เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 26 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้เผยแพร่ภาพกราฟฟิกผ่านเพจเฟซบุ๊ก "ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ" นัดสื่อแถลงเปิดโปงวงการสีกากี โดยระบุเส้นเงิน ที่อ้างชื่อผู้เกี่ยวข้อง 3 คน ซึ่งโพสไปวันที่ 24 มี.ค. แต่เช้าตรู่วันนี้เพจเฟซบุ๊กไม่สามารถเข้าถึงได้ โดยหน้าจอระบุว่า "เนื้อหานี้ไม่พร้อมใช้งานในขณะนี้" ขณะที่ในกลุ่มไลน์ของทนายษิทรา ยังยืนยันนัดหมายแถลงตามเดิม

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 26 มี.ค.67 ที่บริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม จำกัด ถ.สาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กทม. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเปิดโปงขบวนการส่วยที่เกี่ยวพันกับบิ๊กตำรวจ พร้อมกับหอบแฟ้มเอกสารหลักฐานทางคดีจำนวน 3 เล่ม โดยไม่สามารถเปิดเผยเนื้อหาภายในให้กับสื่อมวลชนได้ เนื่องจากเป็นหลักฐานสำคัญทางคดี

นายษิทรา กล่าวต่อว่า โรงซาวน่า ,ร้านเหล้าที่มี PR ,บุหรี่ไฟฟ้า ,บุหรี่หนีภาษี ,ตลาดนัด ,สถานประกอบการที่มีแรงงานต่างด้าวทำงานที่แอบเพิ่มแรงงานที่ไม่มีบัตร ,จุดคอกรับซื้อน้ำมันเถื่อน โคมแดงข้างทาง ,น้ำมันเขียวที่รัฐช่วยชาวประมง แต่จะมีเจ้าใหญ่ๆ ไม่กี่เจ้าที่ทำเป็นยี่ปั๊ว ,โต๊ะสนุ๊กเกอร์ ,หัวหน้าแขกที่เอาแขกมาขายถั่วโรตี ,คนขายยา sex และมีเพศสัมพันธ์ไลฟ์สดเพื่อขายยา sex ส่วยทั้ง 18 รายการ จะมีทีมทำงาน 5 ภาค ทีมภาคเหนือ  ทีมภาคอีสาน  ทีมภาคกลาง  ทีมภาคใต้ และทีมภาคตะวันออก ซึ่งทีมงานที่สามารถทำยอดหรือผลงานได้มากที่สุด คือทีมภาคตะวันออก ค่าตั๋วจะขึ้นอยู่กับความสำคัญของแต่ละหน่วย ซึ่งแต่ละพื้นที่จะมีทีมที่ดูแล ซึ่งหัวหน้าทีมจะมีทั้งที่เป็นนายตำรวจและบุคคลที่ไม่ใช่ตำรวจ และจะมีส่งยอดทุกวันที่ 25 ของทุกเดือน ที่ตึก สอท.

นอกจากนี้ ทนายตั้ม ได้มีการให้ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ติดต่อไปยัง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพราะเชื่อว่ากำลังดูไลพ์สดอยู่และตนจะปรึกษาทางคดี จากนั้นทนายตั้มได้สอบถามว่าสามารถนำเอกสารต่างๆไปยื่นกับบิ๊กเต่า จะรับเรื่องได้หรือไม่ ซึ่งได้ตกลงนัดหมายยื่นหลักฐานไว้พิจรณาคดีในวันที่ วันที่ 28 มี.ค.นี้ เวลา 11.00 น. ที่บช.ก.

นายษิทรา กล่าวต่อว่า ก่อนที่ออกมาแถลงข่าว และเปิดเผยเส้นทางเงินของบัญชีม้าที่มีการโยงไปถึงตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในครั้งนี้ ได้มีการปรึกษาครอบครัวแล้ว เพราะรู้ถึงผลที่จะตามมา ทั้งนี้ตนเองยอมเจ็บ เพื่อให้สังคมมีการเปลี่ยนแปลง พร้อมยืนยันการออกมาครั้งนี้ไม่ได้มีใครอยู่เบื้องหลัง และไม่มีคนว่าจ้างแต่อย่างใด และยืนยันไม่ได้เป็นการช่วย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ซึ่งเจ้าตัวได้มีการห้ามแล้ว แต่ตนเองยืนยันที่จะออกมาเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว  การออกมาเปิดเผยครั้งนี้อาจจะไม่คุ้ม แต่สังคมคุ้ม ซึ่งรู้ว่าหลังจากนี้ก็จะโดนขุดโดน แฉ รวมถึงโดนข้อหาแน่นอน