"สนธิญา" แจงไม่มาศาล เหตุ “จดวันที่ผิด” เร่งเข้ารายงานตัวต่อศาลอาญา หลังถูกออกหมายจับฐานมีพฤติกรรมหลบหนีคดีหมิ่นประมาท ‘เสรีพิศุทธ์’ หวังศาลเมตตาให้กลับบ้าน

จากกรณีศาลออกหมายจับนาย สนธิญา สวัสดี คดีศาลอาญา หมายเลขดำที่ อ.1114/2564 หมายเลขแดงที่ อ.3136/2565 ระหว่าง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส โดย พล.ต.ท.จุตติ ธรรมมโนวานิช เป็นโจทก์ กับ นายสนธิญา สวัสดี จำเลย แต่ไม่มาศาล มีพฤติการณ์หลบหนี จึงให้ออกหมายจับจำเลยให้มาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2567 เวลา 09.30 น.

ล่าสุด วันนี้ (26 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ ศาลอาญา ถนนรัขดาภิเษก จับนาย สนธิญา สวัสดี จำเลยในคดีตามหมายจับ ได้เดินทางเข้ามารายงานตัวต่อศาลพร้อมให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า  คดีนี้ในชั้นต้นศาลพิพากษาไปแล้ว ปรับ 50,000 บาท จำคุก 8 เดือน ให้รอลงอาญา แต่โจทก์ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลเพื่อเพิ่มโทษ และตนเองก็ได้ยื่นอุทธรณ์กลับ แต่เนื่องจากจำวันผิด จึงอยากขอโทษคณะตุลาการ เพราะไม่มีประโยชน์ที่ตนเองจะหลบหนี วันนี้จึงมารายงานตัวต่อศาลเพื่อขอความเมตตา นายสนธิญาย้ำว่าไม่ได้ตั้งใจ และอ้างว่าตนเองจดวันที่ไว้ผิด พร้อมหวังว่า หลังจากเข้ารายงานตัววันนี้จะได้กลับบ้าน โดยในรายละเอียด คดีนี้เป็นคดีหมิ่นประมาท แต่ตนเองรับสารภาพตั้งแต่ศาลชั้นต้น ย้ำเจตนาว่าตนเองไม่มีความต้องการที่จะหนีเพราะตนเองเป็นผู้อุทธรณ์ 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้เจรจากับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ หรือไม่ นายสนธิญา กล่าวว่า ได้เจรจาผ่านทนายความมาโดยตลอด แต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็ยังใจแข็งอยู่ โดยเป็นเรื่องหมิ่นประมาทตั้งแต่ตนเองยังดำรงตำแหน่งที่ปรึกษากรรมาธิการการกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎร และย้ำว่าทุกเรื่องที่ตนเองดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมไม่ใช่เรื่องส่วนตัว เป็นเรื่องที่มาจากการทำงานในขณะนั้น แต่ในบางเรื่องก็ให้ประสบการณ์ตนเองว่า ต้องสู้บ้าง ส่วน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จะมีความเห็นอย่างไร มองว่าเป็นสิทธิส่วนตัวของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แต่ถ้าเลือกได้ในวันนี้จะเลือกสู้มากกว่า จะไม่ยอมรับสารภาพ แต่เมื่อคดีมาถึงวันนี้คาดว่าเรื่องน่าจะจบแล้ว เพราะมาวันนี้ตนเองมาขอความเมตตาในการพิจารณาจากศาลเพียงเท่านั้นเอง แต่ถ้าหากศาลพิพากษาให้จำคุก ก็ได้ทำใจมาแล้วตั้งแต่ในการทำงานเป็นกรรมาธิการการกฎหมาย ว่าต้องพร้อมที่จะเสียสละตนเอง เสียสละทุกอย่าง เพื่อให้ความจริงปรากฏ ดังนั้นการทำงานการเมืองไม่ใช่เรื่องสนุก แต่เป็นเรื่องที่ต้องรับผิดชอบ