กรณี “แม่ค้าขายลูกชิ้น” ร้องขอความเป็นธรรมจากเพจสายไหมต้องรอด ระบุถูกคู่อริยกพวก 8 คนมารุมตบคาร้านลูกชิ้น ลูกสาวอายุแค่ 10 กว่าๆ ก็โดนตบไปด้วย งานนี้สู้กลับคู่กรณี จนอีกฝั่งบาดเจ็บกันระนาว
รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 1 เม.ย. 67 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์สองฝ่าย ฝั่ง ปอ ผู้เสียหายที่ร้องเพจสายไหมต้งอรอด , ตอง - ชบา ลูกสาวคนโต, เอกภพ เหลืองประเสริฐ เพจสายไหมต้องรอด อีกฝั่ง จำเนียร มือตบ , โรส มือตบ , เอ๊ะ อยู่ในแก๊งมือตบ รวมทั้ง ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล ทนายคนกลางให้ความรู้เรื่องข้อกฎหมาย
คุณทำอะไรอยู่?
ปอ : ขายลูกชิ้นทอด
ลิ้นเปลี้ยๆ เป็นอะไร?
ปอ : ตาปลอมสะเทือนจากการโดนทำร้าย
เรื่องเกิดอะไรขึ้น?
ปอ : ขายลูกชิ้นปกตินี่แหละ เขาโทรมาเอาไก่ จัดหมดแล้ว จะเลิก 22.15 - 22. 20 น. นี่แหละ เราก็เก็บกลับแล้ว แล้วมีโทรศัพท์มาถามว่าจะกลับหรือยัง ทอดลูกชิ้นให้ 10 ไม้นะ จะเอาไปให้ลูก แยกน้ำจิ้มด้วย เราก็มัดแขวนไว้ มีรถเก๋งมาจอดสองคัน หลุดถามว่าจะเอาอะไรคะ แต่พอเงยหน้าไป ก็คิดว่าไม่ใช่มิตรเราแน่ เขาก็เข้ามาว่าเราไปว่าลูกเขา นินทาหลานเขา คนที่ชื่อฝนก็เดินมาว่า มึงโพสต์ด่ากูเหรอ
ฝนไปด้วยเหรอ?
ปอ : ไป ยืนยัน ตอนที่หนูฟัน คนชื่อฝนตะโกนบอกคนอื่นว่าอีปอมีมีด
วันนั้นอยู่กี่คน?
ปอ : มีหนูกับลูกสองคน เขามา 8 คน รถเก๋ง 2 คัน
มาถึงก็เปิดเลย?
ปอ : คนชื่อเอ๊ะ เดินมาเขย่าหน้ารถเราเลยว่ามึงปากดีว่าอะไรกู ก็ตะโกนเบ่งสุดๆ
ทำไมรู้ว่าชื่อเอ๊ะ?
ปอ : เมื่อก่อนเคยทำงานด้วยกัน
คุณกระชากรถเขาจริงมั้ย?
เอ๊ะ : ยังไม่ได้ทำอะไรเลยค่ะ เดินไปกับพี่ที่เขาบอกหนูว่าคนนี้พูดถึงหนูนะว่าทางบ้านหนูเรียกผู้ชายไปเป็นแสนเลยเหรอ แต่ผู้ชายเงียบไป ก็คือไม่ได้ทำอะไรเลย แม่ก็เดินไปลงมือ
ปอ : ค้านก่อน เราไม่เคยรู้ในเรื่องบ้านเธอ ไม่เคยสนใจเรื่องในบ้านเธอว่าใครจะเรียกเป็นแสนเป็นล้านยังไง วันๆ นึงเราอยู่กับลูกเราแค่นี้
เหตุการณ์ก่อนโดนตบ?
ปอ : จำเนียรไปกระชากหัวเรา
เปิดก่อนได้เปรียบ?
จำเนียร : ตบเลย ตบด้วยรองเท้า มาว่าลูกสาวหนู ตบมันข้างขวา กระชากผมลงมาแล้วตบ โมโหมาก
โดนตบแล้วยังไงต่อ?
ปอ : หนูก็สู้ ก็ถามว่ากูทำอะไรให้พวกมึง เขาบอกว่ามึงโพสต์ด่ากูไง ไปว่าลูกสาวเขา ก็ถามว่าไปพูดที่ไหน ฉันก็ขายของ เขาก็รุมกันตุ๊บตั๊บ หนูก็คว้าเหล็กตีน้ำแข็งมาสู้กับพวกเขา เขาก็แย่งไปได้ พอแย่งได้ปุ๊บหนูไม่มีอะไรในมือ เขามากันหลายคน ก็หันไปคว้ามีดที่ใช้หั่นลูกชิ้นไส้กรอกมา แต่ไม่ได้ทำร้ายใคร หนูป้องกันตัว ควงๆ แล้วบอกให้ชบาวิ่งไปหน้าเซเว่นเลย ไม่ต้องอยู่แล้ว แล้วมารุมลูกสาวหนู ถ้าหนูไม่เอาหัวรับ ลูกหนูตาย แล้วพวกนั้นไม่เคยรู้จักเลย มาทำเราทำไม รู้จักก็ไม่เคย มาตีกันได้ยังไง อยากรอคำตอบนะ
พอเขาลงมา จำหน้าได้มั้ยมีใครบ้าง?
ปอ : ฝน แม่เขา โรส ภูมิ สี่คนนี้ไปหมด แล้วผู้หญิงอีกสองคนที่ไม่รู้จัก มีสิทธิ์อะไรมาทำร้ายหนู หนูทำอะไรให้ เราเคยบาดหมางกันมาก่อนมั้ย
ลูกเราโดนมั้ย?
ปอ : โดน ตาเขียวสองข้าง สองวันแรกที่โดนทำอะไรไม่ได้เลย ถ่ายรูปมาให้พี่เขาดู ถึงได้ความช่วยเหลือ ลูกนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น ทำอะไรไม่ได้เลย
สาเหตุที่เขามาทำเรา คิดว่ามาจากเรื่องอะไร?
ปอ : เรื่องที่ว่าโพสต์ว่ากัน ฝนเขาไม่ชอบเราอยู่แล้ว
ฝนเป็นใคร?
ปอ : เป็นลูกผู้ชายที่มาใช้ชีวิตกับหนู มาช่วยเหลือกัน ขาดเหลืออะไรก็ช่วยเหลือกัน
แฟนเรา?
ปอ : จะว่าใช่ก็ไม่ได้ เขามีเมียของเขา
พ่อของฝนเป็นคนที่มาช่วยเราทำมาหากิน เป็นแฟนก็ไม่ใช่?
ปอ : ไม่ได้หรอก เขามีเมียอยู่แล้ว
เขามาช่วยเราทำมาหากินยังไง เป็นแฟนกันมั้ย
ปอ : ตอนนั้นใช่ แต่ตอนนี้ไม่ใช่ เขามีเมียไปแล้ว ทีแรกไม่รู้ว่าเขามีเมียอยู่แล้ว พอรู้ว่ามีเมียอยู่แล้วก็แยก แต่ฝ่ายชายก็ไม่จบ เขายังตามอยู่ ไปไหนก็คอยช่วยเหลือ เวลาหนูเดือดร้อนเขาก็หยิบยื่นให้มั่ง แต่เวลาเขาเดือดร้อน ต่างคนก็ต่างช่วยกัน
กัลยาณมิตร ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน?
ปอ : อย่างนั้นก็ได้ เคยคุยกับเขาแล้วว่าให้ไปตกลงกับลูกนะ อย่ามีปัญหาถึงฉัน
ฝนเป็นลูกแฟนเรา เป็นกิ๊กกันได้มั้ย?
ปอ : ได้ แต่แม่ของฝนเขาตายไปแล้ว ผู้ชายคนนี้เขามีเมียเยอะ
เราก็คบกันได้สิ?
ปอ : ก่อนหน้าหนูเขาไปแต่งงานกับคนที่โน่นที่นี่ พูดไม่ได้ หนูไม่รู้ไง พอรู้ก็หาทางเลิก เพราะครั้งนึงมีญาติผู้ใหญ่คนนึงให้หนูเข้าไปอยู่กับเขา หนูบอกว่าอยู่ไม่ได้หรอกเพราะเป็นแบบนี้ เลยต่างคนต่างอยู่เอาที่ความสะดวกซึ่งกันและกัน เวลาขาดเหลือก็ช่วย รถเขาเสียก็ช่วย เงินไม่พอหนูก็ช่วย ไม่ใช่เงินน้อยๆ นะ เป็นหมื่นก็ช่วยมาแล้ว ลูกหนูรู้หมด
ฝนโพสต์ว่าเราอยู่ตลอดว่าเราไปยุ่งกับพ่อเขา?
ปอ : ไปพูดให้ชาวบ้านฟังเลย จนเรามาขายของที่ตลาด มีชาวบ้านมาตราหน้าเราเลย ว่าอีนี่เมียน้อย แย่งผัวเขา ถามจริงๆ ความเป็นจริง ผู้ชายเป็นฝ่ายเดินมาหาหนู เมียเขาก็ตายไปแล้ว แต่เขามีคนอื่นอีกร้อยแปดพันเก้า เขาได้คนแถวตลาดนั้นหลายคน เราเป็นเหยื่อ ก็มีคนมาบอกว่าปอเลิกได้เลิก ทิ้งได้ทิ้ง เพราะผู้ชายคนนี้จะไม่เหลืออะไร แต่หนูไม่เคยว่าเขา เพราะคิดว่าสิ่งที่คนอื่นเห็นมันอีกอย่าง แต่กับเราเขาก็ดีกับเรา หนูคิดอย่างนี้
ผัวเราล่ะ?
ปอ : เลิกไปแล้ว มันไปมีเมียใหม่ เลิกไปแล้ว มันชอบผู้หญิง ก็ไปหามาให้ แล้วขออิสระออกมา เราต้องการอิสระ เราโดนคลุมถุงชนมา เขาเป็นลูกนักการเมือง
เขามาตบเรา เพราะฝนเข้าใจว่าเราไปยุ่งกับพ่อเขา เขาไม่ชอบเรา เรายืนยันว่าเราไม่ได้เป็นน้อยใคร เพราะแม่เขาตายไปแล้ว แต่เขาหึงแทนแม่เขา เขาเลยยกพวกมาตบ เป็นอย่างนั้นมั้ย?
โรส : ไม่ใช่ค่ะ
มุมนี้เป็นยังไง
โรส : เรื่องไปตบไม่เกี่ยวกับฝน ตัดไปได้เลย เขาถามเพื่อนที่ซื้อลูกชิ้นว่าน้องสาวไปไหนไม่เห็นมาทำงานเลย คือน้องเอ๊ะ เพื่อนก็บอกว่าออกไปแล้ว เขาก็พยายามถามอีกว่าไปไหน เพื่อนก็พยายามบ่ายเบี่ยง เขาก็ยังพูดอีกว่าบ้านนี้แจ๋วนะ เห็นว่าเรียกสินสอดผู้ชายเยอะ แล้วผู้ชายไม่มา เพื่อนหนูก็พยายามปัดไปเลย
พูดง่ายๆ แม่ค้าเม้าท์กับลูกค้าที่มาซื้อลูกชิ้น ว่ารู้จักเอ๊ะมั้ย น้องโรส ผู้ชายบอกจะมาขอ ไปเรียกเงินแพง แต่ผู้ชายไม่เอา?
โรส : ประมาณนี้ค่ะ เพื่อนก็โทรหาน้องสาวก่อนว่ารู้จักมั้ยร้านลูกชิ้น น้องสาวก็บอกว่าเขาเคยเป็นเมียเก่าตาชู
คุณเป็นอะไรกับฝน?
โรส : หนูเป็นหลาน ตาชูพ่อของฝน
จำเนียร : แม่หนูเป็นพี่สาวตาชู เป็นลูกพี่ลูกน้องกับตาชู ไม่เคยไปยุ่งกับเขาเลย
แล้วยังไง?
โรส : น้องสาวก็โทรหาหนูบอกว่ามันพูดอีกแล้ว คนเรามีขีดจำกัด 1 2 3 ไม่เป็นไร แม่หนูปล่อย พอรอบที่ 4 ก็พาแม่ไปเลยเพื่อไปคุย จะมาพูดทำไม แม่หนูเดินเข้าไปตบเลยค่ะ
ฝนไปมั้ย?
โรส : ไม่ไปค่ะ ไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องที่เขาพาดหัวข่าวเลย
จำเนียร : ไม่เกี่ยวกับฝนเลย ไม่มีใครสั่งให้ไปตบด้วย ปากมันดีไง มายุ่งกับบ้านหนูตลอด หนูทำอาชีพรับจ้าง อยู่กับลูก
รู้ได้ไงว่าเขาไปเม้าท์?
จำเนียร : เพื่อนร่วมงานก็บอกหนูไง
ไปกันกี่คน?
โรส : 8 ค่ะ คันละ 4 ไปสองคัน หนู แม่หนู ภูมิ อีกคนที่ไปซื้อลูกชิ้น คนที่เขาเม้าท์ชื่อจีน หนูไปรับเลย อีกคันมาจากอีกหมู่บ้านนึง คือเพื่อนน้องสาว น้องสาวไปนั่งเล่นอีกหมู่บ้านนึง มีเอ๊ะ เพื่อนเอ๊ะอีก 3 คน มานัดเจอกัน
ไปถึงทำยังไง?
โรส : หนูเดินลงไปเลยค่ะ หนูก็ถามว่าพูดอะไรนักหนา ทำไมชอบพูดเรื่องบ้านหนู หนูพูดไม่ทันจบ แม่หนูตบเลยค่ะ
จำเนียร : โมโห ขี้เกียจเถียงกับมัน ไม่อยากเถียงกับใคร
แม่ตบยังไงให้แขนหัก?
จำเนียร : ตบด้วยรองเท้า มันก็เอาอาวุธออกมา
โรส : แม่หนูโดนมีดบาด นิ้วหัก หนูเลือดออก โดนเส้นเลือดใหญ่ เลือดมันไหลเยอะ ก็เรียกรถเพื่อไปรพ.
แม่ทำอะไรเขาบ้าง?
จำเนียร : แม่กระชากผม แล้วตบด้วยรองเท้า อาวุธของแม่คือรองเท้า แค่นั้น มันก็เอาเหล็ก เอามีดออกมา คนนี้ก็จับไว้ ไม่มีการรุมหรอกค่ะ
ในคลิปไม่รุมเหรอ ลูกสาวเขาไม่ได้รู้เรื่องเลย ไปตีเขาทำไม?
โรส : เป็นเพื่อนน้องสาวค่ะ
เอ๊ะ : เขาไม่ได้ทำอะไรเลยค่ะ คนที่เขาชี้หน้า
ปอ : ไม่ได้ทำได้ไง กระชากหัวไง
เอ๊ะ : คนตัวใหญ่ๆ อ้วนๆ ล่ะคะ กระชากหัวลงไปกับพื้น
โรส : ดูคลิปใหม่ค่ะ ภูมิโดนดึงถูกมั้ย
ปอ : แหกตาดูดีๆ บอกเลย (ทุบโต๊ะ) ลูกถึงเซเว่นแล้วมึงไปกระตุกลูกไว้ มึงทำได้ยังไง เถียงมาได้ มันเกินไป ลูกหนูโดนขนาดนั้นนะ ลูกโดนทั้งคน ยังมาบอกว่าไม่ได้ทำ
ตอง : แม่พูดเมื่อไหร่ อยากรู้เหมือนกันว่าใครเป็นคนพูด มาทำแบบนี้เพื่อ!
โรส : แม่หนูตบกับแม่เขา ถูกมั้ย ตบเสร็จ หนูก็ขับรถจะไปรพ. ก็เรียกแม่ขึ้นรถ ภูมิโดนดึงไว้ นัว แต่น้องหนูถูกรุม แล้วคนที่เห็นในคลิปเขาวิ่งเข้ามาแยก ไม่ได้ลงไม้ลงมือกับลูกเขาเลย มีแค่ภูมิคนเดียวที่ลงไม้ลงมือ
แต่ในคลิปเป็นอีกแบบเลยนะ?
เอกภพ : ในคลิปชัดเจนอยู่แล้ว จริงๆ ไม่ได้สนับสนุนความรุนแรงเลย ก็ต้องคุยกัน แต่ในคลิปอยากให้ดูเพราะมันเห็นชัด น้องคนอ้วนๆ กระชากหัว แล้วทำมั้ย
โรส : ตอนแรกภูมิถูกดึงอยู่ค่ะ
พี่เอกเขาอธิบายให้ฟังว่าคนอ้วนๆ ไปกระชากหัวเขาจริงใช่มั้ย?
โรส : ใช่ค่ะ
คุณหนูกระชากหัวแม่เขาแล้วขย่ม ภาพนี้มันชัดนะโรส?
ปอ : ดูสิ ทำอะไรให้
ทนายแก้ว : ดูตามภาพ มีการรุม มีการทำร้ายกัน
ปอ : ขอบคุณมาก พูดถูกต้อง
เหตุทั้งหมดที่เกิดขึ้น ฝั่งนี้เอาอาวุธขึ้นมาทำร้าย ถือว่าเป็นการป้องกันตัวได้มั้ย?
ทนายแก้ว : ใช่ครับ ตามข้อมูลฝั่งโรสเริ่มก่อน ฝั่งนี้เขาป้องกัน ก็ต้องดูว่ามีดที่ใช้ป้องกันเกินกว่าเหตุมั้ย ถ้าไม่เกินกว่าเหตุ ฝั่งนี้ไม่มีความผิดเลย เพราะกฎหมายกำหนดไว้ในมาตรา 68 ประมวลกฎหมายอาญาอยู่แล้ว ว่าใครก็ตามถูกทำร้าย คนนั้นมีสิทธิ์ป้องกันตัวเองได้ แต่การกระทำนั้นต้องไม่เกินกว่าเหตุ ต้องดูว่ากรณีคุณแม่เอามีดปัดป้องตัวเอง มันอยู่ในวิสัยแบบนั้นมั้ย มันต้องดูเป็นกรณีๆ ไป
เอกภพ : ต้องไม่ไปวิ่งไล่ฟันเขา เอาง่ายๆ ถ้าคุณแม่อยู่ที่ตั้งตรงร้าน แล้วปัดป้อง ไม่น่าจะเกิน แต่ถ้าคุณแม่เอามีดไล่ฟันเขา อันนี้น่าจะเกิน
ปอ : ถ้าหนูไม่ควง ลูกหนูก็ไม่รอด ลูกหนูอยู่บนถนน หนูต้องเอาชีวิตลูก แล้วดูภาพนะ ถ้าหนูไม่มีสติจริง หนูตีรถพังแล้ว รถมีแม่ย่านางเราอย่าไปทำ คนทำเราก็ต้องเอาที่คน
ทางนี้บอกเลยว่าฝั่งน้องฝนไม่ได้ไป แต่แม่บอกว่าเขาไป แม่ไปแจ้งความว่าฝนไป ทางนี้เขาจะแจ้งความว่าแม่แจ้งความเท็จนะ?
ปอ : หนูสู้
ตอนนี้ฝั่งนี้ไปรับทราบข้อกล่าวหาหรือยัง?
โรส : ได้รับหมายแล้วค่ะ
คุณทำอะไรแม่เขามั้ย?
เอ๊ะ : ไม่ค่ะ พอแม่ตีไปตีมา เขาเอาเหล็กออกมา ก็ตะโกนบอกว่าเขามีเหล็ก พี่โรสก็วิ่งเข้าไปช่วยดึงเหล็ก
แย่งได้มั้ย?
โรส : แย่งได้ค่ะ ก็ไม่ได้ตีเขา เขาวิ่งไปคว้ามีด หนูก็เอาเหล็กปัดๆ
แม่โดนอะไร?
จำเนียร : โดนมีด โดนเหล็กฟาด โดนมีดสองเล่มเลย ก็ไปรพ.
ภูมิล่ะ?
โรส : โดนเหล็กตีหัวแตก ที่หน้าโดนปลายมีดด้วย เขาตวัดค่ะ
เหตุที่ไป ด้วยเรื่องแค่นี้เองเหรอ?
จำเนียร : เรื่องแค่นี้แหละ เหตุที่ไป เพราะลูกหนูเสียหาย ลูกหนูยังไม่ได้แต่งงาน แล้วมาพูดอย่างนี้ ไม่ใช่เล่นๆ นะเนี่ย
เราเคยพูดมั้ย?
ปอ : ไม่เคยยุ่งกับบ้านนี้เลย เคยไปบ้านตาชูก็จริง แต่แม้แต่ตาชูเอาเรื่องลูกเขามาพูดให้เราฟัง เราก็ทะเลาะกัน เรามีพยาน โทรหาเจ้าของบ้านที่เราเช่าทุกวันนี้ได้เลย เขารู้ว่าเราด่าอะไรกับตาชู แล้วด่าเป็นชม. เราบอกว่าอย่าเอาเรื่องแบบนี้มาพูด เจ้าของบ้านก็บอกว่ามึงก็ทื่อนะ ให้เขาด่าอยู่ได้ เอาเราไปสาบานที่ไหนก็ได้ เราไม่เคยยุ่งกับบ้านนี้เลย เรารู้ว่าเขาเป็นยังไงเราไม่เอาไม้ไปแหย่ขี้
เราเคยพูดมั้ย?
