วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ   เป็นประธานการประชุมบริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2567 ที่ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับ รอง ผบ.ตร., ผู้ช่วย ผบ.ตร., ผู้บัญชาการ และผู้บังคับการในสังกัดสำนักงาน ผบ.ตร. หรือตำแหน่งเทียบเท่า เข้าร่วมประชุม ส่วนผู้บัญชาการ และผู้บังคับการที่มีที่ตั้งภายนอกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ 

ก่อนเข้าสู่การประชุม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ ได้เป็นประธานพิธีมอบเกียรติบัตรและเข็มเชิดชูเกียรติแก่ข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี พ.ศ.2566 ให้แก่ข้าราชการตำรวจที่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกฯ จำนวน 4 ราย ได้แก่ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ประจำ (สบ 6) บช.ก. , พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม , พ.ต.ท.พินิจ อุ่มบางตลาด รอง ผกก.ฝ่ายกฎหมายและวินัย บก.อก.บช.สอท. และ พ.ต.ต.หญิง ชาตินา พลเยี่ยม นวท.(สบ 2) กคม.พฐก.สพฐ.ตร.

ในที่ประชุมฯ มีการรายงานผลการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในด้านต่างๆ ได้แก่ การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด การป้องกันและปราบปรามบ่อนการพนัน การปราบปรามสถานบริการ การป้องกันและปราบปรามเว็บไซต์พนันออนไลน์และอาชญากรรมออนไลน์ การป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ การแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการตำรวจ รวมถึงการขับเคลื่อนในการดูแลให้บริการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว และการแก้ไขปัญหากรณีชาวต่างชาติที่เข้ามากระทำผิดกฎหมายใน จ.ภูเก็ต เพื่อนำไปสู่การจัดทำ “ภูเก็ต โมเดล” 

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ  กล่าวว่าได้สั่งการในที่ประชุม โดยกำชับให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนการทำงานในด้านต่างๆ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และจะต้องประชาสัมพันธ์การทำงานและผลการปฏิบัติให้ประชาชนได้ทราบ , ให้ผู้บังคับบัญชาติดตามดูแลข้าราชการตำรวจที่บาดเจ็บหรือสูญเสียจากการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง รวมถึงดูแลความเป็นอยู่ของครอบครัวตำรวจให้มีคุณภาพชีวิตที่เหมาะสม และให้ผู้บังคับบัญชาทุกหน่วยติดตามควบคุมการดำเนินการทางวินัยของข้าราชการตำรวจด้วยความเป็นธรรม และให้เสร็จสิ้นโดยเร็วไม่ล่าช้า

พร้อมทั้งให้นำแนวทางในการเสริมสร้างและพัฒนาข้าราชการตำรวจมีวินัย และป้องกันมิให้ข้าราชการตำรวจกระทำผิดวินัยตามระเบียบ ก.ตร.ไปดำเนินการ และได้สั่งการให้ รอง ผบ.ตร. ที่ดูแลงานบริหาร และงานกฎหมายและคดี ร่วมพิจารณากำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหา กรณีพนักงานสอบสวนไม่สอดคล้องกับปริมาณงานหรือปริมาณคดีในแต่ละสถานีตำรวจ , สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 9 และสำนักงานส่งกำลังบำรุง พิจารณาจัดหาเครื่องมือพิเศษในการปฏิบัติหน้าที่งานสืบสวน งานรักษาความมั่นคง สำหรับชุดปฏิบัติการพิเศษและผู้ปฏิบัติในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานสูงสุด รวมทั้งให้ทุกหน่วยฝึกทบทวนยุทธวิธีในการปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่อง

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ  กล่าวว่าการตรวจสอบสืบสวนเกี่ยวกับชาวต่างชาติที่เข้ามาในราชอาณาจักรไทย  และมีพฤติกรรมในเรื่องของการกระทำผิดกฎหมาย นอมินี เป็นกลุ่มขบวนการหลอกลวง ทำร้ายร่างกาย ปล่อยเงินกู้ โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.ภูเก็ต นั้น ได้รับรายงานจากตำรวจภูธรภาค 8 เป็นระยะ ในเรื่องของการจับกุม ทั้งเรื่องของการตั้งบริษัทการทำธุรกิจผิดกฎหมาย ก็ถือว่ามีผลงานที่เดินหน้าไปได้มาก เป็นเรื่องสำคัญที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสนใจ และให้ความสำคัญมาก วันนี้ ที่ประชุมบริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้หารือเรื่องการขับเคลื่อนในการดูแลให้บริการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว และการแก้ไขปัญหากรณีชาวต่างชาติที่เข้ามากระทำผิดกฎหมายใน จ.ภูเก็ต เพื่อนำไปสู่การจัดทำ “ภูเก็ต โมเดล” ด้วย และตนได้กำชับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ว่า ในการปฏิบัติงานต้องบูรณาการหารือร่วมกับทุกภาคส่วนของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งทราบว่าผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้เชิญทูต กงสุล ทั้ง 12 ประเทศ มาหารือร่วมกันแล้ว ในการป้องกันแก้ไขปัญหาต่างๆ