จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่จากกรมราชทัณฑ์ยังคงไล่ล่าติดตามจับกุมตัว น.ช.รัชพล  หรืออาร์ต  นักโทษคดียาเสพติด ซึ่งหลบหนีการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่จากกรมราชทัณฑ์หลังเสร็จสิ้นการรับฟังคำพิพากษาของศาลจังหวัดขอนแก่น โดยอาศัยจังหวะช่วงที่จะเดินขึ้นรถของกรมราชทัณฑ์ได้ทำการปีนประตูรั้วด้านข้างศาลหลบหนีขึ้นรถจักรยานยนต์ของลูกน้องเครือข่ายยาเสพติดที่มารอรับหลบหนีไป ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

วันที่ 25 เม.ย. 2567 เวลา 16.30 น.ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่แกะรอยเส้นทางการหลบหนี ของ น.ช.อาร์ต โดยพบว่ามีกล้องวงจรปิดของบ้านเรือนและร้านค้าต่างๆ ริมถนนประชาสโมสร เขตเทศบาลนครขอนแก่น บันทึกภาพขณะที่ น.ช.อาร์ต  ซ้อนท้ายนายน็อต ลูกน้องเครือข่ายยาเสพติด ที่ขับรถจักรยานยนต์มาจอดรอและหลบหนีไป

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดนี้บันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ช่วงเวลา 17.11-17.13 น ของวันที่ 24 เม.ย. 2567 และมีบางจังหวะที่น.ช.อาร์ต พยายามจะถอดเสื้อ แต่เป็นไปอย่างยากลำบาก ไม่สามารถถอดได้ โดยที่กล้องอีกจุดบันทึกภาพจำเลยคดียาเสพติดรายนี้สวมเสื้อทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่นกลับคืนเหมือนเดิม ก่อนจะหลบหนีมุ่งหน้าไปถึงทางเลี่ยงเมืองเข้า บขส.3 ตามข้อมูลของนายน็อต ลูกน้องที่มารับนายอาร์ตไป แต่ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวก็ยังไม่ยืนยันว่านายน็อตพูดจริงหรือเป็นการลวงข้อมูลให้เจ้าหน้าที่สับสน เพื่อจะพาลูกพี่หลบหนี

เบื้องต้นสอบถามชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ที่ทราบว่า รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวขับไปอย่างรวดเร็ว และเกือบจะเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่บนท้องถนนหลายครั้ง ซึ่งช่วงที่เห็นพบว่าใส่เสื้อคล้ายนักโทษกระทั่งมาพบในข่าวว่าเป็นนักโทษจริงๆ 

ขณะที่เรือนจำกลางขอนแก่นได้ออกแถลงการณ์เหตุการณ์และแนวทางการดำเนินงานจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยระบุว่า เมื่อวันที่ 24 เม.ย.2567 เวลาประมาณ 17.00น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจศาลจังหวัดขอนแก่นนำตัวผู้ต้องหาใหม่ 10 ราย และผู้ต้องขังทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่นที่ออกศาล 13 ราย เพื่อขึ้นรถกลับไปคุมขังยังทสบ.ขอนแก่น ได้มี ข.ช.รัชพล คดียาเสพติดฯ (ยาบ้า)  วิ่งหลบหนีการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลและปีนประตูรั้วด้านข้างศาลหลบหนีขึ้นรถจักรยานยนต์ที่มารอรับ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เวรรับหมายศาลได้วิ่งตามจับกุมแต่ผู้ต้องขังได้ขึ้นจักรยานยนต์หลบหนีไปเสียก่อน สอบสวนเบื้องต้นพบว่า วันนี้ ข.ช.รัชพล เขียนนอก มาศาลเพื่อฟังคำตัดสินพิจารณาคดี โดยศาลได้พิพากษาโทษให้จำคุก 24 ปี 6 เดือน 10 วัน ทั้งนี้ ผู้ต้องขังดังกล่าวมีภูมิลำเนาอยู่บ้านศิลา ตำบลศิลา อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น

ภายหลังเกิดเหตุทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น และเรือนจำกลางขอนแก่นได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น จัดชุดเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมผู้ต้องขังดังกล่าว โดยกระจายกำลังไปยังตามจุดต่างๆ ที่คาดว่าผู้ต้องขังจะหลบหนี