาจากน้ำมันดิบ ผ่านกระบวนการปรับปรุงคุณภาพให้มีค่าออกเทนสูง เหมาะสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ น้ำมันเบนซิน 91 และน้ำมันเบนซิน 95 โดยน้ำมันเบนซิน 95 จะมีค่าออกเทน 95 จึงทนทานต่อการน็อค หรือการเผาไหม้ที่ผิดปกติระหว่างอากาศและน้ำมันในเครื่องยนต์ ได้มากกว่าน้ำมันเบนซิน 91 ที่มีค่าออกเทน 91 และน้ำมันเบนซิน 95 ยังช่วยให้เครื่องยนต์เผาไหม้เชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันและมีกำลังอัดสูงกว่า น้ำมันเบนซิน 95 จึงมีราคาแพงกว่าน้ำมันเบนซิน 91

2. น้ำมันแก๊สโซฮอล์

น้ำมันแก๊สโซฮอล์เหมาะกับเครื่องยนต์เบนซินทั่วไป เป็นการผสมระหว่างน้ำมันเบนซินกับเอทานอล ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์ที่ได้จากพืช เช่น อ้อย มันสำปะหลัง ข้าวโพด น้ำมันแก๊สโซฮอล์จึงมีราคาถูกกว่าน้ำมันเบนซินและยังช่วยลดมลพิษทางอากาศได้ด้วย แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ แก๊สโซฮอล์ 91 (E10) ผสมเอทานอล 10% และแก๊สโซฮอล์ 95 (E20) ผสมเอทานอล 20% แต่ข้อเสียของการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์คือ อาจทำให้เครื่องยนต์เสื่อมสภาพเร็วกว่าการใช้น้ำมันเบนซิน

3. น้ำมันดีเซล

น้ำมันดีเซล เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่กลั่นมาจากน้ำมันดิบ ผ่านกระบวนการปรับปรุงคุณภาพให้เหมาะกับเครื่องยนต์ดีเซล มีจุดเดือดอยู่ที่ประมาณ 180-370 องศาเซลเซียส เครื่องยนต์ดีเซลเป็นเครื่องยนต์ที่มีแรงอัดสูง และสามารถจุดระเบิดได้เอง น้ำมันดีเซลแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ น้ำมันดีเซล B7 ผสมไบโอดีเซล 7% และน้ำมันดีเซล B10 ผสมไบโอดีเซล 10% นิยมใช้ในรถยนต์ที่ต้องการแรงบิดสูง และรองรับการบรรทุกของหนัก เช่น รถบรรทุก เรือ และเครื่องจักรกลอื่น ๆ ด้วย

การเลือกใช้น้ำมันให้เหมาะกับเครื่องยนต์จึงเป็นสิ่งสำคัญ แนะนำให้อ่านคู่มือรถยนต์เพื่อดูว่ารถคันนั้นใช้น้ำมันประเภทใด เพราะการใช้น้ำมันที่ไม่เหมาะสมกับเครื่องยนต์ หรือเติมน้ำมันผิดประเภท อาจทำให้เครื่องยนต์ชำรุดหรือเสียหาย ทำให้ต้องเสียค่าซ่อมแซมที่ค่อนข้างสูง และที่สำคัญ เลือกใช้บริการปั้มน้ำมันที่ได้มาตรฐาน และมีความน่าเชื่อถือด้วย