เมื่อเวลา 15.00น.  ที่ห้องประชุมมหาเมฆ นายเศรษฐาทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางมามอบนโยบาย และกำชับการปฎิบัติงานของตำรวจในสังกัด กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) โดยมีพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร.,พล.ต.อ. ธนา ชูวงศ์. รอง ผบ.ตร.,พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผบ.ตร.,พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. และข้าราชการตำรวจในสังกัดให้การต้อนรับ

นายเศรษฐา กล่าวว่า  ตนคิดว่าถึงเวลาที่ตนจะต้องมาที่นี่ คงไม่ต้องอารัมภบทอะไรมากมาย  เชื่อว่าเป็นที่ประจักษ์ดีอยู่แล้วว่าบช.สอท. ถูกสังคมเพ่งเล็งเยอะมากต้องยอมรับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มีการย้ายข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) 2 ท่าน เพื่อให้ขบวนการยุติธรรมเดินไปได้อย่างถูกต้อง  จะต้องไม่มีการก้าวก่ายและก้าวล่วง และให้ความเป็นธรรมกับท่านทั้ง 2 ด้วยเหมือนกัน ตนเชื่อว่าทุกท่านที่อยู่ในที่นี้  โดยเฉพาะรักษาการผบ.ตร.รับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมไทยเป็นเรื่องที่ถึงเวลาแล้ว ที่เราจะต้องจัดการให้หมดสิ้นไป หากอ่านหนังสือพิมพ์ฟังข่าวสารมาบอกว่าท่านผู้บัญชาการคนนั้นเป็นเด็กคนนั้นคนนี้ ตนว่ามันไม่แฟร์สำหรับท่านทั้ง 2 คน 

แต่ตนว่าไม่มีอะไรตอบสังคมได้ดีกว่าการปฏิบัติของพวกท่านทุกคน และหน่วยงานต่างๆ แต่ตนคิดว่าถึงเวลาที่จะต้องพิสูจน์กันว่าจริงๆแล้ว ไม่ใช่ตนไม่ใช่รักษาการ แต่คือประชาชน โดยงานที่ดูแลอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหวยออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บพนัน และเฟคนิวส์ทั้งหลายเหล่านี้เชื่อว่ากระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ซึ่งเราทุกคนในที่นี้ มีความเกี่ยวข้อง ต้องมีความรับผิดชอบให้พี่น้องประชาชนอยู่อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรีได้รับความเป็นธรรม ในการถูกคุ้มครองซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีไปไกลมาก และการที่พี่น้องประชาชนถูกมอมเมา ถูกหลอกลวง ถูกต้มตุ๋น ทั้งหลายนี้ บางคนเก็บเงินมาทั้งชีวิตถูกคอลเซ็นเตอร์หลอกไปหมดเลย  บางคนเก็บเงินไว้รักษาพ่อแม่และเก็บเงินไว้ส่งลูกเรียนต่อหรือ ส่งลูกเรียนต่อปริญญาโทที่เมืองนอก  นี่ไม่ใช่เป็นปัญหา ของการที่เขาถูกหลอกลวง แต่เป็นปัญหาความมั่นคงของประเทศด้วย 

นายกฯ กล่าวต่อว่า เรื่องเหล่านี้ ไม่ใช่ที่จะมาพูดเล่นๆกันหรือมาสร้างภาพ ตนมาที่นี่ไม่ได้มาเพื่อสร้างภาพ แต่มาเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยในระยะเวลาอันใกล้  เราไม่มีเวลาแล้ว เรื่องการโยกย้ายต่างๆ ผ่านไปแล้ว เรื่องกระบวนการยุติธรรมเราได้ทำไปแล้ว ตนคิดว่าเป็นเรื่องวาทกรรม  วันนี้ทำให้เกิดเป็นรูปธรรมดีกว่า  อย่าได้สนใจใครจะเป็นใครอะไรยังไง เชื่อว่าไม่มีใครใหญ่กว่าพี่น้องประชาชน ผมต้องการทำงานโดยเร็ว และ ไม่ใช่รายเล็ก ตนต้องการรายใหญ่ เชื่อว่าทุกท่านที่นั่งอยู่ตรงนี้รู้อยู่แล้ว ในหน่วยงานของท่านใครที่ทำผิดกฎหมายอยู่บ้าง ใครที่พวกท่านสามารถไปตามจับสืบมาได้ ส่วนเรื่องคดีความของทั้ง 2 ท่านที่ถูกย้าย เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมเดิมไปตามหน้าที่ เราต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ท่าน ต่อไปเราต้องเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่เช่นนั้นจะตอบสังคมไม่ได้ เพราะเรายังตอบไม่ได้ 

“วันนี้ที่มาที่นี่ ถือเป็นนิมิตรหมายอันดี แล้วกัน ไม่ได้มาว่า แต่มาให้กำลังใจ และบอกว่าไม่มีใครใหญ่กว่าพี่น้องประชาชน เราเองต้องเดินหน้า ไม่มีเวลา ที่จะต้องมาหาเหตุผลว่าทำไมถึงทำไม่ได้ เชื่อว่า เราอยู่ในบริบท ที่จะมาอธิบายว่าการทำไม่ได้ มันไม่ใช่ มันต้องทำให้ได้ด้วยเหตุผล จับรายใหญ่ให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะตอบสังคมลำบาก เพราะเป็นปัญหาความมั่นคงของประเทศ หน่วยงานของท่านสังคมเพ่งเล็ง ผมยืนยันไม่ปกป้องจะไม่นิ่งเฉย หากไม่มีผลงานเกิดขึ้น ผมว่ามีปัญหาแน่นอน เราอยู่พวกเดียวกัน ฝ่ายเดียวกัน โดยไม่ต้องคำนึงถึงนักการเมืองหรืออะไรก็ตามจะมาครอบงำ วันนี้เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ผลงานของเราจะเป็นที่ประจักษ์ ขอเป็นนิมิตรใหม่อันดีและเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ ของการที่เราเข้ามาดูแลพี่น้องประชาชน ภายใน 30 วันนี้  ชัดเจนว่าจะจับอะไรให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นหวยออนไลน์ หรืออะไรที่เกิดขึ้น ซึ่งพี่น้องถูกหลอกลวงทุกวันนี้ยังมีอยู่ ขอเลยเรื่องนี้จะต้องทำงานกันอย่างชัดเจนและใกล้ชิด เพราะเทคโนโลยีไปไกลมาก กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) พร้อมที่จะทำงานร่วมกัน ผมเจอรัฐมนตรีดีอีในวันที่ 2 เม.ย.นี้ จะกำชับอย่างเด็ดขาดว่าต้องทำงานร่วมกัน อย่ามีการโยนความผิดซึ่งกันและกัน อย่าบอกว่าคนนี้ไม่ให้ความร่วมมือ ไม่มีนะตรงนี้ ผมเชื่อว่ามานั่งตรงนี้แล้วรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้องจะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ พวกท่านเองก็ต้องให้ความสำคัญ ผมใช้เวลาประมาณ 5 นาทีที่พูดไป อยากให้ทุกท่านตระหนักดีว่าประชาชนเดือดร้อน เหตุผลที่เรามาทำงานตรงนี้ เพื่อให้ความดูแลพี่น้องประชาชน ไม่ใช่ให้คนผิดลอยอยู่ได้ และยังทำทุกอย่างผิดๆอยู่ คิดว่าถึงเวลาแล้ว อยากได้เหตุผลว่าทำไมถึงจับไม่ได้ มันต้องจับให้ได้เพื่อพี่น้องประชาชนจะได้อยู่อย่างมีความสุข อย่าให้ถูกซ้ำเติมตรงนี้ โดยเฉพาะการถูกหลอกลวง เงินหมดไปก็เป็นส่วนหนึ่งของอาชญากร ตรงนี้ถือเป็นสารตั้งต้น ที่ต้องขจัดปัญหานี้ออกไปให้หมดจากสังคมไทย ผมยืนยันเรื่องนี้เป็นเรื่องซีเรียสยืนยัน 30 วันต้องชัดเจน“ นายกฯ กล่าว

นายกฯกล่าวอีกว่า ส่วนกระบวนการยุติธรรม ที่ให้ความเป็นธรรมกับผู้บัญชาการ 2 ท่านที่ถูกย้ายก็ให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการต่อไป ให้ความร่วมมืออย่างถูกต้อง อย่าให้กล่าวโทษกล่าวหาได้ว่าเป็นเด็กของใคร เป็นคนของใครอะไรอย่างไรวันนี้เราเริ่มต้นกันใหม่แล้ว มันต้องช่วยกันดูแลพี่น้องประชาชน ให้สมกับที่พี่น้องประชาชนมีความคาดหวัง

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. กล่าวภายหลัง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบนโยบายให้กับตำรวจในสังกัด ว่า  เมื่อนายกรัฐมนตรีได้มีข้อกำชับสั่งกาีมาแล้วก็จะต้องปฏิบัติให้เต็มที่ โดยมีผลงานเป็นรูปธรรม ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการมาโดยตลอด ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีได้ระบุว่าต้องดำเนินการให้เสร็จเรียบร้อยภายใน 30 วันนั้นเนื่องจากนายกรัฐมนตรีได้เห็นปัญหาความขัดแย้งในช่วงที่ผ่านมาว่าเป็นต้นเหตุ จึงได้มีการกำชับการปฏิบัติให้มีความเข้มมากขึ้น หากไม่สามารถปฏิบัติได้ก็จะต้องพิจารณาตัวเองว่าเราทำไม่ได้ 

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีได้เดินทางกลับ ทางพล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้เรียกประชุม ข้าราชการตำรวจในสังกัดตั้งแต่ระดับรองผบช.-ผกก. เพื่อมอบหมายนโยบายดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีเป็นการเร่งด่วน