ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามกลุ่มหรือบุคคลที่กระทำความผิดในทุกรูปแบบ ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยหลอกต่อเบี้ยประกันภัยรถให้กับลูกค้า แล้วหลบหนี พบมีหมายจับติดตัว 3 หมาย
เมื่อวันที่ 26 เม.ย.67 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.ฯ, พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ, พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี, พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ สั่งการให้ พ.ต.ท.พิทักษ์ ศรีกะแจะ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ พร้อม ชุดปฏิบัติการที่ 3 ดำเนินการเจ้าหน้าที่ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ สืบนครบาล จับกุม น.ส.สิรินทร์นภา หรือ น.ส.วิจิตรา อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ 108/2567 ลงวันที่ 27 มี.ค. 67 ข้อหา"ฉ้อโกง" ที่ หมู่ที่ 1 ต.ในเมือง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์
จากการตรวจสอบหมายจับในฐานระบบมีหมายจับกุมอีก2 หมาย ดังนี้ 1.หมายจับศาล จังหวัดนครปฐม ที่ 288/2566 ลงวันที่ 02 พฤศจิกายน 2566 ความผิดฐาน ”นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือ ประชาชน,ฉ้อโกง“ (สภ.สามพราน) 2.หมายจับศาล แขวงพัทยา ที่ 20/2567 ลงวันที่ 29 มดราคม 2567 ความผิดฐาน ”ฉ้อโกงทรัพย์“ (สภ.สัตหีบ)
พฤติการณ์ในความผิดทางคดีนี้: ในช่วงเดือนมกราคม 2566 ผู้ต้องหาได้รับการติดต่อจากลูกค้าที่เคยซื้อขายรถยนต์กัน ในสมัยปี2565 ที่เคยทำงานประจำ ทำให้ลูกค้าไว้ใจจากการที่ผู้ต้องหาเคยเป็นตัวแทนขายรถยนต์รวมถึงต่อประกันรถฯ ให้ลูกค้ารายดังกล่าว ทำให้ลูกค้ามั่นใจว่าเมื่อประกันรถยนต์ใกล้หมด ติดต่อมาเพื่อขอต่อประกันรถยนต์ โดยผู้ต้องหาอาศัยประสบการณ์ที่เคยเป็นฝ่ายขายฝ่ายตัวแทนประกัน รับปากและรับเงินโอนจากลูกค้าทันที โดยให้ผู้เสียหายโอนเข้ายังบัญชี นายบัญชา (สถานะ:พี่ชายผู้ต้องหา) โดยผู้เสียหายโอน 2ครั้ง ในวันที่ 25 มกราคม 2566 คือ 24,145 บาท และ จำนวน 5,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 29,145 บาท ต่อมาผู้เสียหายประกันรถยนต์ขาด จึงติดตีอสอบถามไปยังบริษัทรถยนต์ที่ตนเคยทำงานฯ ทราบภายหลังว่าตนไม่ได้เป็นพนักงานแล้ว และไม่ได้นำยอดเงินดังกล่าวไปต่อประกันให้ผู้เสียหาย ผู้เสียหายจึงแจ้งความดำเนินคดีกับตนภายหลังที่ไม่สามารถติดต่อตนได้
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ถือบัญชีดังกล่าวจริง โดยให้การว่า สมัยก่อนตนต่อประกันภายใน45วัน ตามสิทธิ์ที่ตนมีเครดิตเป็นตัวแทนขายฯจะได้รับความคุ้มครองทันที ที่ตนแจ้งต่อประกัน แต่ตนอาศัยว่า หากช่วง45วันนี้ ตนนำเงินมาส่งทันก็จะยังต่อประกันรถยนต์ให้ลูกค้าได้ ตนจึงนำเงินไปหมุนใช้ในชีวิตประจำวัน อีกทั้งยอมรับว่าติดการพนันออนไลน์หนักมาก ทำให้ไม่ทันฉุดคิดถึงผลร้ายแรงตามมา หากลูกค้าไม่ได้รับความคุ้มครองประกันรถยนต์ดังกล่าวจะเกิดโทษร้ายแรง ผู้ต้องหาให้การอีกว่า แรกเริ่มตนได้นำเงินไปส่งให้ยังบริษัทจริง ,ต่อประกันรถยนต์ให้ตามการพูดคุยปกติ แต่หลังๆ กลางปี2564เป็นต้นมา ตนเริ่มติดการพนันออนไลน์(บาคาร่า) จึงชักหน้าไม่ถึงหลัง จากเงินเดือน(รวมคอมมิชชั่น) ได้เดือนละ 5-7หมื่น มีรถ มีบ้านที่ตัองผ่อน ก็เริ่มทยอยขาย ตนรับสารภาพว่าติดการพนัน จึงพลาดหลงผิดกระทำสิ่งที่ผิดต่อลูกค้า โดยอาศัยความไว้วางใจที่ลูกค้าที่หัวหน้าได้ให้มา จากนั้นจึงเริ่มมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ในปี2565 เป็นต้นมา และที่เปลี่ยนชื่อ นามสกุล เพราะอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ อยากให้มีอะไรที่ดีๆขึ้น
จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป