"บิ๊กต้อ" ย้ำ ศปป.1-5 ทำงานเชิงรุก แก้ไขปัญหาสังคมทุกด้าน รับมียาเสพติดทะลักเข้าไทย ชี้ ยังมีแก๊งมอดไม้ลักลอบตัดไม้ห่วงห้ามมากขึ้น โว จนท.จับผู้ต้องสงสัยเหตุรุนแรงจชต. 31 ราย ของกลางเพียบ เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) พ.อ.พีรวัชฌ์ แสงทอง โฆษกกอ.รมน. เปิดเผยผลการประชุม หน่วยขึ้นตรง (นขต. ) กอ.รมน. มี พล.อ.สสิน ทองภักดี เสธนาธิการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ กอ.รมน. เป็นประธาน โดยมีการรายงานสถานการณ์ด้านยาเสพติดในช่วงเดือนต.ค. ที่ผ่านมา มีการจับกุมยาเสพติดโดยเฉพาะยาบ้าสูงกว่าเดือนก.ย.ที่ผ่านมา และยังพบว่ามียาบ้าและไอซ์จำนวนมากถูกลักลอบเข้าประเทศในพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้วยการดัดแปลงยานพาหนะ เพื่อซุกซ่อนยาเสพติดหลากหลายรูปแบบ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มุ่งเน้นมาตรการด้านการข่าวเชิงลึก และเพิ่มความเข้มงวดในการตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด และการตรวจค้นยานพาหนะเป้าหมายให้เข้มงวดมากขึ้น พ.อ.พีรวัชฌ์ กล่าวต่อว่า สำหรับงานด้านป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติ ที่ผ่านมาได้มีการลักลอบตัดไม้หวงห้ามเป็นปริมาณมากในเขตอุทยานแห่งชาติ เช่น ไม้พะยูง ไม้กระยาเลย เป็นต้น โดยจะเป็นการแยกหรือกระจายลักลอบตัดไม้และลำเลียงนำมาพักไว้ที่จุดย่อย แล้วทำการขนย้ายลำเลียงโดยรถยนต์ในรูปแบบต่างๆ เช่น ซุกซ่อนในรถตู้ , รถปิคอัพ และรถยนต์นั่งส่วนบุคคล นำมากองรวมกันที่จุดพักไม้ซุกซ่อนในสวนยางพารา บ่อน้ำ หรือโกดังเก็บของใกล้ชายฝั่งริมแม่น้ำโขง เพื่อรอเวลาและโอกาสในการขนย้ายข้ามแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ยังมีการตรวจพบกลุ่มนายทุนกว้านซื้อและบุกรุกที่ดินเพื่อทำรีสอร์ทและปลูกพืชเศรษฐกิจในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ สำหรับการแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) ในช่วงนี้ทางเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมบุคคลต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับเหตุรุนแรง จำนวน 31 ราย และตรวจยึดอาวุธปืนได้ 14 กระบอก มีผู้เข้าโครงการพาคนกลับบ้าน จำนวน 3 คน ได้ดำเนินการพบปะสร้างความเข้าใจกับประชาชนทุกกลุ่ม , ผู้นำศาสนา , เยาวชนและบุคลากรในสถานศึกษา , การบริการทางการแพทย์กับประชาชนในพื้นที่ , การแก้ไขปัญหาพื้นที่ทำกินอุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี และ การก่อสร้างและปรับปรุงถนนที่ชำรุดในพื้นที่ จชต. รวมถึงการเปิดเวทีในระดับหมู่บ้าน เวทีสภาสันติสุขตำบล และ ศปก.อำเภอ จำนวน 365 ครั้ง "เลขาธิการ กอ.รมน. ได้เน้นย้ำให้ ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 1-5 (ศปป.1-5) , กอ.รมน.ภาค และ กอ.รมน.จังหวัด ได้ขับเคลื่อนการปฏิบัติตามแผนงานให้บังเกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงดำเนินการให้ความรู้แก่พี่น้องประชาชนในด้านต่างๆที่เกี่ยวข้องให้ทุกภาคส่วนได้ตระหนักถึงจิตสำนึก ความรักความสามัคคี การไม่เพิกเฉยหรือละเลย และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแก้ไขปัญหาของสังคม เพื่อให้ปัญหาทุกอย่างได้หมดสิ้นไป ให้สังคมไทยเป็นสังคมที่มีการพัฒนา มีความมั่นคงอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน"โฆษกกอ.รมน. กล่าว