วันที่ 2 เม.ย.67 ที่ บก.สอท.1 พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 เปิดเผยว่า บก.สอท.1 จับกุมผู้ร่วมขบวนการ 2 แก๊งใหญ่จากประเทศเพื่อนบ้านกลับมาดำเนินคดียังประเทศไทย จากการประสานงานระหว่างตำรวจไซเบอร์ เจ้าหน้าที่ ตม.เเละเจ้าหน้าที่ชุดประสานงานระหว่างประเทศ (หลอกสาวไทย สัญชาติอเมริกาสูญเงินกว่า 200 ล้านบาทในเวลา 3 เดือน และขบวนการไฮบริดสเเกม สูญเงินอื้อ ตรวจพบความเชื่อมโยงอีกเพียบ)

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ (30 มี.ค. 67) เจ้าพนักงานตำรวจ กก.4 บก.สอท.1 พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 ,พ.ต.อ.ปรีดา  คงจัด  รอง ผบก. สอท.1 พ.ต.อ.คมสันต์ กันหา ผกก.4 บก.สอท.1 จับกุมตัว นายไทยศิลป์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี สัญชาติไทย จับกุมตามหมายจับ ศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.1101/2566 ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 ฐาน“ร่วมฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าข้อมุลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จอันมิได้กระทำผิดต่อประชาชนแต่เป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ” เกี่ยวข้องคดีความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี รวมมูลค่าความเสียหายกว่า เกือบ 600,000 บาท โดยจับกุมได้ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ  จ.สระแก้ว

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวว่า พฤติการณ์เกี่ยวข้องกับกรณีหลอกลวง ให้ผู้เสียหายโอนเงินเพื่อลงทุนแพลตฟอร์ม Trust Wallet  มีจำนวนหลายครั้งรวมมูลค่าความเสียหายกว่า 600,000  บาท และพฤติการณ์เกี่ยวข้องกรณีติดต่อกับผู้เสียหายผ่าน Whatsapp และชักชวนลงทุนเทรดเหรียญดิจิทัล ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปยังบัญชีคนร้ายหลายครั้ง ได้รับความเสียหายเป็นเงินทั้งสิ้น 600,000 บาท  

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์. กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุในคดีนี้ ได้มีผู้ใช้บัญชีอินสตาแกรม ชื่อ Anthony Chung ทักมาขอเป็นเพื่อนและได้ให้บัญชี Whatsapp มายังผู้กล่าวหา ต่อมาและได้พูดคุยกันทางแอพพลิเคชั่น Whatsapp บัญชีชื่อ Peace And Love หมายเลขโทรศัพท์ +19084586090 และได้พูดคุยกันทาง Whatsapp เรื่องทั่วไปๆ ผู้เสียหายได้สอบถามคนร้ายดังกล่าวว่าประกอบอาชีพใด คนร้ายแจ้งว่าประกอบอาชีพทหาร ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ประเทศเยเมน และพูดคุยกันเรื่องการลงทุนในคริปโตฯซึ่งคนร้ายอ้างว่า ลงทุนคริปโต 

ขณะที่ น.ส.นิรชา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี สัญชาติไทย ถูกจับกุมตามหมายจับ ศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 281/2567 ลงวันที่ 29 มีนาคม2567ฐาน“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น,ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน,เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือ เพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรจะรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด ” มูลค่าความเสียหาย  200,000,000 บาท นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.สอท.1 และ บก.สอท.2 ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป