จากกรณีมีการนำเสนอข่าวว่ามีนักศึกษาชาวจีนอายุ 22 ปี ถูกขบวนการคอลเซ็นเตอร์ข่มขู่และเรียกค่าไถ่จากครอบครัว พร้อมบังคับให้นักศึกษาเดินทางจากประเทศออสเตรเลียเข้ามาในประเทศไทย ก่อนจะปรากฎข้อมูลว่า นักศึกษาคนนี้เดินทางต่อไปยัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ล่าสุด ชุดสืบสวน กองบังคับการ ตำรวจนครบาล 6 พบตัวนักศึกษาคนดังกล่าวแล้ว หลังเดินทางกลับจากอำเภอศรีราชา เข้ามาพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางรัก เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปรับตัวมาสอบสวนที่สน.บางรัก 

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เบื้องต้น ชุดสืบสวนได้ประสานผู้ปกครองของนักศึกษาคนนี้ เข้ามาพูดคุยซักถามข้อเท็จจริงว่าถูกขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ข่มขู่หลอกลวงจริงหรือไม่ แต่มีรายงานว่า  นักศึกษารายนี้ยังไม่ให้การในบางประเด็น และมี เหตุน่าเชื่อว่าไม่ใช่การลักพาตัว ส่วนเสียงชายที่พูดข่มขู่ทางโทรศัพท์ ทำทีว่านักศึกษาสาวทำผิดกฎหมาย และอ้างว่าจะส่งคนมาติดตาม ให้ทำตามที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์สั่งนั้น ปรากฏข้อเท็จจริงว่า เป็นชายที่นักศึกษาสาวคนนี้รู้จักผ่านทางแอปพลิเคชันสนทนาชื่อดัง จึงไม่แน่ชัดว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ เพราะภาพกล้องวงจรปิดและพยานหลักฐานทั้งหมด พบว่าตลอดระยะเวลาที่นักศึกษาคนนี้เดินทางมาถึงประเทศไทย และไปยังพื้นที่ต่าง ๆ นั้น เป็นการเดินทางเพียงลำพัง 

ทั้งนี้พนักงานสอบสวนสน.บางรัก จึงลงบันทึกประจำวันไว้ว่าพบตัวนักศึกษาแล้ว จากนั้นได้ให้ผู้ปกครองมารับตัวกลับไป 

สำหรับไทม์ไลน์ของนักศึกษาคนดังกล่าวพบว่า  วันที่ 13 เม.ย 67 เดินทางเข้ามาในประเทศไทยลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ วันที่ 14 เม.ย. 67 แท็กซี่มาส่งที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ 1 คืนหลัง จากนั้นเช็กเอาท์ออกจากโรงแรม และไม่ปรากฎข้อมูลว่าเดินทางไปที่ไหน วันที่ 17 เม.ย.67  เวลาประมาณ10.00 น. โทรหาแม่เพื่อขอเงิน โดยระหว่างนั้นมีเสียงผู้ชายเข้ามาในสายมีลักษณะข่มขู่ จากนั้น ขึ้นรถแท็กซี่จากย่านลาดกระบัง ไปที่เอกมัยเพื่อขึ้นรถต่อไปยังศรีราชา ในช่วงเวลาประมาณ 12.40 น. วันที่ 18 เม.ย.67 เดินทางออกจากที่พักในอ.ศรีราชาโดยมีการแวะซื้อซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือ คาดว่าน่าจะถูกหลอกหรือถูกข่มขู่ วันที่ 19 เม.ย.67  ขึ้นรถทัวร์จากแหลมฉบังเดินทางมาลงที่เอกมัย ช่วงเวลาประมาณ 14.46 น. และผ่านหน้าห้างสรรพสินค้าเกทเวย์เอกมัย ช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. แล้วขึ้นรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง มาส่งที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางรัก เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปรับตัว