นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และทีมงาน พา2แม่ลูกผู้เสียหายที่ถูกกลุ่มเด็กช่างรุมทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส เย็บกว่า100เข็ม เข้าคัดค้านการประกันตัวของกลุ่มเด็กช่างดังกล่าว ซึ่งเกรงว่าจะออกมาทำเหตุการณ์เช่นนี้กับผู้บริสุทธิ์อีก

 ช่วงสายที่ผ่านมาเวลาประมาณ 10:40 น. นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจ สายไหมต้องรอด เดินทางพานายปฐวี อายุ 30 ปี  พร้อมมารดา ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่ เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากการถูกกลุ่มลูกเจ้าของปั๊มรุมฟันและบุกพังห้องพัก ก่อนจะไปก่อเหตุกับอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จนปรากฏเป็นข่าวก่อนหน้านี้

 ทั้งหมดเดินทางมาที่ศาลอาญามีนบุรี หลังมีกระแสข่าวว่าในวันนี้มีผู้ปกครองเดินทางเตรียมมาทำเรื่องขอยื่นการประกันตัวหนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งคาดว่าจะเป็นนายภูมิบดินทร์ ที่เป็นลูกเจ้าของปั๊มคนนี้ 

 โดยนายเอกภพ ระบุว่าหลังได้ทราบข่าวว่าในวันนี้หนึ่งในผู้ปกครองของกลุ่มผู้ต้องหา ที่ก่อเหตุจากอุกอาจจะเดินทางมายื่นขอประกันตัว ตนตนเองจึงได้พาผู้เสียหายเดินทางมาที่ศาลมีนบุรีเพื่อทำเรื่องขอคัดค้านการประกันตัว โดยทราบว่าในวันนี้มีอาสาสมัครที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกกลุ่มผู้ต้องหากลุ่มนี้ทำร้ายร่างกายก็เดินทางมาร่วมทำเอกสารเช่นกัน  

 ซึ่งประเด็นที่จะมีการยื่นการคัดค้านการประกันตัวในวันนี้คือพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ก่อเหตุที่ไม่ได้มีความเกรงกลัวต่อกฎหมายมีการกระทำต่อเนื่องซ้ำซ้อนติดต่อกัน โดยหากเทียบไทม์ไลน์จะพบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมีการลงมือทำร้ายร่างกายผู้เสียหายคือนายปฐวี ในช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดี ซึ่งคดีดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ของ สน.มีนบุรี ก่อนจะมีการติดตามมาบุกรุกพังทำลายห้องพัก ในย่านสน. บึงกุ่ม ในช่วงเวลา 04:00 น. ของวันศุกร์ ก่อนจะได้รับบาดเจ็บจากการพยายามพังประตูและมีการเรียกกู้ภัยในช่วงบ่ายของวันศุกร์ และมาก่อเหตุรุมทำร้ายกู้ภัยตามที่ปรากฏเป็นข่าว

 นอกจากนี้ตนเองยังทราบข้อมูลอีกว่าในส่วนของตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุกลุ่มนี้มีประวัติในการก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง ทั้งเรื่องของการปลาระเบิดในพื้นที่ของสน. มีนบุรี การทำร้ายร่างกายซึ่งต้องให้ตำรวจตรวจสอบว่าข้อมูลข้อมูลทั้งหมดเป็นเรื่องจริงหรือไม่ หากเป็นเรื่องจริงผู้ก่อเหตุกลุ่มนี้ไม่สมควรได้รับการประกันตัว และต้องถูกดำเนินคดีอย่างเต็มที่

 ตนเองจึงอยากขอฝากถึงตำรวจสน. บึงกุ่มและสน. มีนบุรีซึ่งเป็นเจ้าของคดีของผู้เสียหายรายนี้ให้เร่งรัดดำเนินคดีและมาดำเนินการอายัดตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้ออกไปทำร้ายร่างกายประชาชนคนอื่นอีก