ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยภายหลังการพบหารือกับ Mr. Patrick Yeung CEO และผู้บริหาร Hong Kong General Chamber of Commerce (HKGCC) เพื่อผลักดันนโยบายการค้าการลงทุน ตามนโยบายของรัฐบาล และนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี 

ผู้แทนการค้า กล่าวว่า ฮ่องกงมีคสวามสำคัญกับประเทศไทยด้านเศรษฐกิจ โดยในปี 2566 เป็นคู่ค้าอันดับที่ 13 และนักลงทุนอันดับที่ 7 ของไทย อีกทั้งไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวฮ่องกง นอกจากนี้ฮ่องกงยังเป็นศูนย์กลางการค้า เศรษฐกิจ และการเงิน ของภูมิภาคเอเชีย รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งในเขตเศรษฐกิจพิเศษอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า หรือ Greater Bay Area (GBA) นอกจากนี้ ฮ่องกงยังเป็นศูนย์กลางเงินหยวนนอกประเทศจีน เป็นประตูสำหรับจีนสู่โลกและโลกสู่จีนแผ่นดินใหญ่ นอกจากความเชื่อมโยงกับ Belt Road Initiative (BRI) ของจีนอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว ไทยพร้อมสนับสนุนด้านการค้าและเศรษฐกิจกับเขตเศรษฐกิจพิเศษ Greater Bay Area (GBA) จากการหารือ ได้มีข้อหารือและข้อตกลงร่วมกัน 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1. ทั้งสองฝ่ายพร้อมสนับสนุนไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทาน 2. การจัดกิจกรรมร่วมกันเพื่อส่งเสริมการลงทุนในกองทุนเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม(Green Investment Trust) ของไทย และ 3. สนับสนุนด้านการลงทุนและบุคลากรที่เชี่ยวชาญรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) ในไทย เช่น โครงการพัฒนา Digital Center

 

ผู้แทนการค้า กล่าวย้ำว่า ประเทศไทยเชื่อมโยงกับโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษ Greater Bay Area หรือ GBA ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจของจีน ฮ่องกงมีจุดเด่นด้านการเป็น Financial Center และมีนักธุรกิจที่มีศักยภาพในการลงทุน โดยทาง HKGCC  ได้แสดงความสนใจและสนับสนุนการลงทุนในภาคการเงินของไทย ทั้งนี้ HKGCC ได้เชิญชวนให้ไทยลงทุนธุรกิจด้าน Healthcare Management ในฮ่องกง เพราะไทยมีความเชี่ยวชาญด้านนี้ โดยฮ่องกงได้ประกาศ Free Medical Data Flow เพื่อส่งเสริมธุรกิจด้านการแพทย์ในเส้นทางของ GBA