ปอ : ไม่เคย หลวงพ่อโสธร เอาไปสาบานเลย ถ้าเราเคยพูดขอให้ลิ้นไก่สั้น กล้าพูดเลย เราเป็นศิษย์มีครูมีอาจารย์ ไม่ตอแหล พูดตรงๆ
ตอง : หนูอยู่กับแม่ 24 ชม. ไม่เคยได้ยินแม่คุยอะไรเลย แม่เขาพูดคำเดียวว่าอย่าขายซ้ำกัน แค่นั้น
คนที่มาพูดบอกโรสเชื่อได้เหรอ?
โรส : เชื่อได้ค่ะ เพื่อนชื่อจีน ถามเขาได้
รู้จักจีนมั้ย?
ปอ : ไม่เคยรู้จักชื่อ แค่รู้ว่าเคยไปเข้าห้องน้ำที่ปั๊ม ให้ตายห่xเลย เขาพูดไว้แล้วว่าถ้าไม่ติดตาชู เจอตบไปนานแล้ว
จำเนียร : แม่ไม่ได้พาพวกไปตีมัน แม่ตบคนเดียวเลย
ปอ : ถ้าคนเดียวไม่พ้นมือหนู บอกได้แค่นี้ หนูเป็นนักมวยนะ จะบอกให้ พ่อหนูเปิดค่าย แค่นี้ไม่ต้องเดินยกแรกเข้าถึงตัวหนูหรอก
จะเอาเขาไหวเหรอ?
จำเนียร : ไม่อยากพูด
ใครพาแม่ไป?
โรส : โรสพาไป
เจ็บเนื้อเจ็บตัวนะวันนี้ จะเอายังไงต่อไป ฝนเองจะไปแจ้งความ เพราะไปกล่าวหาเขา?
ปอ : แจ้งความหมด ออกหมายแล้ว มั่นใจว่าฝนไป ทุกคนไม่รู้ว่าหนูมีมีด มีฝนคนเดียวที่ยืนเห็นว่าหนูมีมีดคนอื่นไม่มีใครเห็นว่ามีมีด ตะโกนบอกพวกนี้ว่าหนูมีมีด คนอื่นไม่มีใครรู้ ฝนยืนไกลมาก เขาระวังตัว ฝนคนเดียวที่ตะโกนบอกอีปอมีมีด พยายามคิดหน่อยนะ ที่ฟันเพราะเขาถือเหล็กเข้ามาตีกับหนู
ล่าสุดฝนบอกเขาไม่ได้ไป ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ?
ปอ : โจรคนไหนบ้างที่ยอมรับความจริง
ตอง : พี่คะ คนตะโกนบอกว่ามีมีดคือหนู หนูยืนอยู่หน้ารถเก๋งสีแดง
ปอ : ไม่ใช่ โกหก ฉันไม่ได้ฟันหน้ารถเก๋ง ฉันฟันหลังรถที่ลากไปทางโน้น ไปดูพื้นที่จริงได้ พี่ต้องลงพื้นที่ถึงจะรู้
เอกรับเรื่องนี้มายังไง?
เอกภพ : พี่เขาร้องทุกข์เข้ามาที่เพจ จริงๆ ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาถูกทำร้าย พี่ปอเคยถูกมาก่อนหน้านี้แล้ว 2 ครั้ง แล้ว 2 ครั้งเขาโทรหาผมก็ร้องไห้ ผมก็ถามว่าพี่มีอะไร เขาบอกว่าโดนทำมาตลอด วันดีคืนดีก็มาทุบทำลายร้านเขา ไปแจ้งความคดีก็ไม่คืบหน้า ลักษณะเด็กต่างจังหวัด เขาไม่ใช่คนในพื้นที่ พอไม่ใช่คนในพื้นที่ ตร.ก็ไม่ให้ความเป็นธรรมกับเขา พอเขามาโดนครั้งนี้มันแรงเพราะทำลูกเขา เขาหนีมาตลอดนะ มาทำลายเขาก็หนีไปที่อื่นเพราะไม่อยากให้มีปัญหา แต่ครั้งนี้มันมาถึงลูกเขา ผมถามว่าถ้าเป็นจริงอย่างที่เขาพูดถึงครอบครัว มันมีเหตุผลอะไรที่คุณจะยกพวกมา 8 คนรุมทำร้ายเขา มันมีเหตุผลอะไรใช้กำลังความรุนแรงกับคนอื่น มันไม่มีสิทธิ์เลย แล้วคุณมา 8 คน สิ่งที่เกิดขึ้นคลิปมีเป็นประจักษ์พยาน
ทนายแก้ว : ถ้าพี่ปอด่า หรือพูดจริง ฝั่งน้องก็สามารถฟ้องร้องหมิ่นประมาทได้ แต่กรณีกลุ่มนี้ทั้ง 8 คน ยกไปทำร้ายจริง มันคนละเหตุกัน คุณไม่มีสิทธิ์ไปลงโทษเขาแบบนั้น ต้องแยกกันแบบนี้ครับ เขาปากไม่ดีคุณก็ฟ้องเขา แต่การไปรุมทำร้ายเขา เขาป้องกัน ก็ต้องดูว่าเกินกว่าเหตุมั้ย ถ้าไม่เกิน บอกตรงๆ พี่อาจเจ็บฟรี
ไม่คิดว่าจีนโกหกเหรอ?
โรส : ไม่จำเป็นต้องโกหกค่ะ ไม่ได้มีเรื่องมีอะไรกัน
ทนายโรส : สมมติปอพูดจริง ปรากฏว่าแม่เขาคนเดียวไปตบ ฝั่งนี้ผิดมั้ย ผิด แต่อาจอ้างเรื่องบันดาลโทสะด้วยความโกรธได้ เอามาลดหย่อนโทษได้ คนละกรณีกับป้องกัน กรณีป้องกัน ป้องกันได้ถ้าไม่เกินกว่ากฎหมาย ไม่มีความผิด กรณีนี้จะอ้างบันดาลโทสะแต่มีชุดสองรุมเขาเข้าไปแบบนี้ จะอ้างไม่ได้ ถ้าแม่เขาไปคนเดียว เขาไปตบพี่คนเดียว อาจอ้างบันดาลโทสะที่พี่ปอปากไม่ดีไปว่าลูกสาวเขาได้
ทางนี้ยืนยันว่าจีนเป็นคนพูด รู้จักมั้ย?
ปอ : ไม่เคยรู้จัก
เป็นลูกค้ามั้ย?
ปอ : ไม่ได้มองหน้า หนูไม่ได้พูดคุยกับเขาเลย คุยกับสิบล้อ ไม่ได้คุยอะไรกับลูกค้า หนูไม่ชอบพูดเรื่องใครด้วย ถ้าพูดแล้วจะเอาลูกค้าจากที่ไหน
คุณซื้อวันไหน?
