ศึกลูกหนังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันนี้ (7 เม.ย.) คู่เอกเป็นเกมแดงเดือด "หงส์แดง"ลิเวอร์พูล รองจ่าฝูง บุกไปเยือนคู่ปรับตัวฉกาจ"ปิศาจแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงถิ่น โดยนัดนี้ "หงส์แดง"ตั้งเป้าเก็บชัยชนะให้ได้ เพื่อกลับไปครองบัลลังก์จ่าฝูง คู่นี้ฟาดแข้งเวลา 21.30 น.

ผลการพบกันของทั้งสองทีม

17/03/24 แมนฯยู เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 (4-3) / เอฟเอ คัพ

18/12/23 ลิเวอร์พูล เสมอ แมนฯยู 0-0

06/03/23 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯยู 7-0

23/08/22 แมนฯยู ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1

12/07/22 แมนฯยู ชนะ ลิเวอร์พูล 4-0 / (กลาง) กระชับมิตร

20/04/22 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯยู 4-0

24/10/21 แมนฯยู แพ้ ลิเวอร์พูล 0-5

14/05/21 แมนฯยู แพ้ ลิเวอร์พูล 2-4

25/01/21 แมนฯยู ชนะ ลิเวอร์พูล 3-2 / เอฟเอ คัพ

18/01/21 ลิเวอร์พูล เสมอ แมนฯยู 0-0

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

แมนฯยู

05/04/24 แพ้ เชลซี 3-4 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

31/03/24 เสมอ เบรนท์ฟอร์ด 1-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

17/03/24 เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 (เหย้า) เอฟเอ คัพ

09/03/24 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

03/03/24 แพ้ แมนฯซิตี้ 1-3 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

ฟอร์มเกมเหย้าในลีก แข่ง 14 ชนะ 8 เสมอ 1 แพ้ 5 ได้ 21 เสีย 20

ลิเวอร์พูล

05/04/24 ชนะ เชฟฯยูฯ 3-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

31/03/24 ชนะ ไบรท์ตันฯ 2-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

17/03/24 เสมอ แมนฯยู 2-2 (เยือน) เอฟเอ คัพ

15/03/24 ชนะ สปาร์ต้า ปราก 6-1 (เหย้า) ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก

10/03/24 เสมอ แมนฯซิตี้ 1-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

ฟอร์มเกมเยือนในลีก แข่ง 14 ชนะ 8 เสมอ 4 แพ้ 2 ได้ 27 เสีย 14

ฟอร์ม 6 นัดหลังสุดในลีก

แมนฯยู

เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 0 แพ้ 1 ได้ 6 เสีย 2

เยือน - แข่ง 3 ชนะ 0 เสมอ 1 แพ้ 2 ได้ 5 เสีย 8

ลิเวอร์พูล

เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 0 ได้ 6 เสีย 3

เยือน - แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 0 แพ้ 1 ได้ 6 เสีย 4

สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม

แมนฯยู

          แมนฯยู ของกุนซือ อีริค เตน ฮาก เพิ่งจะบุกพ่ายให้กับ เชลซี 3-4 ในลีกเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลงเตะ ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม เว้นเสียจาก ไทเรลล์ มาลาเซีย, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ลุค ชอว์, วิกเตอร์ ลินเดอเลิฟ และ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล เหล่าบรรดาแข้งเดี้ยงที่อยู่ในระหว่างพักรักษาตัวยกเข่ง คาดว่า เตน ฮาก เตรียมวางหมากในระบบ 4-2-3-1 โดยมี ราสมุส ฮอยลุนด์ ออกสตาร์ทยืนเป้าล่าสกอร์และใช้ อเลฮานโดร การ์นาโช่, บรูโน่ แฟร์นานเดส กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นสามประสานกลางรุกคอยสนับสนุนอยู่ด้านหลังตามสูตร

คาด11ตัวผู้เล่น

แมนฯยู (4-2-3-1) : อ็องเดร โอนาน่า - อารอน วาน-บิสซาก้า, วิลลี่ คัมบีวาล่า, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ดิโอโก้ ดาโลต์ - สกอตต์ แม็กโตมิเนย์, ค็อบบี้ ไมนู - อเลฮานโดร การ์นาโช่, บรูโน่ แฟร์นานเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด - ราสมุส ฮอยลุนด์

ลิเวอร์พูล

          ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งจะเปิดรังเอาชนะ เชฟฯยูฯ 3-1 ในลีกช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลงสนาม ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม นอกเสียจาก ดิโอโก้ โชต้า, สเตฟาน บายเซติช, ธิอาโก้ อัลคานตาร่า, โฌแอล มาติป, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ อลิสซง เบ็คเกอร์ หกแข้งเดี้ยงหน้าเดิมซึ่งยังไม่หายดี คาดว่า คล็อปป์ เตรียมจัดทัพในระบบ 4-3-3 โดยมี โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, ดาร์วิน นูนเญซ กับ หลุยส์ ดิอาซ เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าสกอร์ตามระเบียบ

คาด11ตัวผู้เล่น

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ควีมิน เคลเลเฮอร์ - คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์, จาเรลล์ ควอนซ่าห์, เฟอร์กิล ฟาน ไดย์ค, โจ โกเมซ - โดมินิค โซโบสไล, วาตารุ เอ็นโด, อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์ - โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, ดาร์วิน นูนเญซ, หลุยส์ ดิอาซ

วิเคราะห์

          การเผชิญหน้าของทั้งคู่ ทางฝั่งทีมเยือน ลิเวอร์พูล ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงที่พลาดไม่ได้ ดูดีมากกว่า ทั้งฟอร์มการเล่น และตัวผู้เล่นที่กำลังมั่นใจ โดยนัดนี้ต้องการ 3 แต้มเท่านั้น เพื่อทวงจ่าฝูงคืนจากอาร์เซน่อล ส่วนเจ้าบ้านเพิ่งจะพ่ายหัวร้อนให้กับ เชลซี 3-4 แบบเหลือเชื่อ บอกเลยว่างานนี้ทุ่มสุดตัวอย่างแน่นอน อีกทั้งไม่มีอะไรจะเสียไปมากกว่านี้แล้ว รับรอง แดงเดือดครั้งนี้ จะเป็นเกมที่น่าจดจำ และอาจจะเป็นเกมตัดสินแชมป์ของลิเวอร์พูลก็เป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม เกมวันนี้ยังเชื่อว่า ทีมเยือน น่าจะเก็บชัยได้ และคว้า 3 แต้มกลับบ้าน ฟันธง ลิเวอร์พูล ชนะ 2-1

#เอริคเทนฮาก #แมนยู #พรีเมียร์ลีก #ข่าววันนี้ #MUFC #แดงเดือด #liverpool #ลิเวอร์พูล