วันที่ 19 เมษายน 2567 พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชนและบุคลากรของรัฐ โดยมี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นางสาวรวิวรรณ จตุรพิธพร ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม นายโกมล พรมเพ็ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม นายเสกสรร สุขแสง อธิบดีกรมบังคับคดี นางสาวเอมอร เสียงใหญ่ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ดร.ขจร ธนะแพทย์ คณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานอัยการสูงสุด กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 10-01 อาคารกระทรวงยุติธรรม 

ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายแก้ไขปัญหาหนี้สินทั้งในระบบและนอกระบบที่ครอบคลุมกลุ่มลูกหนี้ทุกประเภท เพื่อช่วยเหลือผ่อนปรนภาระหนี้และบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้สินให้กับประชาชน ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงยุติธรรมมีบทบาทสำคัญในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย ทั้งก่อนฟ้องและหลังศาลมีคำพิพากษา โดยการจัด “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ร่วมกับ กรมบังคับคดี รวมทั้งการดำเนินการของกรมบังคับคดีในคดีกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ดังนั้น เพื่อให้การขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้เป็นไปอย่างยั่งยืน กระทรวงยุติธรรมจึงได้จัดการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชนและบุคลากรของรัฐ ในครั้งนี้ขึ้น

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้นำเสนอโครงสร้างปัญหาหนี้ของข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเกิดจากปัจจัยต่าง ๆ โดยจากข้อมูล พบว่า มีสูงถึง 2.8 ล้านคน และมูลค่าหนี้กว่า 3 ล้านล้านบาท โดยที่ประชุมได้นำเสนอแนวทางเพื่อให้ลูกหนี้มีศักยภาพในการชำระหนี้ โดยมีเงินเดือนหลังจ่ายหนี้เหลือเพียงพอต่อการดำรงชีพ ซึ่งต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 อาทิ การนำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) โดยจะคำนวณภาระหนี้ของลูกหนี้ที่มีอยู่ในปัจจุบันใหม่ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566 การให้ความช่วยเหลือข้าราชการที่ศาลสั่งล้มละลายที่ไม่ได้มีเหตุทุจริตไม่ให้ออกจากราชการ การปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรือขยายระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้ เป็นต้น