จีน : วันที่เกิดเหตุค่ะ หนูไปก็เหลือหนูกับแม่ค้าสองคน เขาก็ถามว่าอีเอ๊ะไปไหน หนูก็บอกว่าลาออกไปแล้วค่ะ หนูก็เงียบ แล้วเลือกลูกชิ้น หนูให้แม่ค้าทอด แม่ค้าก็บอกว่าได้ข่าวว่าเรียกสินสอดผู้ชายแสนสี่เลยเหรอ อย่าไปยุ่งนะบ้านหลังนี้มันแรงนะ หนูกลับมาก็โทรหาน้อง
ทำไมไปเล่าให้เขาฟัง?
จีน : หนูไปถามน้องเขาว่าน้องรู้จักคนนี้มั้ย ขายลูกชิ้นอยู่หน้าเซเว่น อยู่ดีๆ เขามาถามพี่ พี่ไม่รู้จักเขา แต่เขามาถามพี่ น้องก็บอกว่าแค่นี้ก่อนนะ น้องก็โทรหาพี่โรส
คุณไปด้วยมั้ย?
จีน : หนูไป แต่ยืนดูตรงรถค่ะ
ปอ : ฉันไม่เคยเข้าไปในหนองกระพ้อเลย ฉันจะไปถามทำไมว่าเอ๊ะเป็นใคร พูดว่าแสนสี่มาจากไหน
จีน : ป้าพูดกับหนู หนูซื้อลูกชิ้น 90 บาท หนูจำได้แม่นมาก ป้าไม่ได้คุยกับใครเลยตอนนั้น ป้าคุยกับหนูสองคน ตรงนั้นมีแค่หนูกับป้าสองคน
ปอ : ฉันไม่เคยไปยุ่งบ้านนี้แล้วจะรู้ได้ไงว่าเรียกผู้ชายไปแสนสี่
จีน : แต่ป้าพูดชื่อว่ามีอีเอ๊ะ ป้าพูดเลย หนูไม่รู้ว่าป้ารู้ได้ไงว่าหนูสนิทกับน้อง
ปอ : ไม่เคย เรื่องนี้ไม่เคยเข้าหู
ตอง : แม่หนูขายของ จะไปนินทาเพราะอะไร
ชบา : ถ้าอยู่กับแม่สองคน แล้วหนูหายไปไหน หนูนั่งกับแม่ตลอด ไม่ทิ้งแม่ไปไหนเลย
จีน : ไม่มีเลย มีแค่พี่กับป้าเขาสองคน
เอกภพ : โดยหลักคนนินทาต้องคนรู้จักกัน จู่ๆ จะไปคุยกับคนที่ผมไม่รู้จักยังไง ถ้าบอกว่าพี่รู้จักกับน้องเขา รู้จักและเคยคุยกันมาก่อนแล้วพูดถึงน้องเอ๊ะ ผมไม่แปลกใจ แต่คนไม่รู้จักกันมาก่อน มีเหตุอะไรต้องไปคุยเรื่องนี้
ปอ : ผมต้องมีข้อมูลถึงพูดเรื่องเขาได้
เอกภพ : ผมพยายามจับผิดพี่ปอนะ แต่เขาก็พูดหลายครั้งว่าไม่รู้จัก โอกาสน้อยที่จะไปพูดเรื่องนี้ คนเราจะคุยกับใครก็ต้องรู้จักคนนั้น
ทนายแก้ว : ใช้เวลาคุยกันนานมั้ย
จีน : ประมาณ 5 นาที หนูไม่ได้ถามอะไรเลย ป้าเขาเล่าให้หนูฟัง เหมือนเคยเห็นหนูอยู่กับน้องเขาหรือเปล่าที่ปั๊ม เพราะหนูไปนั่งเล่นที่ปั๊มทุกวัน
ปอ : ไม่เคยเห็นเขา และไม่รู้จักเขา
จีน : ป้าเคยเห็นหนู ป้าไปเติมน้ำมัน วันนั้นหนูจะซื้อลูกชิ้นป้าอยู่ คิดดีๆ แฟนหนูเติมน้ำมันให้ป้า
เอ๊ะรู้จักเขามั้ย?
เอ๊ะ : เคยเห็นค่ะ เขาไปอยู่กับตา หนูก็รู้จัก แต่หนูอยู่ปั๊มกับพี่คนนี้
แม่เรียกสินสอดแสนสี่จริงมั้ย?
จำเนียร : ไม่ได้เรียกเลย ยังไม่มีใครมาขอเลย
แล้วเขาจะเอาข้อมูลมาจากไหนแสนสี่?
ปอ : หนูจนปัญญาจะพูดแล้ว
โรส : คนก็อาจจะเม้าท์กัน พูดผ่านๆ กัน โดยปกติเขาชอบพูดอยู่แล้ว
ตอง : เรื่องชาวบ้านแม่หนูไม่เคยชอบพูดนะ
จำเนียร : หัวแตกแล้วยังมาด่าที่บ้านอีกนะ มาตลอดแหละ
ตอง : ไปทำอะไรล่ะ เขาไปขายของ
จำเนียร : แต่ปากคุณก็ดีอยู่
ตอง : หนูเป็นแม่ค้าขายขนมก็ต้องไปหาลูกค้า แต่ไม่เคยเข้าไปที่บ้านเขาเลย แล้วไม่รู้ด้วยว่าเอ๊ะอยู่ที่ไหน ยังไง
ปอ : ที่ไป ข้างๆ บ้านตาชู มีป่ากล้วย มาซื้อใบตอง ซื้อกล้วยเขาไปขาย หนูทำขนมขาย ไม่ได้ไปวุ่นวายกับบ้านนี้เลย บ้านนี้หนูยกท่วมหัว ไม่เคยคิดจะไปยุ่ง
ตอง : ไม่เคยคิดเลี้ยวเข้าไปบ้านเขาเพื่อขายของให้เขาเลยด้วยซ้ำ
แล้วจะขายของต่อมั้ยที่ฉะเชิงเทรา?
ปอ : ขายสิคะ ก็ไม่เจอเขาหรอก หนูไปเช่าบ้านอยู่ต่างหาก
กลัวเขาบุกอีกมั้ย?
ปอ : ไม่กลัว อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด มาถึงขั้นนี้แล้ว ถึงยังไงหนูเอาพี่กัน จอมพลังไปดูที่บ้านหนูเลย ถ้าหนูทำจะกราบเลยถ้าหนูผิด แล้วคำพูดแสนห้า หนูจะแกว่งปากหาตีนทำไม แต่กับลูกตาชูหนูมีปัญหาจริงๆ แต่กับบ้านนี้ไม่เคยมี
ฝนแจ้งความที่สภ. ต่อสายหาฝนเลย ฝนให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ?
