ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ / ทหารประชาธิปไตย

เมื่อวันที่ 1 เมษายน เกิดข่าวอันน่าตกใจขึ้น ด้วยอิสราเอลทำการโจมตีสถานทูตอิหร่านในกรุงดามัสกัส ซีเรีย ทำให้สถานกงสุลอิหร่านพังทั้งแถบและมีระดับบิ๊กทางทหารของอิหร่านและทีมงานเสียชีวิต 7 นาย

อิหร่านจึงประกาศจะตอบโต้เอาคืน และอ้างสิทธิตามกฎบัตรสหประชาชาติข้อที่ 51 อันถือเป็นความชอบธรรมที่จะตอบโต้ การกระทำที่ผิดกฎหมายระหว่างประเทศของอิสราเอล

น่าแปลกใจที่ประเทศตะวันตกต่างเงียบงันไม่มีใครออกมาตำหนิอิสราเอลกันเลย

ครั้นวันที่ 13 เมษายน ตามข่าวบีบีซี แจ้งว่าอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศใส่อิสราเอลด้วยโดรนและขีปนาวุธตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

ด้านกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ระบุว่าการก่อเหตุครั้งนี้พุ่งเป้าไปที่ “เป้าหมายเฉพาะ” ซึ่งหมายความว่าขีดวงจำกัดโจมตีเฉพาะจุดสำคัญทางยุทธศาสตร์ เช่น เป้าหมายทางทหาร เป็นต้น

ทางฝ่ายอิสราเอลอ้างว่าสามารถป้องกันโดรนและขีปนาวุธอิหร่านกว่า 300 ลูกได้ถึง 99% ซึ่งแน่นอนเราจะไม่พบความเสียหายของพลเรือนอิสราเอลเลย แต่จากการประชุมรัฐมนตรีสงครามของอิสราเอล มีการสั่งห้ามรัฐมนตรีให้ข่าวการโจมตี และความเสียหายทั้งหมด และห้ามสื่ออิสราเอลรายงานอีกด้วย (ข่าวโลกที่ 3)

อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวหลายสำนักรายงานว่าสหรัฐฯอังกฤษ และจอร์แดนได้ทำการช่วยกันทำลายโดรนและขีปนาวุธในบางส่วน ก่อนที่จะเข้าสู่น่านฟ้าอิสราเอล และตามมาด้วยการประณามอิหร่านจากตะวันตก เช่น สหรัฐฯ อังกฤษ แคนาดา และเยอรมนี เป็นต้น ทั้งๆที่การตอบโต้ของอิหร่านเป็นไปตามกฎบัตรสหประชาชาติ และไม่มีเป้าหมายที่พลเรือนอิสราเอลเลย

เรื่องนี้จะมีการนำเข้าพิจารณาใน UNSC ซึ่งคาดว่าคงถูกวีโต้จากรัสเซียและจีน ในการที่จะให้ UNSC ประณามอิหร่าน

ในขณะที่อิหร่านก็จะนำเรื่องการโจมตีสถานทูตของตนโดยอิสราเอลเข้าที่ประชุม UNSC เช่นกัน ผลก็คงจะถูกวีโต้จากทั้งสหรัฐฯ และอังกฤษ

แหล่งข่าวอีกด้านจากสื่อทางเลือกบางกลุ่มอ้างว่าการโจมตีของอิหร่านก่อความเสียหายหนักสุดที่อิสราเอลได้รับ คือ ศูนย์ข่าวกรองลับทางตอนเหนือของที่ราบสูงโกราน ที่ถูกยึดครองโดยอิสราเอล และศูนย์นี้ตั้งอยู่ในบริเวณภูเขาเฮอร์มอน ศูนย์นี้ตามข่าวอ้างว่าเป็นศูนย์บัญชาการในการโจมตีสถานทูตอิหร่านในดามัสกัส ซีเรีย เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา

อีกที่ทางทหารของอิสราเอลที่ถูกโจมตีหนัก คือ สนามบิน NAVATIM ถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงไม่น้อยกว่า 7 ลูก และสถานที่นี้เป็นที่เก็บเครื่องบิน F-35 และ F-15 ของอิสราเอล แหล่งข่าวกล่าวรายงานโดยอ้างสก็อตไรเดอร์ อดีตผู้ตรวจสอบในอาวุธทำลายล้างสูงของ UN

Aminakh อดีตที่ปรึกษาเสนาธิการกองทัพอิสราเอล ให้ข้อมูลว่าอิสราเอลใช้งบประมาณการป้องกันการโจมตีของอิหร่าน จากระบบป้องกันภัยทางอากาศทั้งหมดเป็นเงินประมาณ 1.35 พันล้านดอลลาร์ แต่อิหร่านใช้ต้นทุนประมาณ 10% ของอิสราเอลเท่านั้น

อนึ่งการโจมตีของอิหร่านนี้ได้รับการสอดประสานการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรน จากฮิซบอลเลาะห์ ฮูตี กองกำลังในอิรัก และซีเรีย ทำให้ดูว่ามีปริมาณการโจมตีจำนวนมาก

ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน นายอมิร อับดุลลาฮิยอน กล่าวว่าการโจมตีของอิหร่านไม่ได้คาดหวังในการทำลายล้างแต่เพื่อตอบโต้การกระทำอันก้าวร้าวของอิสราเอล บางแหล่งข่าวยังอ้างว่าฝ่าย IRGC ต้องการทดสอบระบบการป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอล เพื่อทำการปรับปรุงการโจมตีหากเกิดขึ้นในโอกาสต่อไป

นอกจากนี้ยังมีการวิเคราะห์กันว่าเหตุใดอิสราเอลจึงทำการโจมตีสถานทูตอิหร่านในซีเรีย ซึ่งหลายฝ่ายประเมินว่าอิสราเอลต้องการยั่วยุให้อิหร่านเปิดหน้าโจมตีตนเองแทนการใช้ตัวแทน ซึ่งจะทำให้อิสราเอลอาจใช้การยืมมือสหรัฐฯ นาโต้หรือแม้กำลังของตนเองเพื่อเข้าโจมตีอิหร่าน โดยอ้างว่าเป็นการตอบโต้

ในเรื่องนี้สหรัฐฯได้ออกมาแถลงแล้วว่าจะไม่ร่วมการโจมตีอิหร่าน แต่จะทำหน้าที่คอยปกป้องอิสราเอลเท่านั้น จริงหรือไม่ต้องคอยดูกันต่อไป แต่ก็อาจมองได้ว่าเป็นการให้ท้ายอิสราเอล

ประเด็นอยู่ที่ว่าอิสราเอลจะโจมตีเอาคืนหรือไม่ จากรายงานของ Wall Street Journal อ้างว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯและตะวันตกคาดว่าอิสราเอลอาจเปิดฉากโจมตีด้วยขีปนาวุธ และโดรนในวันสองวันนี้ ส่วนจะใช้เครื่องบินด้วยหรือไม่ยังไม่ชัดเจน

ด้านเป้าหมายที่อิสราเอลจะโจมตีคาดว่าน่าจะเป็นสถานที่ตั้งปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพื่อตั้งโรงไฟฟ้า และแหล่งพัฒนาความบริสุทธิ์ของสินแร่ยูเรเนียม และอีกแหล่งหนึ่งคงจะเป็นฐานทัพอิหร่านที่ช่องแคบฮอร์มุซปากทางเข้าอ่าวเปอร์เซียที่อิหร่านใช้ควบคุมการเดินเรือเข้าออกในทะเลอาหรับ อันเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันถึง 1 ใน 3 ของโลกทีเดียว

ส่วนผลของสงครามทำให้ตลาดหุ้นปั่นป่วนโดยเฉพาะตลาดเอเชีย แต่ตลาดดาวโจนส์ก็ขึ้นตัวแดง จำนวนไม่น้อยด้านราคาคริปโตก็ตกลงมาเกือบเท่าฐานเดิม ที่พุ่งทะยานขึ้นเมื่อคราวก่อน

ราคาทองคำและราคาน้ำมันดิบ พร้อมใจกันพุ่งขึ้นและคงจะพุ่งต่อไปถ้าอิสราเอลเปิดฉากโจมตีอิหร่าน ซึ่งแน่นอนอิหร่านคงโจมตีตอบโต้ที่รุนแรงขึ้น

ถ้าสถานการณ์เป็นแบบนี้มันคงยกระดับไปสู่สงครามใหญ่แน่นอน เพราะรัสเซียและจีนย่อมจะต้องหนุนอิหร่านในขณะที่ตะวันตก นำโดยสหรัฐฯ หนุนอิสราเอลแน่นอนอยู่แล้ว

ในระหว่างที่โลกกำลังสนใจการเผชิญหน้าระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน กองกำลังยึดครองของอิสราเอลก็ถือโอกาสโจมตีค่ายผู้อพยพในกาซาหลายครั้ง เข่นฆ่าผู้คนที่ไม่มีทางสู้ล้มตายเกือบร้อย ในจำนวนนี้มีเด็กหลายสิบคน

สำหรับประเทศไทยควรจะมีบทบาทในเวทีโลก เรียกร้องให้มีการเจรจาเพื่อยุติศึกในตะวันออกกลางโดยร่วมมือกับอาเซียน และหลายประเทศทั้งในแอฟริกาและในกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา เพราะหากเกิดสงครามใหญ่จนเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 มันจะเดือดร้อนไปทั่วโลก ในขณะที่เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัวจากหัวรถจักรสำคัญ 2 คัน คือจีนที่คาดว่าจะเติบโตถึง 5.4% และตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯหลายตัวก็ดูดี ไม่ว่าจะเป็นค่าเงินเฟ้อ หรือระดับการจ้างงาน

ถ้าเกิดสงครามเศรษฐกิจทรุดตัวแน่ และจะตามมาด้วยเงินเฟ้อ คนไทยก็จะเดือดร้อนด้วย

 

 

(บทความนี้เขียนในวันที่ 16 เมษายน 2567เวลา18.00น. อาจมีเหตุการณ์อะไรเกิดก่อนลงพิมพ์ครับ)