ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ / ทหารประชาธิปไตย

เมื่อหนังสือพิมพ์ชื่อดังของไทย พาดหัวข่าวว่า “ระอุ นักข่าวปาเลสไตน์ชื่อดังโพสต์หรา ความว่า “ทหารอิสราเอล” ชูธงชาติไทย หลังรถถัง IDF ในเขตฉนวนกาซา กระทรวงต่างประเทศโต้ “ไทย” ไม่เกี่ยวข้องมั่นใจ “ไม่กระทบตัวประกัน” ในมือฮามาส

นอกจากสื่อสิ่งพิมพ์ไทยจะลงเรื่องราวนี้ สำนักข่าวต่างประเทศ เช่น รอยเตอร์ก็นำเสนอด้วย

เรื่องนี้ก็เดือดร้อนถึงกระทรวงการต่างประเทศต้องออกมาชี้แจงว่าการที่ทหารอิสราเอลมายกธงไทยหลังเข้าถล่มกาซาและสังหารผู้คนเป็นจำนวนมากแล้ว ก็ดันมายกธงไทยโพสต์ในรูปถ่ายก็ไม่รู้ว่าเพื่ออะไร แต่การกระทำดังกล่าวเหมือนจะลากเอาไทยเข้าไปเกี่ยวข้องซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าอะไร

แต่กระทรวงการต่างประเทศก็กังวลว่าจะไปกระทบกับความรู้สึกของฮามาส และจะมีผลต่อตัวประกันที่คาดกันว่ายังเหลืออยู่ 8 คน

พร้อมกันนี้กระทรวงการต่างประเทศก็ได้ขอให้ทูตอิสราเอลในไทยชี้แจง และให้ทูตไทยประจำเทลอาวีฟได้สอบถามไปยังกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลด้วยเพื่อขอคำชี้แจง

พลันที่เป็นข่าวทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย นาง Orna Sagiv ก็ได้จัดให้มีการแถลงข่าว ซึ่งอาจจะทำเป็นวงรอบปกติอยู่แล้ว และต่อคำถามนี้เท่าที่ได้ฟังจากนักข่าว เธอตอบว่ายังไม่แน่ใจ อาจเป็นภาพปลอมหรือตัดต่อ ครั้นผู้สื่อข่าวแย้งว่าได้มีการตรวจสอบแล้วไม่ใช่ภาพตัดต่อ เธอก็ตอบแบบติดตลกว่า ทหารอิสราเอลอาจนึกถึงบรรยากาศที่เกาะสมุยของประเทศไทยเลยเกิดอารมณ์คิดถึงด้วยการชักธงไทย

จากเนื้อความที่ฟังจากผู้สื่อข่าวบางท่าน ถ้าท่านทูตพูดจริง ก็ถือว่าเป็นการแสดงออกที่วิปริตผิดปกติทางจิต เพราะเธอจะมีอารมณ์ขันได้อย่างไรในเมื่อทหารอิสราเอลไปยืนหน้ารถถังที่จอดอยู่หน้าสิ่งปรักหักพังในกาซา ที่เป็นฝีมือทหารอิสราเอล มันน่าภูมิใจหรือน่ายินดีมากนักหรือที่ได้เข่นฆ่า ทำลายล้างคนที่ไม่มีทางสู้ แต่เอาเถอะยกประโยชน์ให้จำเลย นักข่าวอาจฟังผิดก็ได้?

คราวนี้กลับมาพูดประเด็นที่เธอตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นรูปตัดต่อโดยนาทีแรกที่ถูกถาม มันก็บ่งบอกว่าเธอเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ จนถึงกระทั่งได้เคยนำเอาคลิปตัดต่อบิดเบือนกล่าวร้ายต่อฮามาสในการโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 เพราะในคลิปนั้นแสดงภาพของการที่เขาอ้างว่าเป็นทหารฮามาสที่ทำการฆ่าตัดคอเด็กทารก และทำทารุณกรรมต่างๆต่อพลเรือนชาวอิสราเอล รวมทั้งการบรรยายถึงการข่มขืนจำนวนมากในงานมหหกรรมดนตรี

อนึ่งท่านทูตยังนำคลิปเหล่านี้ไปแสดงในที่ต่างๆ รวมทั้งในคณะกรรมาธิการการต่างประเทศวุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร นอกเหนือไปจากการนำไปแสดงต่อสาธารณะให้ประชาชนในหลายพื้นที่ได้ชม พร้อมกับตอกย้ำว่าเป็นความชอบธรรมที่อิสราเอลจะตอบโต้เข่นฆ่าชาวกาซา

อย่างไรก็ตามคลิปตัดต่อนั้นต่อมาได้ถูกหักล้างโดยพยานของอิสราเอลในพื้นที่ และยังมีสื่อเช่น HAARETZ ของอิสราเอลนำมาเผยแพร่

นอกจากนี้สื่อดังกล่าวและยังมีผู้เชี่ยวชาญอิสราเอลบางท่านได้ออกมาเปิดเผยว่าผู้เสียชีวิตชาวอิสราเอลหลายร้อยคนเสียชีวิตจากการระดมยิงของกองทหาร IDF อิสราเอล ทั้งจากภาคพื้นดินและจากอากาศ ซึ่งพิสูจน์ได้จากกระสุนและทิศทางตลอดจนเทปประกอบ