ทนายแก้ว : ตอนแม่บุกไปตบเขา คนอื่นยืนเฉยๆ เหรอ
ปอ : ไม่เฉยค่ะ ทางนี้ก็ลงมือจ๊ะ เขาไม่ได้ตบเหมือนผู้ชายทั่วไปนะ ไม่งั้นหนูจะไปคว้ามีดได้ไง
โรส : ไม่ได้ตบเลยค่า เอาเหล็กกันค่า ฉันดึงเหล็กได้ค่ะ
ฝนอยู่ในสาย ตอนนี้อยู่ที่สภ. ทำอะไรที่นั่น?
ฝน : มาแจ้งความคุณปอ แจ้งความเท็จค่ะ
วันนั้นได้ไปที่เกิดเหตุมั้ย?
ฝน : ไม่ได้ไป นอนอยู่บ้านค่ะ
ปอยืนยันว่าฝนไป?
ฝน : มีพยานยืนยันที่บ้านค่ะ
รู้เรื่องที่เขาไปไล่ตีไล่ตบกันมั้ย?
ฝน : ไม่รู้เรื่องเลยค่ะ
เคยมีเรื่องบาดหมางใจกับคุณปอมั้ย?
ฝน : หนูไม่เคยไปยุ่งอะไรกับเขาเลยนะคะ ที่เขามาอยู่กับพ่อหนู ไม่เคยไปวุ่นวายชีวิตเขาเลยค่ะ เขาเคยคบหากับพ่อเราค่ะ หนูไม่เคยหึงไม่เคยหวง เป็นเรื่องของครอบครัวค่ะ เขาจะทำยังไงก็เรื่องของเขา
แล้วเราไปมีเรื่องกับเขาทำไม?
ฝน : หนูไม่ได้มีเรื่องอะไรกับเขา มีแต่เขาว่าหนูเป็นเมียน้อยตร. ไปพูดประจานลงเพจ
จริงเหรอ?
ปอ : จริง
ฝน : ตั้งแต่เขามาบ้านหนูไม่เคยมองหน้าเขาเลยค่ะ แล้วพูดว่าไม่ได้เป็นเมียน้อยพ่อหนู เมียเขาก็มีอยู่ เอารูปภาพเมียน้อยพ่อหนูไปประจาน แต่เขาไม่ได้เอาเรื่อง หลักฐานมีหมดแหละค่ะ
ปอ : ฟังนะ ตาชูบอกว่าไม่มีเมีย
ฝน : ไม่มีเมีย แต่เมียเขานั่งอยู่ แต่คุณโยนกระป๋องใส่เมียเขา แล้วเมียเขาถามดีๆ คุณถ่ายคลิปเขาลงโทรศัพท์แล้วประจานเขา แต่เมียพ่อไม่เอาเรื่องไม่เอาราว
ฝนไม่มีเรื่องกับเขาแน่ใช่มั้ย?
ฝน : ไม่มีค่ะ ถึงเขาจะมาอยู่กับพ่อหนู หนูก็ไม่เคยไปวุ่นวายกับชีวิตเขาเลย อยู่ไป หนูไม่ได้ว่า
เขาว่าหนูเป็นเมียน้อยตร.แล้วเป็นจริงมั้ย?
ฝน : หนูเป็น แต่หนูก็ไม่เคยประจานไปพูดให้ใครฟัง หนูก็อยู่ในส่วนของหนู
คุณเป็นเมียน้อยตร.จริงเหรอ?
ฝน : ใช่ค่ะ
ตร.เขาไม่ให้มีเมียน้อยนะ?
ฝน : เขาเอารูปหนูไปลงโชว์หน้าตาด้วย มันใช่มั้ยคะ
ปอ : สิ่งที่ปอต้องทำคือให้เขาไปถามกับพ่อเขาก่อน ก่อนมามีปัญหากับหนู แล้วเขาพูดว่าหนูนอนกับหลายชาย
ฝน : ไม่เคยพูดกับใครเลย สาบานได้ ขอถามหน่อย มีพยานมั้ยคะ
ปอ : ก็ป้าภา พี่สาวพ่อมาถามเองว่าสิบล้อไปไหนหมด ก็บอกว่าสิบล้อคือลูกค้าของเรา
ฝน : หนูไม่เคยไปเล่าอะไรเขาเลย
ปอ : เขาหาว่าหนูมีความสัมพันธ์กับส.สุริยันต์ คนงาน ไปหลับนอนกับคนในพลับพลา พวกขับสิบล้อ
เราเก็บเรียบหมด?
ปอ : เราไม่ได้ทำ
ฝนยังไงต่อ?
ฝน : ไม่เคยพูดเลยว่าไปนอนกับใคร ไปเอากับใครที่ไหนคำพูดที่พูดออกมาตอแหลค่ะ ถ้ามีหลักฐาน มันไปมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับคนข้างๆ บ้านเขา เขามาถามว่าตอนกลางคืนเป็นพ่อเอ็ง ตอนกลางคืนเป็นใครไม่รู้ เขาเป็นอะไรกับพ่อเอ็ง แล้วมันพูดไปทั่วซะหมดว่าไม่ได้มีอะไรกับพ่อหนู ไปขายของที่ไหนก็ไปพูดให้เขาฟังหาว่าพ่อหนูต้มตุ๋น หลอกลวงผู้หญิง แต่หนูไม่ได้สนใจอยู่แล้ว
ปอ : ตาชูมากลางคืนจริง แต่กลางวัน ลูกคนเล็กตาชู เอาน้องดรีมกับน้องดลมาฝาก เพราะตัวเองไปขับสิบล้อ ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย ลูกชายเขาเอาเมียกับหลานมาฝาก แล้วมาพูดว่าหนูเอาผู้ชายมาคนนึง
ฝน : มันคนละประเด็นด้วยซ้ำ คนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ไม่ใช่น้องหนูเลย
ฝนยอมรับว่าเป็นเมียน้อยจริง?
ฝน : ใช่ แล้วไม่มีสิทธิ์เอาหนูไปประจาน เอาหน้าหนูไปทำให้เสียหาย
เมียตร.เขารู้หรือยัง?
ฝน : คนละส่วนค่ะ หนูเป็นน้อยตร. แต่ไม่เคยไปยุ่งวุ่นวายกับชีวิตครอบครัวเขานะคะ หนูทำมาหาเงินเลี้ยงครอบครัวหนูแค่นั้นค่ะ
ตร.ว่าไง?
ฝน : เขาไม่ได้มาอะไรกับหนูค่ะ
ทนายแก้ว : กรณีปอไปลงภาพหรือพูดทำให้เสียหาย แม้เป็นเรื่องจริงก็มีความผิด แล้วโทษหนักด้วย ปัจจุบันศาลไม่รอลงอาญา กรณีไปเผือกเรื่องชาวบ้านเขาแบบนี้ จำคุกทุกราย ถ้าฝั่งฝนเองจะดำเนินคดี ก็ต้องดำเนินคดีกับพี่ปอได้ การประจานใครระวังติดคุกไว้ให้ดี
คุณอยู่มั้ยในที่เกิดเหตุ?
