ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 20 มี.ค.67 (ตามเวลาท้องถิ่น) ซึ่งตรงกับเวลา 02.00 น. ของวันที่ 21 มี.ค.67 (ตามเวลาในประเทศไทย) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เผยผลการประชุมตัดสินใจนโยบายการเงิน ว่า ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่อัตรา 5.25-5.50% และได้ส่งสัญญาณว่า จะปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมิถุนายน และจะมีการปรับลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ลดลงจากคาดการณ์เมื่อเดือนธันวาคมที่ว่าจะลดลง 4 ครั้ง 

ทั้งนี้ ในแถลงการณ์ของเฟด ระบุว่า "ตัวชี้วัดล่าสุดชี้ให้เห็นว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจมีการขยายตัวในอัตราที่มั่นคง การจ้างงานยังคงแข็งแกร่ง และอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำ อัตราเงินเฟ้อได้ผ่อนคลายลงในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงเพิ่มขึ้น"

“คณะกรรมการพยายามที่จะบรรลุการจ้างงานสูงสุดและอัตราเงินเฟ้อในอัตรา 2% ในระยะยาว คณะกรรมการเห็นว่าความเสี่ยงในการบรรลุเป้าหมายการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อกำลังเข้าสู่สมดุลที่ดีขึ้น แนวโน้มเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน และคณะกรรมการยังคงให้ความสำคัญกับความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อเป็นอย่างมาก”

“เพื่อสนับสนุนเป้าหมายที่ตั้งไว้ คณะกรรมการจึงตัดสินใจรักษาช่วงเป้าหมายของอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางไว้ที่ 5.25-5.50% ในการพิจารณาการปรับช่วงเป้าหมายสำหรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลาง คณะกรรมการจะประเมินข้อมูลที่เข้ามา แนวโน้มการพัฒนา และความสมดุลของความเสี่ยงอย่างรอบคอบ”

“คณะกรรมการไม่คาดหวังว่าจะเหมาะสมที่จะลดช่วงเป้าหมายจนกว่าจะได้รับความเชื่อมั่นมากขึ้น ว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังเคลื่อนตัวไปที่อัตรา 2% อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ คณะกรรมการจะยังคงลดการถือครองพันธบัตรกระทรวงการคลังและตราสารหนี้ขององค์กรต่าง ๆ และหลักทรัพย์ค้ำประกันโดยหน่วยงานรัฐ ดังที่อธิบายไว้ในแผนที่ประกาศก่อนหน้านี้ คณะกรรมการมีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะคืนอัตราเงินเฟ้อให้เป็นไปตามเป้าหมาย 2%”

“ในการประเมินจุดยืนที่เหมาะสมของนโยบายการเงิน คณะกรรมการจะติดตามผลกระทบของข้อมูลแนวโน้มเศรษฐกิจที่เข้ามาใหม่ คณะกรรมการจะเตรียมปรับจุดยืนของนโยบายการเงินตามความเหมาะสม หากเกิดความเสี่ยงที่อาจขัดขวางการบรรลุเป้าหมายของคณะกรรมการ การประเมินของคณะกรรมการจะพิจารณาข้อมูลที่หลากหลาย รวมถึงข้อมูลสภาวะตลาดแรงงาน แรงกดดันด้านเงินเฟ้อและการคาดการณ์เงินเฟ้อ และพัฒนาการด้านการเงินและด้านการระหว่างประเทศ” 

ในการแถลงข่าวภายหลังการตัดสินใจของเฟด เจอโรม พาวเวลล์ (Jerome Powell) ปฏิเสธเมื่อถูกถามว่าเจ้าหน้าที่จะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายน โดยเขาย้ำว่าการปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกมีแนวโน้มจะเกิดขึ้น “ณ จุดใดจุดหนึ่งในปีนี้” 

ทั้งนี้ ภายหลังทราบผลการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ย ตลาดหุ้นสหรัฐตอบรับดี ทั้งดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลและค่าเงินดอลลาร์ลดลง โดยเทรดเดอร์เพิ่มคาดการณ์ที่เฟดจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมช่วงกลางเดือนมิถุนายน จากก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะลดในการประชุมวันที่ 30 เมษายน-1 พฤษภาคม 

อย่างไรก็ตาม ใน Dot Plot ของเฟด ซึ่งเป็นการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยที่ผู้กำหนดนโยบายแต่ละคนคิดว่าเหมาะสม มี 10 คนที่คาดว่าจะมีการลดดอกเบี้ยครั้งละ 0.25% จำนวน 3 ครั้ง หรือมากกว่านั้นในปีนี้ ขณะที่อีก 9 คนคาดว่าจะลดลงครั้งละ 0.25% จำนวน 2 ครั้งหรือน้อยกว่านั้น และผู้กำหนดนโยบายยังได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์ขึ้นเล็กน้อยสำหรับจุดที่พวกเขาเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยจะคงที่ในระยะยาว โดยค่ามัธยฐานอยู่ที่ 2.6% จากเดิมคาดที่ 2.5% 

 


#เฟด #ดอกเบี้ย #ดอกเบี้ยนโยบาย #ข่าววันนี้