และแล้วเราก็ได้เห็นราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้นทะลุ 30 บาทต่อลิตร หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เห็นชอบให้ปรับอัตราเงินกองทุนน้ำมันประเภทน้ำมันดีเซลเพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศเกิน 30 บาทต่อลิตรได้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 เป็นต้นไป ซึ่ง บริษัท เชลล์ แห่งประเทศไทย จำกัด (Shell) เป็นเจ้าแรกที่ได้ประกาศขึ้นราคาน้ำมันดีเซล 0.50 บาทต่อลิตร เป็น 30.49 บาทต่อลิตร และยังมีอีกหลายเจ้าตามมา

ทั้งนี้ “นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู” โฆษกกระทรวงพลังงาน บอกว่า  หลังจากที่กระทรวงพลังงานได้ลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะค่าน้ำมันดีเซลซึ่งเป็นต้นทุนของสินค้าและบริการ โดยมีการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ 30 บาทตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 เป็นต้นมา ทำให้ปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลเป็นหนี้ใกล้ 1 แสนล้านบาทแล้ว ทั้งนี้ เพื่อมิให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีภาระหนี้มากเกินไป และเป็นการรักษาสภาพคล่องและความเชื่อมั่นของกองทุนฯ

“ที่ผ่านมากระทรวงพลังงานเข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชน จะเห็นได้ว่าได้มีการตรึงราคาน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นต้นทุนของสินค้าและบริการ จึงได้มีการตรึงราคาน้ำมันดีเซลมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 ที่ 30 บาทต่อลิตรมาอย่างต่อเนื่อง และบางช่วงราคาน้ำมันดีเซลที่แท้จริงเคยสูงถึง 45 บาทต่อลิตร อีกทั้ง ณ วันที่ 24 มีนาคม 2567 สถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงติดลบกว่า 98,000 ล้านบาท ซึ่งหากไม่มีงบประมาณเข้ามาช่วยเหลือ กองทุนฯ จำเป็นต้องปรับลดอัตราการชดเชยลง 1-2 บาทต่อลิตร ซึ่งจะส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น แต่เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด จะมีการปรับลดอัตราการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลแบบขั้นบันได ปัจจุบันมีการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 4.17 บาทต่อลิตร คิดเป็นจำนวนเงินที่กองทุนฯ ต้องจ่ายประมาณ 8,700 ล้านบาทต่อเดือน จึงขอให้ประชาชนเข้าใจในสถานการณ์ ณ เวลานี้ด้วย”

ขณะที่ “นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์” ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง กล่าวว่า  ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เห็นชอบให้ปรับลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ ประเภทน้ำมันดีเซลเพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศเกิน 30 บาท/ลิตรได้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 เป็นต้นไป หลังมาตรการตรึงดีเซลลดค่าครองชีพจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 มีนาคมนี้ โดยการดำเนินการปรับลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ ในกลุ่มน้ำมันดีเซล กบน. จะพิจารณาถึงข้อมูลต่างๆ ตามความเหมาะสมของช่วงเวลา เพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนและการบริหารจัดการของผู้ค้าน้ำมันมากจนเกินไป ทั้งนี้ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน 31 มีนาคม – 1 เมษายน 2567 ยังไม่มีการดำเนินการอย่างแน่นอน

ด้าน “นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รมช.คลัง กล่าวว่า คลังพร้อมพิจารณาขยายเวลาปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 1 บาทต่อลิตร ที่จะสิ้นสุดมาตรการลงในวันที่ 19 เม.ย.2567 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน และภาคธุรกิจในช่วงที่เศรษฐกิจยังชะลอตัว ซึ่งต้องยอมรับว่าการต่ออายุมาตรการดังกล่าวจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้มากถึง 2,000 ล้านบาทต่อเดือน แต่เพื่อประโยชย์ของประชาชน และเป็นหน้าที่ของรัฐบาล โดยเงื่อนไขต่างๆ จะต้องรอกระทรวงพลังงานเสนอมาให้พิจารณาอีกครั้ง ตอนนี้ยังไม่เห็นข้อเสนอ คาดว่ายังพอมีเวลา

ส่วน “นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง” ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย บอกว่า อยากให้ภาครัฐดูให้รอบด้านก่อนจะปรับขึ้นน้ำมันดีเซลขึ้นไปเกินลิตรละ 30 บาท ในเดือนเมษายนนี้ เนื่องจากปัจจุบันภาวะเศรษฐกิจค่อนข้างซึม ภาคการบริโภคและการใช้จ่ายลดลง ทำให้ผู้ประกอบการและผู้ผลิตปรับลดการผลิตสินค้าลงร้อยละ 20-25 ส่งผล กระทบต่อปริมาณการขนส่งของผู้ประกอบการสมาชิกสมาพันธ์ลดลงตามไปด้วย ดังนั้น ควรจะตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อเพื่อช่วยลดภาระผู้ประกอบการและประชาชนต่อไปอีก และไปพิจารณาปรับโครงสร้างพลังงานแทนเพื่อเป็นการแก้ปัญหาระยะยาว

“การปรับขึ้นดีเซลจะกระทบต่อต้นทุนและราคาสินค้าอย่างแน่นอน เพราะเมื่อปรับราคาดีเซลขึ้นทุก ลิตรละ 1 บาท ก็จะต้องมีการปรับค่าขนส่งขึ้นร้อยละ 3 ดังนั้นถ้าในเดือนเมษายนนี้ ถ้ามีการปรับราคาน้ำมันดีเซลขึ้นลิตรละ 2 บาท ก็จะต้องมีการปรับขึ้นค่าขนส่งถึงร้อยละ 6”

และ “นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์” นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวว่า ธุรกิจโรงแรมในขณะนี้ต้องแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำแล้วเป็นระลอก ซึ่งมองว่าไม่เป็นธรรม ไม่เห็นด้วยกับการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำแบบนี้ เพราะเป็นการเลือกรายเซ็กเตอร์ ไม่เท่าเทียมกันในภาพรวม ทำให้ความกังวลในตอนนี้เป็นเรื่องการมีต้นทุนในธุรกิจเพิ่มขึ้น

เพราะราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากราคาน้ำมันขึ้นแบบนี้ กลัวว่าค่าไฟฟ้าจะปรับขึ้นตามมาอีก เพราะที่ผ่านมาต้นทุนทั้ง 2 อย่างมักขะปรับขึ้นลงสอดคล้องกัน โดยค่าไฟฟ้าคิดเป็นสัดส่วนต้นทุน 8-10% ของธุรกิจโรงแรม รวมกับค่าจ้างที่อยู่ประมาณ 25-30% ที่ปกติโรงแรมก็จะแบกรับต้นทุนทั้ง 2 อย่างนี้มากพอสมควร

ความฝันที่ได้เห็นดีเซลทะลุ 30บาท/ลิตร ก็เป็นจริงแล้ว! หลังจากนี้เชื่อได้เลยว่าผลกระทบราคาสินค้า - ค่าโดยสาร จะตามมา ประชาชนเตรียมรับมือกันให้ดีๆ