ฝน : หนูยืนยันล้านเปอร์เซ็นต์ว่าไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้น พยานหนูมีเต็มบ้านไปหมด เวลานั้นหนูอยู่บ้าน
ทนายแก้ว : กรณีพี่ปอไปแจ้งความ อยู่ในภาวะตกใจถ้าพูดไปแล้วอาจคลาดเคลื่อนก็ไม่มีความผิด ก็แล้วแต่พนักงานสอบสวน เพราะพยานฝั่งฝนก็ต้องเป็นญาติฝน คนอยู่บ้านฝน อาจไม่ใช่พยานกลาง ตร.ต้องมาดูกล้องวงจรปิดเพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
ฝนก็ยอมรับว่าเป็นเมียน้อยตร ตร.โรงพักอะไร?
ฝน : ไม่เอ่ยชื่อได้มั้ย เขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แล้วกล่าวหาแฟนหนูด้วยว่าจะไปนอนกับเขา แต่เขาไม่ยินยอม พูดให้ชาวบ้านฟัง แฟนหนูไม่เคยรู้จักเลยค่ะ
ทนายแก้ว : กลับมาคดีพี่ปอแจ้งความ วันเกิดเหตุไปแจ้งความทันที ก็มีเหตุให้ต่อสู้ได้เราไม่มีเจตนา แต่ตรงนี้ก็แล้วแต่พนักงานสอบสวน ที่ฝนไปรับแจ้งความด้วยว่าพนักงานสอบสวนจะลงพื้นที่มั้ย หากสมมติว่าพนักงานสอบสวนคนนั้นมีความสัมพันธ์กับฝน พี่ก็ขอให้ผู้กำกับเปลี่ยนพนักงานสอบสวนได้ ก็เป็นเรื่องๆ ไป
มีอะไรจะพูดกับเขาอีกมัย?
ฝน : ยืนยันว่าไม่ได้ไปในที่เกิดเหตุแค่นั้นแหละค่ะ
จะเอายังไงต่อไป?
ปอ : ก็เขาไป ไม่ไปได้ไง
ฝน : พิสูจน์เลยค่ะ ว่าในเหตุการณ์นี้ไม่มีหนู หนูจะบอกว่าเห็นเขาไปออกรายการช่องไหนก็เอาชื่อหนูตลอดเลยว่าหนูเป็นต้นเหตุ เป็นคนบงการ ถ้าคนเราตกใจจะรู้ได้ไงว่าเป็นหนู ไปออกข่าวทำไมบอกว่าฝนตลอด สงสัยตรงนี้แหละค่ะ
ทนายแก้ว : ถ้าฝนไม่ได้ไปจริง สิ่งที่ปอพูดทำให้ฝนได้รับความเสียหาย ฝนก็สามารถแจ้งความปอเพิ่มในข้อหาหมิ่นประมาทได้ แต่ที่พูดคือการแจ้งความเท็จต้องเริ่มด้วยเจตนาก่อน อย่างผมเห็นพี่หนุ่มลางๆ แล้วบอกตร.ว่าพี่หนุ่มเป็นคนร้าย ผมทำได้ครับ แต่หลักฐานต้องดูด้วยว่ามันเดินไปได้มั้ย สองพี่หนุ่มไม่ไป แต่ผมยังยืนแบบนี้ ก็แจ้งความเท็จแล้วครับ
ตร.เขาหินซ้อนหนาวๆ ร้อนๆ แล้ว?
ทนายแก้ว : หนาวๆ มีโทษทางวินัย
ปอ : แล้วตอนเช้าฝนโทรมาหาลูกสาวหนู ลูกสาวถามว่าไปตบแม่หนูทำไม เขาพูดว่าไงลูก
ตอง : หนูถามเขาว่าไปตบแม่หนูทำไม เขาบอกแม่มึงโพสต์ด่ากูทำไม แล้วเขาก็ตัดสายทิ้งไปเลย
ปอ : ถ้าเขาไม่ไป แล้วจะรู้ได้ยังไง
เอกภพ : เรื่องนี้พิสูจน์ไม่ยาก อยู่หรือไม่อยู่ส่งมือถือไปตรวจที่บริษัทมือถือก็ได้แล้ว ว่า ณ เวลานั้นคุณอยู่ที่ไหน ไปไล่กล้องวงจรปิดก็ได้ ไม่ได้ยากเลย เพราะพยานบุคคลรับฟังได้น้อย แต่พยานนิติวิทยาศาสตร์มันเปลี่ยนไม่ได้ เช็กสัญญาณมือถือ และเช็กกล้องวงจรปิดตรงนั้นก็ได้ แต่เท่าที่ผมถาม ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น วันที่เขาถูกทำร้าย กล้องวงจรปิดถูกทำลายด้วย ถูกทำลายก่อนหน้านั้น 1 วัน
ปอ : ก่อนหนูโดนตีเย็นนั้น ลูกสะใภ้เขาคนนึงขับรถไปดูลู่ทางที่หน้าเซเว่น สมองหนูคิดหมด
ทนายแก้ว : แต่เขาอาจไม่ได้ทำก็ได้นะ ทำมั้ย
โรส : ไม่ค่ะ
เอกภพ : กล้องเซเว่นเป็นยังไง
ปอ : ห้อยหัวลงมาเลยค่ะ
โรส : จะทำทำไม ของๆ หลวง โดนจับอีก
ทนายแก้ว : กรณียกพวกไป ถือเป็นตัวการร่วมทั้งหมด การทำร้ายร่างกาย จำคุก 2 ปี ปรับ 4 หมื่นเรื่องมาตรา 295 แต่ฝั่งโน้นเขามีสิทธิ์ป้องกัน การป้องกันของเขาถ้าไม่เกินกว่าเหตุ ไม่ผิด ก็ต้องมาดูว่าเขาป้องกันหรือไม่ป้องกัน ตอนพี่ปอฟัน พี่ปอพูดว่าไง
ปอ : ไม่ได้พูดอะไรเลย ตามองดูลูก ควงไม่ให้เขาถึงตัวเรา เราเป็นห่วงลูก วิ่งไปหาลูกก็มีมีดอยู่นะ โดนเจ้านี้ตีมีดหลุดมือ ก็คว้าเหล็กมาตีหัวเจ้านี้ ก็เลยหลุดอย่างภาพที่เห็น ถ้าไม่เอาหัวรับ ลูกสาวอาจโดนตีก่อน แต่นี่เอาหัวไปรับ มันเห็นด้วยภาพ
ได้รุมเขาหรือเปล่า?
โรส : ไม่ค่ะ เขาไปแย่งเหล็ก แม่เป็นคนตบ
ตัวอ้วนๆ ที่กระชาก เป็นใคร?
ปอ : ตร.บอกว่าหน้าเขาไม่ชัด
ไปกัน 8 แต่ไปพบตร.กี่คน?
โรส : 6 คนค่ะ
ปอ : พอตร.พูดงี้ก็ไปหาพี่สายไหมเลย แล้วเดินไปแหกปากที่ขายของ สิบล้อมาทุกคันบอกว่าพี่คนใดก็ได้ที่มีภาพ มีพี่คนนึงเขาถ่ายอยู่
เอกภพ : ถ้าพี่คนที่ถ่ายคลิปเห็นอยู่ส่งคลิปมาที่เพจสายไหมต้องรอดก็ได้นะ จะได้เป็นพยานหลักฐาน
โรส : ไม่ได้ตีค่ะ เอาเหล็กกั้นค่ะ
เอกภพ : วันนี้ที่มาอยากบอกทุกคนว่าไม่มีใครมีสิทธิ์ไปทำร้ายทุกคนได้ ถ้าอย่างนี้จะมีกฎหมายไว้ทำไม แล้วฝั่ง 8 คนที่มารุมทำร้ายเขา บาดเจ็บไปหมดเลย
จะเอายังไงต่อไป?
