‘เมฆินทร์’ เห็นใจ ‘ธนา’ ปมพฤติกรรม ‘เชาว์ มีขวด’ ลั่นต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรค แฉมุ่งแต่จะสร้างข่าวเพื่อสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง บนความเสียหายของพรรคฯ

         นายเมฆินทร์ เอี่ยมสอาด กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ทางพรรคฯ มีแนวคิดที่จะขับ นายเชาว์ มีขวด ออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ว่า กรณีนี้ ตนเห็นใจ นายธนา ชีรวินิจ อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร ของพรรค ที่เป็นคนชักนำและให้โอกาสทางการเมืองแก่นายเชาว์ โดยการให้เป็นรองโฆษกพรรคฯ ในช่วงเวลาที่นายธนา เป็นโฆษกฯ แต่หลังจากที่ได้ตำแหน่ง จนกระทั่งถึงปัจจุบันที่นายเชาว์ พ้นจากการทำหน้าที่รองโฆษกฯ ไปแล้ว กลับมีพฤติกรรมการให้ข่าวแบบล้ำเส้นคณะกรรมการบริหารพรรค รวมทั้ง ยังให้ข่าวให้ร้ายกับทางพรรคฯ อยู่เสมอ โดยที่ผ่านมา ทางพรรคฯ พยายามคิดว่า นายเชาว์ ก็คงให้ข่าวเป็นการแสดงความคิดเห็นแบบปกติตามวิถีของระบอบประชาธิปไตย และเป็นไปตามแนวทางของพรรคที่เคารพในความหลากหลายของความคิดเห็น แต่นานวันเข้า นายเชาว์ กลับมีพฤติกรรมที่ต้องเรียกว่า มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ เพราะไม่ว่าทางพรรคฯ จะดำเนินโครงการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อพรรคและประชาชน นายเชาว์ กลับมีการตั้งแง่สงสัยและโจมตีการทำงานอยู่เสมอ รวมทั้ง ยังมีพฤติกรรมที่เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า นายเชาว์ มุ่งแต่จะสร้างข่าวเพื่อสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง บนความเสียหายของพรรคฯ ดังนั้น การที่นายธนา ออกมาให้ข่าวให้สาธารณชนถึงเรื่องนี้ ก็คงจะเหลืออดกับพฤติกรรมของนายเชาว์ จริงๆ เพราะฉะนั้น ในเมื่อทางพรรคฯ และคนที่ให้โอกาสนายเชาว์ ออกมาเปิดเผยพฤติกรรมเช่นนี้แล้ว ตนจึงขอเรียกร้องให้ นายเชาว์ พิจารณาตนเองว่าจะตัดสินใจอย่างไรทางการเมือง แต่สำหรับทางพรรคฯ แล้วเห็นว่า ควรที่จะต้องตัดสินใจดำเนินการตามข้อบังคับพรรคฯ เพื่อต้องการให้สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ทุ่มเททำงานให้กับพรรค มากกว่าการสร้างชื่อเสียงเฉพาะตัว โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่ตามมาด้วย

           “ผมเข้าใจความรู้สึกของนายธนา ดี ที่ถูกคนที่ตัวเองให้โอกาสแล้วมาให้ร้ายกัน  ให้ร้ายกันเองไม่เท่าไหร่ ยังมาให้ร้ายพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์และมีคนไทยจำนวนมากเป็นสมาชิกอยู่ด้วย ทั้งนี้ ผมขอยืนยันว่า หลังจากที่คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ให้การรับรอง นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ให้เป็นหัวหน้าพรรคฯ และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้ พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย เช่น การปรับปรุงอาคารสถานที่ของที่ทำการพรรค ให้มีความทันสมัย การปรับปรุงแก้ไขข้อบังคับพรรค โดยมุ่งเปิดโอกาสให้สมาชิกและประชาชนมีส่วนร่วมกับพรรคได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ๆ ได้เข้ามามีอำนาจในการบริหารพรรค มีการรับสมัครสมาชิกพรรคแบบออนไลน์เป็นพรรคแรกของประเทศไทย เป็นต้น ซึ่งผมสงสัยว่า ทำไมนายเชาว์ ถึงไม่ทราบว่า ทางพรรคฯ ที่นายเชาว์สังกัดนั้น ทำอะไรบ้าง หรือได้เดินทางมาเยี่ยมชมอะไรหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา เห็นแต่มีการใช้วาทกรรมด้อยค่าพรรค ใส่ร้ายพรรค ทำลายพรรคมาโดยตลอด เพื่อทำให้ตัวเองมีแสง ผมเห็นว่า ที่นายเชาว์ทำนั้น เป็นการเหยียบบ่าเพื่อน เพื่อทำให้ตนเองดูโดดเด่น รวมทั้ง อีกประเด็นที่ผมสงสัยก็คือ ไม่ทราบว่า นายเชาว์ไปรับงานใครมาหรือไม่ หรือมีใครอยู่เบื้องหลังให้นายเชาว์ ทำพฤติกรรมแบบนี้ เพราะถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดผลดีกับพรรค ดังนั้น ผมจึงอยากให้นายเชาว์ ให้โอกาสกรรมการบริหารพรรคฯ ซึ่งมีนายเฉลิมชัย เป็นผู้นำอยู่ในขณะนี้ เพราะอย่างไรเมื่อครบ 4 ปี ก็สามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ได้ ตามกฎกติกาของพรรค แต่ถ้าใครมุ่งที่จะโจมตี ใส่ร้ายหรือทำลายพรรค โดยที่ไม่มีมูลความจริง เพียงเพื่อสร้างแสงให้ตัวเอง บนความเสียหายของพรรคฯแล้ว ก็ต้องยอมรับผลที่ตามมา จากกติกาของพรรคฯ ที่สมาชิกของพรรคเป็นผู้ร่างและบังคับใช้เองด้วย”นายเมฆินทร์กล่าว