คลังชง ครม.ต้นเม.ย.เคาะแพ็คเกจสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 5 โครงการ หวัง 10 เม.ย.นี้ กนง.ลดดอกเบี้ย

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (SFI) เตรียมนำเสนอแพ็คเกจมาตรการเพื่อช่วยเหลือด้านสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ รวม 5 โครงการ เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประมาณต้นเดือนเม.ย.นี้ ประกอบด้วย 1.สินเชื่อตามโครงการ IGNITE THAILAND ที่เป็นความช่วยเหลือใน 3 กลุ่มธุรกิจคือ กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มการแพทย์และสุขภาพ และกลุ่มอาหาร 2.สินเชื่อฉุกเฉินเพื่อผู้ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ 3.สินเชื่อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต 4.สินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อบุคลากรภาครัฐ 5.สินเชื่อเพื่อการเริ่มต้นส่งออก มั่นใจว่าสินเชื่อที่เตรียมไว้นี้ จะส่งผลดีต่อการกระตุ้นการบริโภค และการลงทุนให้เพิ่มขึ้นได้

สำหรับรายละเอียด และวงเงินของแต่ละมาตรการต้องรอให้ผ่านที่ประชุม ครม.ก่อน คาดจะเสนอเป็นแพ็คเกจให้ ครม.พิจารณาได้ประมาณต้นเดือนเม.ย. ซึ่งแต่ละมาตรการจะมีทั้งการลดดอกเบี้ย พักหนี้ ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เป็นการลดภาระให้ประชาชนและภาคธุรกิจ ทำให้มีเม็ดเงินเหลือใช้ในการครองชีพมากขึ้น แม้จะไม่มากแต่ก็เหมือนช่วยต่อลมหายใจ และยังช่วยกระตุ้นการลงทุน การบริโภค ซึ่งจะเป็นปัจจัยผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจ นี่เป็นมาตรการทางการคลังที่จะต้องทำคู่กับมาตรการทางการเงิน 

โดยกระทรวงการคลังยังคาดหวังว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ที่จะมีขึ้นในวันที่ 10 เม.ย.นี้ คณะกรรมการจะพิจารณาปัจจัย และตัวแปรทางเศรษฐกิจให้รอบด้านมากขึ้น เพื่อนำมาประเมินก่อนตัดสินใจ โดยเฉพาะเรื่องระดับเงินเฟ้อของไทยที่อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งแตกต่างจากเงินเฟ้อในต่างประเทศที่อยู่ในระดับสูง ทำให้ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อให้เงินเฟ้อกลับไปสู่กรอบเป้าหมาย

“ตลาดมีการคาดการณ์ว่า ปีนี้ กนง.จะลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง หากเป็นเช่นนั้นจะช่วยให้เอกชนวางแผนธุรกิจได้ง่ายขึ้น ทำช่วยให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้ฟื้นตัวได้เร็ว รวมถึงเศรษฐกิจในปีหน้าด้วย ซึ่งการลดดอกเบี้ยไม่ได้ทำให้หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นเสมอไป เพราะมีการประเมินว่า ดอกเบี้ยลดลง 0.25% จะเพิ่มการบริโภคได้ 0.15% เพิ่มการลงทุนได้ 0.16%” นายพรชัยกล่าว

ทั้งนี้มองว่า สถานการณ์ลูกหนี้จัดชั้นประเภทกล่าวถึงเป็นพิเศษ (Special Mention : SM) ขณะนี้ยังมีความน่าเป็นห่วง โดยภาพรวมทั้งระบบยังอยู่ที่ประมาณ 5% ขณะที่พบว่าบางธนาคารอยู่ในระดับสูง 7% กว่า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกหนี้ในกลุ่มสินเชื่อ SME และสินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงจนกระทบต่อความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ของประชาชน โดยขณะนี้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (SFI) ได้ออกมาเริ่มดำเนินการตรึง/ลดดอกเบี้ยก่อน เพื่อเป็นการรับภาระบางส่วนให้กับพี่น้องประชาชน

โดยกระทรวงการคลังได้ติดตามสถานการณ์หนี้ที่เพิ่มขึ้น เพื่อนำลูกหนี้กลับเข้ามาสู่การเตรียมตัวปรับโครงสร้างหนี้ และการเข้าสู่แผนฟื้นฟู รวมทั้งการดูแลให้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ มีการปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบตามกฎกติกาของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และการติดตามคุณภาพสินเชื่อ และคุณภาพของลูกหนี้ ซึ่งจะช่วยให้ SM อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ 

#กนง #ลดดอกเบี้ย #สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ #สถาบันการเงิน #ข่าววันนี้