โรส : ก็จะไปหาตร.
ที่ไปเพราะโมโหจริงๆ?
จำเนียร : ใช่ ตอนนี้มันแก้อะไรไม่ได้แล้ว และไม่เกี่ยวกับฝน ฝนไม่ได้ไป
ทนายแก้ว : การที่แม่ยกขบวนไปตุ๊บตั๊บกับเขาแบบนี้อ้างบันดาลโทสะไม่ได้ ถามแม่ปอ จำหน้าเขาได้มั้ย
จีน : เพิ่งไปครั้งแรก แล้วป้าก็ไม่ได้คุยโทรศัพท์ด้วย
ทนายแก้ว : ไปครั้งแรกพี่ปอเขาจะเล่าให้หนูฟังเหรอ
จีน : วันก่อนไปซื้อลูกชิ้น เขามาเติมน้ำมันที่ปั๊ม เขาแก๊สหมด เขาน่าจะเห็นหนูอยู่ปั้มตลอด
ทนายแก้ว : ทำไมคุยเรื่องเอ๊ะ
เอกภพ : เรื่องนี้เป็นเพราะจีนเลยนะ
“พ.ต.อ.พศิน รุจิวัชรธนา” ผกก.สภ.เขาหินซ้อน จ.ฉะเชิงเทราอยู่ในสาย รู้จักฝนมั้ย?
พ.ต.อ.พศิน : ไม่รู้จักเลย ทราบเรื่องคุณปอตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว
ทนายแก้ว : เบื้องต้นตั้งข้อหาอะไรคุณรุมทำร้าย
พ.ต.อ.พศิน : ทำร้ายร่างกาย 295 ทำให้เสียทรัพย์
กรณีปอใช้มีด ถือว่าเป็นการป้องกันเกินหรือไม่เกินกว่าเหตุ?
พ.ต.อ.พศิน : อันนี้ยังไม่ได้สอบเข้าไปลึกเกิน ไม่อยากออกความเห็นด้านคดี พอสอบเสร็จต้องชั่งพยานหลักฐาน ว่าจะเข้าถึงขนาดป้องกันโดยชอบหรือเกินแก่การป้องกันหรือเปล่า ต้องดูอีกที
ทนายแก้ว : วันนั้นมีรุมทำร้ายจริงมั้ย
พ.ต.อ.พศิน : มีรุมกันครับ 8 ต่อ 2
วันนั้นมีคนชื่อฝนมั้ย?
พ.ต.อ.พศิน : คำให้การมี แต่ตอนนี้เขามาให้การแล้ว เห็นว่ากำลังพิมพ์มืออยู่
ทนายแก้ว : ฝั่งโน้นไปบอกว่าฝั่งนี้แจ้งความเท็จหรือเปล่า
พ.ต.อ.พศิน : นายนิโรจน์ (โรส) แจ้งความ ไม่ใช่ฝนนะ ฝ่ายที่โดนทำร้ายแจ้งความกลับ
ฝนเองไปแจ้งความว่าปอแจ้งความเท็จ เขาไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ ทราบเรื่องนี้หรือยัง?
พ.ต.อ.พศิน : ยังครับ ตอนนี้ฝนมาให้การในฐานะผู้ต้องหา ยังไม่ได้แจ้งความอะไรเลย
กล้องวงจรปิดถูกทำลายมั้ย?
พ.ต.อ.พศิน : ก็เห็นที่เซเว่น ก็พยายามให้สายสืบไล่กล้องดูอยู่ครับ
คุณฝนบอกมีสามีอยู่เขาหินซ้อนเป็นตร. คุณฝนเป็นภรรยาน้อย ผกก.ทราบเรื่องนี้มั้ย?
พ.ต.อ.พศิน : ไม่ก้าวล่วงเรื่องส่วนตัวดีกว่า แต่ถ้าเป็นลักษณะใช้อิทธิพลอะไรยุ่งเหยิงคดีไม่มีแน่ ยืนยันครับ ทนายแก้วรู้ดีผมนิสัยยังไง เรื่องความปลอดภัยสบาย เดี๋ยวดูแลให้เลย เพราะอยู่ใกล้ๆ โรงพักครับ
ทนายแก้ว : ส่วนชดใช้ทรัพย์สิน ถ้าเราผิดก็ว่ากันไปตามรูปคดี แต่พี่ปอมีสิทธิ์เรียกค่าเสียหายส่วนแพ่ง สมมติเสียหายสัก 2 หมื่น ส่วนนี้จบในส่วนแพ่งก็ดี แต่คดีอาญาก็มีสิทธิ์ไปว่ากันทั้งสองฝ่าย
เอกภพ : วันนี้ 8 คนยังทัน คนนำสารมาพูดจริงหรือไม่จริง ไม่มีใครรู้ แต่วันนี้เราต้องคดีหมดเลย วันนี้ถ้ามีโอกาสก็ขอโทษเขา เยียวยาเขา ถ้าเห็นว่าเกินไปก็มาบรรเทาโทษ เยียวยา ยังไงก็อยู่จังหวัดเดียวกัน
แต่ก็ต้องรู้ว่าเราผิดมั้ย?
โรส : ก็ผิดที่พาแม่ไปลงมือก่อน ก็ยอมรับว่าผิด
ทนายแก้ว : เราโกรธใครก็ไม่มีสิทธิ์ทำร้ายใคร เขาปากไม่ดีเก็บหลักฐานฟ้องเขา การดำเนินคดีโซเชียลโทษหนักกว่าต่อยอีกนะ บอกไว้นะพี่ปอ
อยากบอกอะไร?
ตอง : หนูติดใจแค่ว่าแม่หนูไม่ได้พูด แม่หนูไม่อยากยุ่งเรื่องชาวบ้าน ขายของอยู่ตรงนั้น จะเอาเรื่องชาวบ้านมาพูดกับคนอื่นทั้งที่ไม่รู้จักกันเหรอ ทั้งที่เห็นหน้ากันสองสามครั้ง จะไปรู้จักกันมั้ย หนูอยู่กับแม่มา ไม่เคยได้ยินแม่พูดเรื่องชาวบ้านเลย
ปอ : ไม่ต้องเข้าข้างกันนะ พูดตรงๆ เลย
ตอง : บ้านเราก็ย้ายมาจากที่อื่น เราก็อยากเป็นมิตร เรื่องชาวบ้านเราจะไปยุ่งทำไม เรื่องของเขาก็เรื่องของเขา เราขายของจะมาฆ่าตัวเองเพื่อ!
ทนายแก้ว : จริงๆ แม่ตัวเล็กกว่าเขานะ
จำเนียร : สู้ไม่ได้ก็ต้องสู้ ใจมันไปแล้ว
