ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ / ทหารประชาธิปไตย

19 มีนาคม 2024 อัลจาซีรา โดยอ้างอิงหนังสือพิมพ์ HAARETZ ของอิสราเอลว่า อิสราเอลได้ใช้สื่อออนไลน์ที่มีอิทธิพลสูงในการนำเสนอข่าว ด้วยการใช้บัญชีปลอมนับร้อยบัญชีเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ในการโจมตีหน่วยงานบรรเทาทุกข์สหประชาชาติ UNITED NATIONS RELIEF AND WORKS AGENCY FOR PALESTINE REFUGEES (UNRWA)

นอกจากนี้อิสราเอลยังทำการทรมานเจ้าหน้าที่ UNRWA บางคนให้สารภาพยอมรับว่าร่วมมือกับฮามาส

ตามข่าวที่รายงานรัฐบาลอิสราเอลได้ใช้สื่อออนไลน์ที่ใช้บัญชีปลอมหลายบัญชีในการสร้างข่าวว่า UNRWA มีโยงใยสัมพันธ์และสนับสนุนฮามาส จนทำให้ประเทศตะวันตกเชื่อถือหรืออาจสมรู้ร่วมคิดโดยกระทำการตัดงบช่วยเหลือ UNRWA เมื่อเร็วๆนี้ ทำให่มีผลในการสร้างแรงกดดันต่อพลเรือนชาวกาซารวมทั้งผู้หญิงและเด็กที่ถูกปิดล้อมอยู่ ต้องเผชิญกับชะตากรรมที่หนักหน่วงมากยิ่งขึ้น จากขาดการได้รับการช่วยเหลือของ UNRWA ที่มีงบจำกัดอยู่แล้ว

การโฆษณาชวนเชื่อนี้ถูกเปิดเผยโดย HAARETZ ที่รายงานว่ารัฐบาลอิสราเอลจัดการแคมเปญอย่างเป็นระบบ โดยใช้สื่อออนไลน์ที่ใช้บัญชีปลอมหลายร้อยบัญชี รวมทั้งพึ่งสร้างใหม่อีก 3 บัญชี “NEWS WEBSITES” เพื่อสนับสนุนการสร้างเรื่องขึ้นมากล่าวหา UNRWA ว่ามีเจ้าหน้าที่ขององค์การสนับสนุนฮามาส และทำให้ประเทศตะวันตกหลายประเทศตัดเงินช่วยเหลือดังที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้ว แต่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องเดียวที่รัฐบาลอิสราเอลใช้สื่อออนไลน์จอมปลอมสร้างเรื่องทำ IO ในสงครามกับฮามาส และมีสื่อยักษ์ใหญ่ของตะวันตกอย่าง CNN คอยขานรับ เพื่อตีข่าวให้ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น จนสื่อไทยที่มีจำนวนไม่น้อยที่บริโภคข่าวโดยอาศัยสื่อตะวันตกเป็นหลักต่างพากันตกเป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลอิสราเอลไปด้วย

หากจะวิเคราะห์ถึงประเด็นสร้างข่าวโจมตี UNRWA ของรัฐบาลอิสราเอลนี้ มองได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผนกดดันชาวปาเลสไตน์ในกาซา ประกอบกับการปิดกั้น หรือการดำเนินการเข้มข้นในการตรวจค้นหน่วยบรรเทาทุกข์ จนทำให้การช่วยเหลือล่าช้า หรือสิ่งของเสียหาย โดยเฉพาะอาหารและยารักษาโรค

นั่นยังไม่พอกองทัพอิสราเอลยังดำเนินการอย่างตั้งใจ กราดยิงผู้มารอรับความช่วยเหลือที่รวมกลุ่มกันเป็นจุดๆ ทั้งในเขตเมืองราฟา หรือในเขตกาซาเหนือ ทำให้ผู้คนล้มตายไปหลายร้อยคนแล้ว รวมทั้งเด็กและผู้หญิง ซึ่งนับเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมเป็นอย่างยิ่ง แต่สื่อตะวันตกก็พยายามทำให้ดูเหมือนเป็นข่าวปกติ และผู้เสพข่าวในไทยโดยผ่านสื่อก็พลอยเห็นคล้อยตามไปอีกด้วย

หากวิเคราะห์ต่อไปถึงแผนการของอิสราเอลที่ทำการปิดล้อมกาซา เพื่อทำให้ผู้คนอดอยากล้มตาย ในขณะที่ก็ได้ทำการโจมตีทางอากาศ ตั้งแต่กาซาเหนือ การส่งกำลังเข้าไปบุกถึงกาซาซิตี้ การถล่มโรงพยาบาลโดยข้ออ้างว่ามีอุโมงค์บัญชาการของฮามาสอยู่ใต้ โรงพยาบาลอัลซีฟา การประกาศให้ชาวกาซาอพยพลงใต้ และติดตามโจมตีจนทำให้ชาวกาซามากระจุกตัวที่ ข่านยูนิสและราฟาหรือรอฟะห์ อันเป็นปลายสุดเขตของกาซาติดชายแดนอียิปต์

เท่านั้นยังไม่พอยังโจมตีกาซาเหนืออีกระลอก รวมทั้งปิดกั้น หรือสร้างอุปสรรคในการส่งของบรรเทาทุกข์ตลอดจนโจมตีโรงพยาบาลอัลซีฟาอีกระลอกก็เพื่อไม่ให้ชาวกาซาที่ยังตกค้างอยู่ในเขตเหนืออีกหลายแสนคนได้อาศัยบริการ นับว่าเป็นแผนการที่จะขับไล่ชาวกาซาให้ลงไปรวมกันทางภาคใต้ให้มากที่สุด

จากนั้นอิสราเอลก็จะโจมตีทางใต้อย่างหนักให้มีผู้คนล้มตายจำนวนมาก เกิดความหวาดกลัวกันทั่วถ้วน แล้วส่งกำลังภาคพื้นดินเข้าไปโจมตี กวาดต้อนและทำลายกำแพงเขตแดนอียิปต์ เพื่อขับไล่ประชาชนปาเลสไตน์ในกาซาให้อพยพเข้าไปในทะเลทรายซีไน เขตแดนอียิปต์ จากนั้นชะตากรรมของชาวปาเลสไตน์ก็จะกลายเป็นผู้อพยพในค่ายลี้ภัยนับล้านคน และจะต้องอยู่ที่นั่นจนชั่วลูกชั่วหลาน

ด้านสหรัฐฯและตะวันตกก็จะเล่นบทนักบุญคอยให้เงินช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ไปตามมีตามเกิด แต่อิสราเอลได้เข้ายึดดินแดนกาซา ตามแผนการของตนโดยมีอิลิต สหรัฐฯ สมรู้ร่วมคิด นั่นคือ DEEP STATE ที่จะเข้ากอบโกยผลประโยชน์จากบ่อน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ที่ยิวไซออนิสต์ในสหรัฐฯ และซิตีออฟลอนดอน โดยท่านลอร์ดรอธไชล์เป็นผู้รับสัมปทาน

อย่างไรก็ตาม แผนการนี้จะสำเร็จลุล่วงไปไม่ได้ ถ้าอียิปต์ไม่ยอมร่วมมือด้วย ซึ่งนายพลซีซี ผู้นำอียิปต์ก็เป็นเด็กปั้นของสหรัฐฯอยู่แล้วคุยไม่ยาก แต่มันก็จะต้องมีแรงจูงใจติดไม้ติดมือมาด้วย ถึงจะมีเหตุผลที่ทำให้ผู้นำอียิปต์ไปอ้างกับประชาชนชาวอียิปต์ได้

อย่าลืมว่าฐานะทางเศรษฐกิจของอียิปต์กำลังย่ำแย่ มีหนี้สาธารณะจำนวนมาก เศรษฐกิจก็ฟุบตัวมาตั้งแต่โควิด-19 ยิ่งเกิดเหตุที่ทะเลแดงโดยฮูตี รายได้จากคลองสุเอซก็ลดลงกว่าครึ่ง อียิปต์ก็ยิ่งย่ำแย่ลงไปอีก

ดังนั้นตะวันตกจึงใช้กลไกลการเงินของตน คือ IMF ปล่อยเงินกู้ให้อียิปต์ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างง่ายดาย ทั้งที่เมื่อ 2 ปีก่อนอียิปต์ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างรุนแรง ขอกู้เพียง 3 พันล้านยังไม่ผ่าน นี่ถ้าไม่มีการสมคบคิดกันจะผ่านได้อย่างไร เท่านั้นยังไม่พอเมื่อไม่กี่วันมานี้ EU ยังให้เงินช่วยเหลืออียิปต์อีก 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

นี่เองจึงทำให้รัฐบาลอียิปต์เร่งสร้างค่ายผู้ลี้ภัยไว้รองรับผู้อพยพชาวปาเลสไตน์นับล้านที่จะไหลบ่าเข้าไปในอียิปต์ เพราะไม่อาจทนต่อการโจมตีที่ทารุณโหดร้ายและการปิดกั้นด้านอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค ทำให้เริ่มมีคนอดตายแล้วเกือบร้อย โดยเฉพาะเด็กๆที่ไร้เดียงสา

ส่วนในสหรัฐฯข่าวปลอมข่าวปล่อยเหล่านี้ก็ถูกนำไปเผยแพร่ในรัฐสภา เพื่อสร้างความชอบธรรมในการให้การสนับสนุนอิสราเอลและดิสเครดิตสหประชาชาติ

ในอีกด้านก็ทำเป็นใจบุญจะไปสร้างท่าเรือชั่วคราวที่ชายทะเลกาซาเพื่อขนส่งเสบียงบรรเทาทุกข์ แต่ใช้เวลาเกือบ 2 เดือน โดยทหารสหรัฐฯจะไม่ก้าวขึ้นบนฝั่ง นี่ก็เป็นตลกร้าย เพราะถ้าอิสราเอลไม่ยอมให้ขนเสบียงขึ้นฝั่งการบรรเทาทุกข์จะเข้าไปได้อย่างไร ขนาดบนบกผ่านด่านราฟายังบังคับอิสราเอลไม่ได้เลย

สุดท้ายคอยจับตารัสเซียว่าจะเดินหมากอย่างไรในการดำเนินแผนการของอิสราเอลที่ตะวันตกสนับสนุนนี้ น่าสนใจติดตามละครโรงใหญ่ของฝรั่งครับ

แต่ผู้รับกรรมคือชาวปาเลสไตน์ที่ถูกอิสราเอลกดขี่เข่นฆ่าขับไล่แย่งยึดดินแดนมาตลอดตั้งแต่ปีค.ศ 1948 และในที่สุดอิสราเอลก็คงยึดกาซาตามแผนที่วางไว้แต่ต้น