อนึ่งก็เป็นที่ราบกันดีว่าฮามาสไม่มีเฮลิคอปเตอร์ที่จะกราดยิงจากทางอากาศ จนในที่สุดรัฐบาลอิสราเอลสั่งให้หนังสือพิมพ์ HAARETZ หยุดเผยแพร่

เมื่อพิจารณาจำนวนผู้เสียชีวิตชาวอิสราเอลในวันที่ 7 นั้นมีทั้งหมด 1,130 คน ซึ่งแต่เดิม อิสราเอลแจ้งยอดสูงกว่านี้ แต่เมื่อมีการพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ มีจำนวนหลายสิบคนคือ ฮามาส แม้บางศพจะมีการเผาเพื่ออำพรางก็ตาม จึงต้องหักออกอีกหลายร้อยคน และอีกหลายร้อยเป็นทหาร IDF ส่วนทางปาเลสไตน์พลเรือนในกาซา โดยเฉพาะไม่นับรวมในเวสแบงก์อย่างน้อย 32,845 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็กไม่น้อยกว่า 17,000 คน

ยิ่งไปกว่านั้นการกล่าวอ้างถึงการใช้สิทธิป้องกันตนเองของอิสราเอลนั้น ก็ขัดต่อหลักกฎหมายระหว่างประเทศ เพราะอิสราเอลไม่อาจอ้างสิทธินี้ในแผ่นดินที่ตนยึดครอง

ในทางตรงข้ามปาเลสไตน์มีสิทธิที่จะโจมตีต่อต้านผู้ยึดครองเพื่อปลดแอกจากการกดขี่ และต่อสู้เพื่ออิสรภาพของตนเอง ดังนั้นการกระทำเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม หรือการกระทำอื่นๆในเขตยึดครองของปาเลสไตน์ จึงเป็นสิทธิอันชอบธรรม

กลับมาวิเคราะห์ว่าเพราะเหตุใดทหารอิสราเอลจึงชูธงชาติไทยหน้ารถถังในกาซาก็อาจสรุปได้เป็นประเด็นดังต่อไปนี้

1.ทหารอิสราเอลคนนั้นเป็นทหารรับจ้างชาวไทย หรือคนถือ 2 สัญชาติ จึงต้องการอวดธงโดยไม่คิดว่าจะมีผลกระทบอะไรต่อประเทศไทย และตัวประกัน มีข่าวบางกระแสอ้างว่า 8 คนนั้นอาจเป็นทหารรับจ้าง ซึ่งยังไม่มีการยืนยัน

2.อิสราเอลอาจต้องการดึงไทยให้เข้าไปเป็นคู่ขัดแย้งหากฮามาสตอบโต้ด้วยประการทั้งปวง รวมทั้งกับตัวประกัน

ดังนั้นรัฐบาลไทย โดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศ จึงต้องดำเนินการในเรื่องนี้ให้กระจ่างชัด และชี้แจงให้คนไทยได้รับทราบ ตลอดจนชี้แจงผ่านกาตาร์ให้ฮามาสรับทราบด้วย

อีกประการหนึ่งที่กระทรวงการต่างประเทศต้องดำเนินการตอบโต้ หรือห้ามปรามการกระทำของทูตอิสราเอลในไทย ที่ทำผิดมารยาททางการทูตที่บุกไปรัฐสภาไทย หรือไปปลุกระดมคนไทยให้เกิดความเกลียดชังฮามาส และรวมไปถึงคนมุสลิมในไทย หรือแม้แต่คนไทยที่มีมนุษยธรรม และรู้ความจริงจึงสนับสนุนฮามาส ซึ่งจะนำมาด้วยความแตกแยกภายในประเทศ เช่น การจัดคาราวานตุ๊กๆ โฆษณาชวนเชื่อภายในราชอาณาจักรไทย

ทั้งนี้ การกระทำต่างกรรม ต่างวาระของท่านทูตผู้นั้น นอกจากจะผิดมารยาททางการทูตแล้ว บางสิ่งบางอย่างยังผิดกฎหมายไทยและกฎหมายระหว่างประเทศ

โปรดอย่าปล่อยปละละเลยให้ใครมาละเมิดอำนาจอธิปไตยไทย หรือให้ใครมาทำอะไรรดหัว เหมือนคนไทย รัฐบาลไทย ประเทศไทย ไม่มีความหมาย ใครจะทำอะไรก็ได้

ที่สำคัญนโยบายต่างประเทศของไทย นอกจากจะดำรงความเป็นกลางโดยพื้นฐาน แต่เราจะต้องยืนอยู่บนหลักการของความถูกต้อง ด้วยหลักมนุษยธรรมและความยุติธรรม ที่สำคัญคือการเพิ่มบทบาทในการสร้างสันติภาพในประชาคมโลก

อย่าบอกว่าเราเป็นมิตรกับทุกประเทศ ขอให้ตระหนักว่าประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ และพระพุทธเจ้าทรงสอนว่า ให้คบแต่กัลยาณมิตร ห้ามคบโจร ห้ามคบฆาตกร ดังคำพังเพยว่า “คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล”