วันที่ 25 เม.ย.67 เวลา 15.30น. พ.ต.ท.สุรศักดิ์ เรืองวิทย์ รอง ผกก.ป. สภ. สภ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเหตุชายคุ้มคลั่งยิงปืน ถือมีดจะไล่ฟันชาวบ้าน ในพื้นที่ ม.1 ต.ศรีประจันต์ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งที่เกิดเหตุพบชายไม่ใส่เสื้อลายสักเต็มตัวพูดโหวกเหวกโวยวายเสียงดัง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าควบคุมตัว
ทราบชื่อนายสำเริง อายุ 58 ปี และสามารถยึดอาวุธปืนลูกซองยาวพร้อมเครื่องกระสุน จำนวน5นัด ใช้ยิงไปแล้วจำนวน1นัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุพร้อมอาวุธปืนลูกซองมาดำเนินคดีที่ สภ. ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี
โดยนายสำเริง ผู้ก่อเหตุ รับว่าปกติตนเสพกัญชาทั้งวัน เพราะเสพไม่ผิดกฎหมาย ไม่โดนตำรวจจับ ก่อนเกิดเหตุที่ตนยิงปืน เพราะโมโหลูกชาย ทะเลาะกันเรื่องการเมือง เพราะตนว่านักโทษอะไร ตัดสินติดคุกแต่นอนโรงพยาบาล ตนเห็นว่าไม่ยุติธรรม ทำให้มีปากเสียงกัน ตนจึงยิงปืนในบ้าน ไม่ได้ไปยิงขึ้นฟ้า สำหรับตนถ้าสูบยาบ้า จะไม่ได้นอน ประสาทไม่ได้พักผ่อน กินข้าวไม่ได้ 4-5วันก็หลอน ทุกวันผมเสพกัญชา 6โมง 2 ทุ่ม กินข้าวนอนหลับปุ๋ย เคยโดนจับเรื่องกัญชามาหลายครั้ง ทั้งเสพ และค้าด้วย
จากการสอบถาม นางเอ ช่างทาสี ผู้ถูกก่อเหตุ เล่าว่าก่อนเกิดเหตุ เค้ายิงปืนหนูก็ตกใจอุทานด่าออกไป หนูก็ขอโทษเขาไป เค้าก็ตะโกนด่าหนู ซึ่งเค้าก็มาด่าเราก็เฉย ทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่เห็นเค้าเดินถือมีดถือปืนออกมา เดินตามพวกเราไปเราก็พยายามหนีแต่เค้าก็เดินตามไป ซึ่งเรามาเป็นลูกจ้างรับจ้างทาสี ไม่เคยมีเหตุทะเลาะอะไรกันมาก่อน ก็ไม่เคยรู้จักกับคนก่อเหตุมาก่อน ก่อนเกิดเหตุนายจ้างไปกรอกน้ำ ตนเลยโทรตามบอกให้รีบกลับมา ออกจากซอยไม่ได้แล้ว เพราะโดนบ้านตรงข้ามด่า
ซึ่งก่อนเกิดเหตุคนก่อเหตุยิงปืน ขึ้นฟ้าแล้วตนตกใจอุทานขึ้นมา แล้วใครเห็นเขาถือปืนคนก่อเหตุกเลย ตะโกนด่าว่าเราไปยุ่งอะไรกับเขา ซึ่งเราก็ไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับเขาเราบอกว่าฉันตกใจอุทานออกไป ถ้าผิดไปฉันขอโทษฉันไม่ได้ไปก้าวก่าย ฉันมาทำงานแต่เค้าไม่จบเราเห็นเขาพูดไม่รู้เรื่อง เราเดินหนีเค้าก็เดินตาม แอบไปหลบอยู่ในครัวไปหลบอยู่ในบ้านตายายเค้าก็เดินถือมีดถือปืนตามไปในป่า
ด้านลูกชายคนก่อเหตุ เล่าว่าก่อนเกิดเหตุ ตนทะเลาะกับพ่อเรื่องสีเสื้อ การเมือง พ่อจึง เอาปืนยิงลงคลอง แล้วเค้าตะโกนด่าผมจึงตะโกนถามมาด่าเราทำไม จากนั้นก็มีปากเสียง ตนนึกว่าเขาด่าพ่อตน จึงตะโกนด่า พ่อด้วยความโมโหจึงเดินไปหาเขา ตนเห็นบ้านนั้นมีหลายคนเลยเดินตามไปช่วยพ่อกลัวจะโดนรุม
ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา นายสำเริง ในข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ยิงปืนในเมืองหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมยึดของกลางปืนลูกซองยาวมีทะเบียน กระสุนเบอร์12จำนวน4นัด ปลอก1ปลอก เอาไว้เป็นหลักฐานดำเนินคดีต่อไป